Digiqole ad

“สุริยะ” เร่งหารือ “ลดค่าทางด่วน สายงามวงศ์วาน – พระราม 9” เหลือ 50 บาท ตลอดสาย คาดเริ่มใช้ได้ เดือน ส.ค. 67 แบ่งเบาค่าใช้จ่ายประชาชน

 “สุริยะ” เร่งหารือ “ลดค่าทางด่วน สายงามวงศ์วาน – พระราม 9” เหลือ 50 บาท ตลอดสาย คาดเริ่มใช้ได้ เดือน ส.ค. 67 แบ่งเบาค่าใช้จ่ายประชาชน
Social sharing

Digiqole ad
“สุริยะ” เร่งหารือ “ลดค่าทางด่วน สายงามวงศ์วาน – พระราม 9” เหลือ 50 บาท ตลอดสาย คาดเริ่มใช้ได้ เดือน ส.ค. 67 แบ่งเบาค่าใช้จ่ายประชาชน
.
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตามที่ในการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและติดตามผลการดำเนินโครงการสำคัญตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ได้มอบหมายให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) และสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ไปร่วมกันพิจารณาแก้ไขปัญหาจราจรติดขัดบนทางพิเศษ (ทางด่วน) ในพื้นที่ชั้นในกรุงเทพมหานคร (กทม.) รวมถึงการปรับปรุงระบบค่าผ่านทาง เพื่อลดค่าใช้จ่ายให้ประชาชนนั้น
.
กทพ. ได้รายงานว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือร่วมกับ สนข. และบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ในฐานะผู้รับสัญญาสัมปทานบริหารทางด่วน ในการพิจารณาปรับโครงสร้างลดอัตราค่าผ่านทางฯ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในการใช้ทางด่วนให้กับประชาชน ซึ่งในระยะแรกจะเริ่มดำเนินการใช้กับทางด่วนขั้นที่ 2 สายงามวงศ์วาน – พระราม 9 ระยะทางประมาณ 17 กิโลเมตร (กม.)
.
นายสุริยะ กล่าวต่อว่า สำหรับอัตราค่าผ่านทางใหม่ที่มีการปรับลดลงนั้น เริ่มต้นที่ 25 บาท และสูงสุดไม่เกิน 50 บาท จากในปัจจุบันมีอัตราอยู่ที่ 25 – 90 บาท กล่าวคือ จะมีการยกเลิกด่านประชาชื่น (ขาออก) และด่านอโศก (ขาออก) ซึ่งมีปริมาณรถหนาแน่น ซึ่งจากเดิมมีค่าผ่านทาง 25 บาท ทำให้เหลือ 0 บาท ส่วนด่านประชาชื่น (ขาเข้า) เดิมมีค่าผ่านทาง 65 บาท เหลือ 50 บาท ขณะที่ ด่านอโศก (ขาเข้า) เดิมมีค่าผ่านทาง 50 บาท เหลือ 25 บาท และด่านศรีนครินทร์ (ขาเข้า) จ่ายเงินทางขึ้น 25 บาท อย่างไรก็ตาม คาดว่า จะหารือและได้ข้อสรุปภายใน 2 เดือน ก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการขั้นตอนอื่น ๆ ต่อไป
.
ทั้งนี้ ในการปรับลดค่าผ่านทางดังกล่าว จะทำให้รายได้ของผู้รับสัมปทานลดลง ดังนั้น จากการหารือในเบื้องต้น กทพ. มีแนวทางขยายสัญญาสัมปทานให้กับ BEM ระบบทางด่วนขั้นที่ 1 และขั้นที่ 2 ที่จะสิ้นสุดสัญญาในวันที่ 30 ตุลาคม 2578 พร้อมกับการพิจารณาแบ่งสัดส่วนรายได้ โดย กทพ. จะมีรายได้ลดลง เพื่อนำไปชดเชยให้กับผู้รับสัมปทานในการลดค่าผ่านทาง จากเดิม กทพ. มีสัดส่วน 60% ผู้รับสัมปทาน 40% ขณะเดียวกัน BEM จะต้องรับภาระในการลงทุนก่อสร้างโครงการทางพิเศษยกระดับชั้นที่ 2 สายงามวงศ์วาน-พระราม 9 (Double Deck) อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า การปรับลดค่าผ่านทางในครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก
.
“กระทรวงคมนาคม มีเรื่องใหญ่ที่อยากจะทำให้เห็นผลโดยเร็ว คือ การแก้ไขปัญหาค่าทางด่วนแพง เพราะตอนนี้ มีประชานที่ใช้ทางด่วนช่วงยาว มีระยะทางไกล ต้องจ่ายแพงถึง 100 กว่าบาท ผมเลยให้ กทพ. และ สนข. ไปหารือกับเอกชน เพื่อลดค่าทางด่วน ให้เหลือสูงสุดไม่เกิน 50 บาท หรือ 50 บาทตลอดสาย เพื่อเป็นการลดภาระค่าใช้ทางด่วนให้กับประชาชน” นายสุริยะ กล่าว
.
นายสุริยะ กล่าวอีกว่า ส่วนขั้นตอนหลังจากนี้ เมื่อ กทพ. หารือร่วมกับ สนข. และ BEM จนได้ข้อสรุปภายใน 2 เดือนนับจากนี้ กทพ. จะเสนอเรื่องให้คณะกรรมการ (บอร์ด) กทพ. พิจารณาเห็นชอบแนวทางการปรับลดค่าผ่านทาง รวมทั้งการขยายสัญญาสัมปทาน, การปรับสัดส่วนรายได้ และ BEM เป็นผู้ลงทุนโครงการ Double Deck ก่อนจะเสนอไปยังคณะกรรมการ มาตรา 43 ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ.2562 พิจารณาเห็นชอบรายละเอียดการแก้ไขสัญญาฯ
.
เมื่อผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการมาตรา 43 แล้วจะส่งร่างสัญญา ที่มีการปรับแก้ไขแล้วต่อไปยังสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อตรวจร่างสัญญา จากนั้นจะเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมพิจารณาเห็นชอบการแก้ไขสัญญา และเสนอไปยังคณะกรรมการร่วมทุนรัฐและเอกชน (PPP) เห็นชอบ ก่อนเสนอไปคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบในเดือนสิงหาคม 2567 หากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ประชาชนทราบต่อไป
.
นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมยังได้มีนโยบายให้ส่งเสริมให้มีการใช้งานบัตร Easy Pass เพิ่มมากขึ้น โดยสั่งการให้ กทพ. เพิ่มช่องทางการจำหน่าย และการเติมเงิน Easy Pass ให้สะดวกขึ้น อาทิ การจำหน่ายผ่านร้านสะดวกซื้อ ขณะเดียวกัน จะมีการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้ Easy Pass ให้ได้รับความสะดวกสบายและรวดเร็วในการเดินทาง โดยการยกไม้กั้นออก และจะมีการเพิ่มช่อง Easy pass มากขึ้น
ที่มา : เพจพรรคเพื่อไทย
Facebook Comments


Social sharing

Related post