Digiqole ad

โฮมโปรปั๊มกำไรกว่า 1.3พันล้านเพิ่มขึ้น7.58%

 โฮมโปรปั๊มกำไรกว่า 1.3พันล้านเพิ่มขึ้น7.58%
Social sharing
Digiqole ad

โฮมโปรกวาดรายได้ 15,832.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 505.27 ล้านบาท หรือ 3.30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ปั๊มกำไร 1,362.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 95.95 ล้านบาท หรือ 7.58% แม้เจอสถานการณ์โควิด ชี้รายได้จากการขายสินค้า และรายได้จากการให้บริการลูกค้า (Home Service) และรายได้จากช่องทางออนไลน์ยังคงเติบโตได้ดี

นางสาววรรณี จันทามงคล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ โฮมโปร แจ้งผลดำเนินงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ สำหรับไตรมาส 1/2564 เท่ากับ 1,362.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 95.95 ล้านบาท หรือ 7.58% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้รวมจำนวน 15,832.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 505.27 ล้านบาท หรือ 3.30%

ซึ่งประกอบไปด้วยรายได้จากสัญญาที่ทำกับลูกค้า ซึ่งประกอบไปด้วยรายได้จากการขายสินค้า และรายได้จากการให้บริการลูกค้า (Home Service) รวมจำนวน 15,052.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 506.82 ล้านบาท หรือ 3.48% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งการเพิ่มขึ้นดังกล่าวส่วนหนึ่งเป็นผลจากเดือนมีนาคม 2563 ได้มีการปิดทำการสาขาช่วงการแพร่ระบาดในรอบแรกของ COVID-19

ขณะที่ปี 2564 สาขาสามารถเปิดทำการได้ตามปกติ ประกอบกับยอดขายของสาขามีการปรับตัวที่ดีขึ้นในหลายภูมิภาค ยกเว้นในจังหวัดที่พึ่งพาการท่องเที่ยวซึ่งยังคงได้รับผลกระทบ เนื่องจากการแพร่ระบาดโควิด สำหรับรายได้จากช่องทางออนไลน์ยังคงเติบโตได้ดี

ด้านกำไรขั้นต้นจากการขายสินค้าและการให้บริการลูกค้า (Home Service) รวมจำนวน 3,873.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 134.02 ล้านบาท หรือ 3.58% เมื่อเทียบกับปีก่อน สำหรับอัตรากำไรขั้นต้นต่อยอดขายเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 25.71% ในปีก่อน มาอยู่ที่ 25.73% ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงส่วนผสมของกลุ่มสินค้าขายในกลุ่มของสินค้าที่มีอัตรากำไรเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี ณ สิ้นไตรมาสที่ 1/2564 บริษัทมีโฮมโปร 86 สาขา โฮมโปรเอส 9 สาขา เมกาโฮม 14 สาขา และโฮมโปรในประเทศมาเลเซียอีก 6 สาขา

นางสาววรรณี กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้มีกระบวนการรองรับความต้องการของลูกค้าทั้งในสาขาที่ปิด และสาขาที่ไม่ได้รับผลกระทบ โดยบริษัทฯ มีช่องทางการขายผ่านช่องทางแอปพลิเคชั่น HomePro Application และ Home Service Application พร้อมทั้งเพิ่มรูปแบบการให้บริการเพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายมากขึ้น เช่น การให้บริการ Shop4U ที่เสมือนมีผู้ช่วยในการเลือกซื้อสินค้าและบริการในช่วงที่ลูกค้าไม่สามารถออกมาซื้อที่สาขาได้ พร้อมบริการขนส่งสินค้าภายในวันที่มีการสั่งซื้อ (Same Day Delivery) หรือจะเลือกมารับสินค้าที่สาขา (Click and Collect) ก็ได้เช่นกัน ซึ่งกระบวนการดังกล่าวได้ช่วยรองรับกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นหลังสถานการณ์ฯเริ่มคลี่คลายในช่วงเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม จึงทำให้ยอดขายสาขาเดิมทั้งธุรกิจโฮมโปรและเมกาโฮมในพื้นที่ต่าง ๆ ฟื้นตัวได้ดีขึ้นตามลำดับ

Facebook Comments

Related post