Digiqole ad

Digital Delicious ชวนสัมผัสประสบการณ์ ดินเนอร์ พร้อมท่องโลก “ดิจิทัล”

 Digital Delicious ชวนสัมผัสประสบการณ์ ดินเนอร์ พร้อมท่องโลก “ดิจิทัล”
Social sharing

Digiqole ad

 

Digital Delicious @ Sheraton Grande Sukhumvit ชวนสัมผัสประสบการณ์ ดินเนอร์สุดตระการตา ท่องไปกับโลก “ดิจิทัล”

เป็นอะไรที่สุดว้าว! มาก กับประสบการณ์ในรูปแบบใหม่ ของการมานั่งรับประทานอาหารที่ Digital Delicious ร้านอาหารแนวใหม่ ที่บอกเลยว่า ไม่ธรรมดาจริงๆ เพราะเป็นการจับมือกันระหว่าง โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ สุขุมวิท, เอ ลักซ์ชัวรี่ คอลเล็คชั่น โฮเท็ล และ ดูซี่ ดิจิแล็บ (Doozy Digilab) บริษัทผู้นำด้านดิจิทัลอาร์ต มาร่วมสร้างประสบการณ์การรับประทาอนหารไฟน์ไดนิง กับ ความเป็น ดิจิทัลอาร์ต ที่นอกจากจะสัมผัสกับรสชาติของอาหารที่เลิศรสแล้ว ยังมาพร้อมภาพ แสง สี เสียง แบบ 4D ที่มาช่วยเพิ่มอรรถรสของอาหาร ไปพร้อมกับความตื่นตาตื่นใจ ตลอดช่วงเวลาการดินเนอร์ เป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมงครึ่ง

โดยทาง Digital Delicious เปิดให้บริการทั้ง อาหารมื้อกลางวัน ชุดน้ำชายามบ่าย และ อาหารมื้อค่ำ ที่เชื่อว่า หากใครได้มาสัมผัสแล้ว จะต้องประทับใจแน่นอน ซึ่งครั้งนี้ ทางแอดมิน ก็มีโอกาสได้เข้ามาสัมผัสกับประสบการณ์ครั้งนี้ กับอาหารมื้อค่ำ รอบแรกเวลา 19.00 น.

มาถึงที่ร้านปุ๊บ ก็ได้รบการต้อนรับอย่างอบอุ่น จากพี่ๆ ที่ห้องอาหาร โดยก่อนที่จะเข้าไปรับประทานอาหาร ทางร้านก็มีอะไรให้เล่นกันนิดหน่อย ด้วยการถ่ายภาพ กับตู้ถ่ายภาพ ที่ได้ทั้งรูปที่เป็นแผ่นกระดาษ และสามารถสแกนเอามาเก็บไว้ในโทรศัพท์ได้ด้วย

พอถึงเวลาทางพี่ๆ ในร้านก็ออกมาเชื้อเชิญ ให้ทุกคน ที่จองดินเนอร์มื้อค่ำ เข้าไปภายในห้อง ที่เปิดไฟสลัวๆ แล้วนั่งประจำที่ บนโต๊ะอาหารตัวยาว ซึ่งไม่ใช่โต๊ะอาหารธรรมดาๆ แต่อาจเรียกว่า เป็น โต๊ะอาหารอัจฉริยะ ที่สามารถสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้รับประทานอาหารได้ด้วย เพราะนอกจากจะ แสดงชื่อของผู้สำรองโต๊ะได้แล้ว หากนำมือไปสัมผัสกับผิวหน้าโต๊ะ หรือลูบ ก็จะเกิดเป็นแสงสี ตามรอยนิ้ว หรือ รอยมือ เสมือนเป็น “เวทมนตร์” ที่ทำให้รู้สึกตื่นตาตื่นใจ ก่อนรับประทานอาหาร

นั่งเล่นอยู่บนโต๊ะสักครู่ แสงไฟในห้องก็ถูกปิด พร้อมๆ กับภาพภายในห้องที่เปลี่ยนไป เสมือนเรากำลังนั่งอยู่ในมหาราชวังอันโอ่อ่า ท่ามกลางเสียงบรรยายเป็นภาษาอังกฤษ พร้อมๆ กับการเสิร์ฟอาหารจานแรก ในชื่อ “Flower Of Life” เป็นเมนูที่มีอยู่ด้วยกัน 3 ชิ้น คือ “บีทรูททอดกับแป้งฟิลโลฝอย” สอดไส้เนื้อกั้งแล้วโรยด้วยบรูด้าครีมมี่ และ ส้มยูซุ รสเปรี้ยวอมหวาน จากนั้น เป็นเนื้อปูม้า กับโฟมไข่เค็ม ท็อปปิ้งด้วย คาร์เวียร์ โดยเสิร์ฟมาในเปลือกไข่ไก่ และ อีกชิ้นคือ “อารันซินี กับชีสมอสซาเรลล่า และเห็ดทรัฟเฟิลดำ” หอมกลิ่นทรัฟเฟิลอ่อนๆ ถือเป็น เมนูเรียกน้ำย่อยได้ดี

