Digiqole ad

ILMแกร่งกำไรQ4/63โตยอดออนไลน์-OEMทะยานต่อ

 ILMแกร่งกำไรQ4/63โตยอดออนไลน์-OEMทะยานต่อ
Social sharing

Digiqole ad

ILM โชว์ผลงานQ4/63 กำไรสุทธิ 143 ล้าน พลิกกลับมาเติบโตได้สำเร็จครั้งแรกหลังเกิด COVID-19 นับตั้งแต่ต้นปี 63 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แม้มีการระบาดของ COVID-19 ระลอกใหม่ ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ยอดออนไลน์พุ่งทะยาน ยอด OEM เติบโตโดดเด่น ขณะที่สภาพคล่องยังแกร่ง จ่ายคืนหนี้เงินกู้ระยะยาวอย่างต่อเนื่อง ผู้บริหารมั่นใจหลังประชาชนทยอยได้รับวัคซีนป้องกันความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น กำลังซื้อฟื้นตัว หนุนภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ให้กลับมาเติบโตได้ในปี64 พร้อมเสนอจ่ายเงินปันผลประจำปี 0.42 บาท ต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 23 เมษายน 2564 ทั้งได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้ว 0.15 บาท ต่อหุ้น คงเหลือที่ต้องจ่ายผู้ถือหุ้นอีก 0.27 บาทต่อหุ้น

นางสาวกฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ ILM ผู้นำธุรกิจร้านค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านครบวงจรในประเทศไทย เผยผลการดำเนินการไตรมาส 4/2563 ว่า แม้มีการระบาดของ COVID-19 ระลอกใหม่ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ส่งผลให้หน่วยงานภาครัฐประกาศมาตรการคุมเข้มเพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในหลายจังหวัด โดยการเติบโตของรายได้รวมอยู่ที่ 2,128 ล้านบาท แต่กำไรสุทธิสามารถเติบโตได้ มีกำไรสุทธิ 143 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 1.7% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยภาพรวมปี 2563 มีรายได้รวม 8,198 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 421 ล้านบาท

ช่วงไตรมาส 4/2563 มีอัตรากำไรขั้นต้นจากการขาย 45.4% ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 41.4% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน หลังดำเนินการปรับกลยุทธ์มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ควบคู่ไปกับการจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ขณะที่อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 6.7%ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 5.4% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน หลังบริษัทฯ เดินหน้าควบคุมค่าใช้จ่ายในทุกด้านได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง

นางสาวกฤษชนก กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ในช่วงสถานการณ์ที่ยังค่อนข้างยากลำบาก บริษัทฯ สามารถบริหารสภาพคล่องได้อย่างแข็งแกร่ง ชำระคืนเงินกู้ระยะยาวสถาบันการเงินนับจากต้นปีรวม 1,502 ล้านบาท ซึ่งเป็นการชำระคืนก่อนกำหนด 1,156 ล้านบาท โดยที่ผ่านมาสามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างต่อเนื่อง นับจากเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2562 และล่าสุด บริษัทฯ ประกาศจ่ายเงินปันผลสำหรับรอบผลประกอบการปี 2563 ในอัตราหุ้นละ 0.42 บาท โดยจะนำเสนอขออนุมัติต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 23 เมษายน 2564 ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้ว 0.15 บาท ต่อหุ้น คงเหลือที่ต้องจ่ายผู้ถือหุ้นเพิ่มอีก 0.27 บาทต่อหุ้น

สำหรับแนวโน้มปี 2564 บริษัทฯ เชื่อมั่นว่า หลังประชาชนทยอยได้รับวัคซีน COVID-19 รัฐบาลจะเริ่มเปิดประเทศรับชาวต่างชาติ ซึ่งจะช่วยหนุนให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัว ความมั่นใจของผู้บริโภคและกำลังซื้อจะเริ่มกลับมาดีขึ้น และเศรษฐกิจภายในประเทศจะสามารถฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้ยอดขายของสาขาพลิกกลับมาเติบโตได้ รวมถึงช่องทางออนไลน์ที่จะยังเป็นหนึ่งในกำลังหลักในการผลักดันการเติบโตของยอดขาย และยอด OEM ที่มีแนวโน้มสดใสจะยังคงเติบโตได้สูงในปีนี้ หลังบริษัทฯ ได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น เนื่องจากอานิสงส์ของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน

ซึ่งจะช่วยสนับสนุนยอดขายของบริษัทฯ ให้สามารถกลับมาเติบโตได้อย่างมั่นคง ในขณะที่บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับสูงต่อไป รวมถึงควบคุมค่าใช้จ่ายในทุกด้านอย่างมีประสิทธิภาพ และบริหารจัดการปริมาณสินค้าคงเหลือให้อยู่ในระดับต่ำอย่างเหมาะสม ซึ่งจะช่วยหนุนผลประกอบการของบริษัทฯ ให้กลับไปอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงก่อนเกิดสถานการณ์ COVID-19 ได้ นางสาวกฤษชนกกล่าว

Facebook Comments


Social sharing

Related post