Digiqole ad

คิดให้เป็น-บ้างได้ไหม คอลัมน์ กะพรุนไฟ

 คิดให้เป็น-บ้างได้ไหม คอลัมน์ กะพรุนไฟ
Social sharing

Digiqole ad

ไม่คิดร่วมเดินทาง “เส้นทางสายไหม” ไปพาความสำเร็จ ข้างหน้าด้วยกัน

เมื่อไม่มาร่วม “สังฆกรรม” เพื่อ “สวดพระปาติโมกซ์” ให้หลุดพ้น จาก “การเมืองที่ป่วนสนิท-เศรษฐกิจ ที่ติดขัด”

การออกมา “แทงข้างหลัง” เพื่อแสดงตน เป็น “พระเอกนอกจอ” มันไม่ใช่เรื่อง “แห่งความสง่างาม”

เรื่อง “แก้ไขรัฐธรรมนูญ” เขาเปิด “เก้าอี้” ให้ “พรรคก้าวไกล” เข้ามาแสดงทัศนะคติได้ เต็มลูกสูบ

แต่ “พรรคคนรุ่นใหม่” กับ “ลอยแพ” ทิ้งประโยชน์ของฝ่ายประชาธิปไตย ให้ตกน้ำ-ตกท่า ไปอย่างน่าเสียดาย

โดนที่ตัวเอง ได้สละสิทธิ์ เข้ามามีส่วน “เอี่ยว” เป็น ๑ ใน “คณะกรรมการแก้ไขรัฐธรรมนูญ” ที่เขาเปิดไฟเขียวให้เต็มที่

พอ “รัฐบาลเศรษฐา” มีมติ ครม. เพื่อเดินหน้าออกเสียง “ประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ”

แบบมีเงื่อนไข ที่ทำให้ “พรรคก้าวไกล” ไม่เอนจอย-สิต๋อยจ้า”

ด้วยการระบุ เจาะจง เป็นการเฉพาะตัว..

โดยห้ามเด็ดขาด อย่าได้ไป “แตะหมวด ๑ และ หมวด ๒” อันมีเรื่อง “๑๑๒” เป็นปัจจัยสำมะคัญ

การออกมาเซ็ท-เสร็จสรรพกันเช่นนี้ “ก้าวไกล” จึงถูกมัดมือชก ไม่อาจรื้อ “โครงสร้างใหญ่” ที่ตัวเองปรารถนาเอาไว้

เมื่อไม่มีการ “แตะ ๑๑๒” ก้าวไกลก็ต้อง “คว้าลม-คว้าอากาศ” เสียฟิวส์-หน้านิ่ว ไปสิคุณเจ้าเอ๋ย

เหมือนกับ “เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ” ผู้ว่าฯธนาคารแห่งประเทศไทย ที่เขาให้เข้ามารับจ๊อบ หารือเงินดิจิตอลวอลเล็ต

ก้อ “เล่นองค์ ยักสายไม่มาร่วมประชุม “คณะกรรมการชุดใหญ่ดิจิตอลวอลเล็ต แจกเงินประชาชนคนละ ๑๐,๐๐๐ บาท”

โดย “นายเศรษฐพุฒิ” กับออก “เอกสารลับ” เพื่อคัดค้าน “ดิจิตอลวอลเล็ต” ให้ “นายกฯเศรษฐา” เสียหายอย่างแรง

ถ้าจะ “ขวางอย่างหัวชนฝา” ควรจะออกมา “เปิดหน้าสู้” ไม่ใช่เป็น “ตุ๊ดตู่” รูในถ้ำเช่นนี้

ถ้ามี “ความกล้าหาญจริง” ที่จะหักรัฐบาล ก็ควรจะทำกันซึ่ง ๆหน้า ไม่ใช่ “แอบหลัง” ไม่มาประชุมถึง ๒ ไฟท์ด้วยกัน

ทำตัวลักปิด-ลักเปิด ออกหนังสือลับของ “ธปท.” เพื่อ “ขวางโครงการเติมเงิน ดิจิตอลวอลเล็ท ๑๐,๐๐๐ บาท” เต็มที่

ทั้งที่ “รัฐบาลเศรษฐา” เปิดกว้าง ให้แสดงการ “หักเหลี่ยม-หักมุม” ได้ทุกประการ แต่ก็ไม่ทำ

มาออกเอกสารลับเป็นตุ-เป็นตะ ว่า “จะเกิดการกระทบ ภาร ะการคลังระยะยาว” ไม่รู้ท่านเอาอะไรมาอ้างเพื่อสร้างมโน

ท่านดู “แค่การเงิน” แต่ใช้มือยาวเหมือนเป็น “ผีแม่นาก” เข้ามา “ล้วงลูก” ทำให้ “รัฐบาลเศรษฐา” เสียหายโดยใช่เหตุ

และ “ธปท.” หวั่นว่าโครงการใช้เงินมาก อาจเพิ่มความเสี่ยงไทยถูกปรับลดอันดับ ความน่าเชื่อถือ

เพราะว่ามี “งบประมาณตุนไว้ไม่เพียงพอ รองรับภาวะฉุกเฉิน”

“เงินดิจิตอลฯ” ต้องมางบประมาณรองรับเต็มจำนวน มีแหล่งที่มาของเงิน ที่เจาะจงชัดเจน ในวันเริ่มโครงการ

ที่สำคัญ “ควรแจกให้กลุ่มเฉพาะ” ทำโครงการที่เห็นผลคุ้มค่า

เช่น “เรียนฟรี สร้างรถไฟ” พร้อมกับแนะใช้ “พร้อมเพย์” ลดความซ้ำซ้อน ลดต้นทุน พัฒนาระบบ

เท่าที่ “โครงการคนละครึ่ง” สมัย “รัฐบาลประยุทธ์” แจกให้กับ “กลุ่มคนจน ๑๕ ล้านคน” เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมาบ้าง

เหมือนเอา “เงินไปถมทะเล” ไม่ได้ “สร้างเศรษฐกิจที่ดีขึ้นมาเลย”

การ “แจกเฉพาะกลุ่ม” แค่ “๑๕ ล้านคน” ไม่สามารถขับเคลื่อน-เขยื้อน “เม็ดเงิน” ผลักดันเศรษฐกิจ ให้โงหัวขึ้นมาได้

เขาจึง “แจกอย่างมโหฬาร” ไห้กับ “คนไทย ๕๐ ล้านคน” ใช้เงิน ๕๐๐,๐๐๐ ล้านบาท ให้เศรษฐกิจขยับ-ปรับตัวขึ้นทันควัน

การให้ใช้ “ระบบพร้อมเพย์” เหมือนเปย์ส่วนตัวไปเข้า “ธนาคารพาณิชย์” ซึ่งป้องกัน “การทุจริต” ไม่ได้เลย

ระบบใหม่ “แอปฯทางรัฐ” เขาคิดทำวงจร “สมาร์ทโฟน” ครบทุกทิศ-ทิศทาง

ที่สำคัญ “ป้องกัน-การทุจริตได้ทุกรูปแบบ”

สิ่งดีๆ อย่างนี้ เหนือกว่า “พร้อมเพย์” ที่ “เศรษฐพุฒิ” เชียร์เป็นร้อยเท่า
เขาคิดแอปฯ “ทางรัฐ” ป้องกัน “การทุจริต” คิดให้เป็นเสียบ้าง จะดีไม่ใช่ได้

  • การบูร
Facebook Comments


Social sharing

Related post