หลังจากที่รับประทานเมนูแรกเสร็จ ภาพภายในห้อง ก็เริ่มเปลี่ยนเป็นทุ่งดอกไม้สีสวย ซึ่งไม่ใช่แค่ผนังกำแพงห้อง เท่านั้น แต่ที่โต๊ะอาหาร ก็มีภาพดอกไม้หลากสีสันแข่งกันเบ่งบานอวดความสวยงาม และหากนำมือไปสัมผัสบนโต๊ะ ดอกไม้ ก็จะพากันหุบ เป็นอีกหนึ่งกิมมิกของความสนุกสนาน ขณะเดียวกัน เมนูที่สองที่ชื่อ Hidden Treasure ก็ถูกเสิร์ฟตามมา พร้อมกับการฉายภาพลงบนเมนู ที่ทำให้รู้สึกถึง ขุมทรัพย์อันแสนอร่อย กำลังถูกวางอยู่ตรงหน้า โดยมีผีเสื้อตัวน้อยๆ บินวนอยู่ในจานด้วย ซึ่งเมนูนี้ เป็นเนื้ออกเป็ดนุ่มๆ ที่ไม่มีกลิ่นสาป แร่เป็นชิ้นพอเหมาะ รับประทานคู่กับเห็ด และซอสราสเบอรี่ เสิร์ฟพร้อมน้ำซุปใส “คอนซอมเม่เห็ด” รสชาติกลมกล่อมสุดๆ

จากนั้น ห้องทั้งห้องก็ถูกพาดำดิ่งลงไปสู่ไต้ทะเลลึก กลุ่มแมงกะพรุน และสัตว์ทะเล ต่างแวกว่าย ไปทั่ว รวมถึงที่โต๊ะอาหารด้วย ซึ่งนั่นทำให้รู้ว่า เมนูต่อไปที่ถูกเสิร์ฟตามมาน่าจะเป็นอาหารทะเล และก็ไม่ผิดคาดจริงๆ เพราะเมนูที่เสิร์ฟ คือ TheOctlantis หรือ ข้าวริซอตโดตกับปลาหมึกย่างชิ้นโต เนื้อนุ่ม แถมยังได้เท็กเจอร์ กรุบๆ จากข้าวดำเวเนเร่ อบกรอบ พาให้รู้สึกฟิน ไม่เบาทีเดียว

จากทะเล ก็พาออกสู่ห้วงจักรวาล อันเวิ้งว้าง ด้วยยานอวกาศลำใหญ่ มองเห็นดวงดาวมากมายบนอวกาศ โดยเฉพาะ ดาวเสาร์ ที่อยู่ข้างหน้า ซึ่งถือเป็นการปิดท้ายมื้อค่ำที่แสนประทับใจ โดยมาพร้อมกับเมนูขนมหวาน “A Space Odyssey” ที่มีรูปร่างคล้ายกับ “ดาวเสาร์” ซึ่งจริงๆ เป็นมูสดาร์กช็อกโกแลต เนื้อนุ่ม รสชาติเข้มถึงใจ โดยด้านนอกแต่ด้วยสีสันสดใสกันในแต่ละจาน อร่อยจริงๆ สมกับการปิดท้ายมื้อค่ำอันแสนวิเศษ จริงๆ

สำหรับ Digital Delicious ตั้งอยู่ชั้น 1 ของพื้นที่ห้องอาหาร เบซิล ในโรงแรม เชอราตัน แกรนด์ สุขุมวิท โดยเปิดให้บริการวันศุกร์ – วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 12.00-23.00 น.แบ่งเป็น มื้อกลางวัน (ราคาท่านละ 3.050 บาท) ตั้งแต่เวลา 12.00-13.30 น. หรือ ชุดน้ำชายามบ่าย (ราคาท่านละ 1,950 บาท) เวลา 15.00-16.30 น. และ อาหารมื้อค่ำ (ราคาท่านละ 3.870 บาท) ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 รอบ รอบแรกเวลา 19.00 – 20.30 น. และรอบที่ 2 เวลา 21.30 – 23.00 น. (แต่ละรอบ สำหรับ 20 ท่าน) และหากลูกค้าท่านใดประสงค์จะจัดปาร์ตี้ส่วนตัว ก็สามารถสำรองที่นั่งได้เช่นกัน (ราคาท่านละ 3.870 บาท)

Facebook Comments


Social sharing

Related post