Digiqole ad

พลีชีพมีแต่เละ คอลัมน์ กะพรุนไฟ

 พลีชีพมีแต่เละ คอลัมน์ กะพรุนไฟ
Social sharing

Digiqole ad

ออกมา “เกกันเต็มปอด” ด้วยการออกมา “พลีชีพด้วยตัวเอง”

ไม่สงานลีลา-ท่าที “ใช้สงครามตัวแทน” กันอีกแล้ว..

“เดอะโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ “ดับเครื่องชน” ด้วยตัวเองเต็มคาราเบล

เจอรายการ “เละเป็นโจ๊ก” ไปทั้งบางเลยจะบอกให้ ไม่ว่าจะเป็น “นายกฯเศรษฐา ทวีสิน” โดน “๑๕๗” เข้าไปอย่างเต็มรัก
ที่แต่งตั้ง “บิ๊กต่อ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล” มือปราบสายธรรมะ ขึ้นมาเป็น “ผบ.ตร.” แบบข้ามห้วย-มีคนช่วยดันหลัง

“พล.ต.อ.กิตต์รัฐ พันธุ์เพชร” รักษาการแทน ผบ.ตร. ก็รับแรงสั่นสะเทือน เข้าไป “๖.๔ ริกเตอร์” โดนเข้ไปอย่างแรงทีเดียว

รวม “บิ๊ก ปปช.” ที่เคย “มองหน้าก็รู้ใจ” ยังมา “แตกหัก” เป็น “น้ำกับน้ำมัน” ที่เข้ากันไม่ได้เสียอีก

เมื่อ “ซุเปอร์โจ๊ก” ออกมาถลก-ดึงให้ตกนรก กันอย่างทันที-ทันควัน

เพราะ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” เหมือนเป็นผู้ที่ “เชื่อมจิต” นำพา “บิ๊ก ปปช.” ที่ไม่เข้าเกณฑ์ ตามข้อกำหนดที่จะปราบทุจริตได้

ขอเข้าไปฝากเนื้อ-ฝากตัว ให้อยู่ในความดูแลของผู้ใหญ่ เป็นการขอเข้าไปฝากตัว เพื่อรับใช้ทุกอย่าง ให้ครบทุกประการ

การออกมาแฉ-ตีแผ่ ครั้งนี้ เหมือนกับ “เด็ดดอกไม้ แต่สะเทือนซาง ไปถึงผู้ใหญ่” อย่างจั๋งหนับชนิดที่รุนแรง

จน “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” หัวหน้าพลังประชารัฐ อดีต รองนายกรัฐมนตรี ที่พยายามไม่เกี่ยวดองหนองยุ่งกับ ปปช.

ต้องกระโจนข้ามรั้ว ออกทันที “บิ๊กป้อม” ยืนยันว่า “ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว กับบิ๊ก ปปช.” ที่ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พาดพิงถึง

เรียกว่า “นอนหลับไม่รู้-นอนคู้ไม่เห็น” ไม่รู้คุณโหน่-คุณเหน่ แต่ก็โดนลูกหลง เข้าเต็มหน้า

“บิ๊กป้อม” ท่านบ่ายเบี่ยง-เลี่ยงตัวเอง ไม่ให้มี “ดีเอ็นเอ” เป็นพวกเดียวกับ “ปปช.” เสมอมา

ถึง “พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ” ประธาน ปปช. จะเป็น “กากี่นั้ง” คนกันเอง-พวกเดียวกัน ก็ตามทีเหอะ

อดีตเก่า-สมัยก่อน ถึง “พล.ต.อ.วัชรพล” เคยเป็น “เลขาฯหน้าห้อง” ของ “พล.อ.ประวิตร” มาก็จริงอยู่นะท่านผู้ฟัง

แต่เขาไต่บันได “อำนาจ-วาสนา” ขึ้นมาเป็น “ประธาน ปปช.” ด้วยเนื้องาน และ ผลงาน ของตัวเองทั้งสิ้น

ไม่ได้เป็น “เด็กฝาก” ที่อยู่ใน “คอนโทรล” สั่งการ ของ “บิ๊กป้อม” เลยนะพ่อคุณ

การสู้อย่างยอมตาย ของ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” เป็นเหมือนกับ “คามิกาเซะ” ซึ่งเรียกเป็นทางการว่า “กองกำลังจู่โจมพิเศษ”

มีความหมายว่า “ลมสวรรค์” หรือ “ลมแห่งเทวะ”

แต่ใน “ภาษาญี่ปุ่น” สรรเสริญ “คามิกาเซะ” เป็น “ลมสลาตัน” ฝูงบินทางอากาศ ที่ไว้ปราบศัตรูของชาวอาทิตย์อุทัย

ซึ่งต่างไปจากภาษาอังกฤษ ชาวตะวันตกนำคำนี้มาใช้ เรียกว่า”การโจมตีแบบพลีชีพ”

เป็นปรากฏการณ์ในอดีต เขาเรียกพวกนี้ว่า “อากาศยานพลีชีพสู้เพื่อตาย” ในสงครามโลกครั้งที่ ๒

ซึ่ง “บรรทุกระเบิด” และ “พุ่งเข้าชนเรือ”..

ถึง “ญี่ปุ่น” ใช้ยุทธ์วิถีนี้ ในช่วงที่กองทัพญี่ปุ่นบุก “ฟิลิปปินส์” ในปี ค.ศ.๑๙๔๔

มีเป้าหมายในการ “หยุดยั้ง” การบุกของ “กองทัพเรือฝ่ายสัมพันธมิตร” และที่เมืองโอกินาวะ
ตายพลีชีพกันไปหลายพัน-หลายหมื่นชีวิต แต่ญี่ปุ่น ยัง “แพ้สงครามโลกครั้งที่ ๒” อยู่ดี
น่าเป็นบทเรียก ว่า “การชนแหลก ชนจนหัวแตกก็ไม่เคยจะบ่น” ของ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” ที่ไม่เคยกลัวใครนั้น

ดูแล้วไม่น่าจะเป็นผลดี เพราะ “สร้างศัตรูคราวเดียว” มาแบบยกโขยง

“ข้อห้าม” ของ “ผู้มีปัญญา” จะไม่เปิดศึกหลายด้านด้วยกัน
ยิ่งการดึง “บิ๊กป้อม” เข้ามาเกี่ยวข้อง..ทำให้ “โอกาสทองเป็นนายกฯ” หล่นหายวับไปทันตา

ทำแล้วมีแต่ “ผลเสีย”..เห็นแล้วให้ “เพลียหัวใจ” จริง ๆ เลยพับผ่า

  • การบูร

 

Facebook Comments


Social sharing

Related post