Digiqole ad

เที่ยวเมืองรองต้องไปมู “จิรัฏฐวัฒน์ ศิริบุตร” เล่าเรื่อง ตอนที่ 5 เปิดศรัทธาไหว้หลวงพ่อนิล วัดบางกุ้ง เปลี่ยนชีวิตคนสายมู เฮง เฮง เฮง (อีบุ๊กบางกอกทูเดย์ ฉบับที่ 382 วันที่ 2-8 มิ.ย.66)

 เที่ยวเมืองรองต้องไปมู “จิรัฏฐวัฒน์ ศิริบุตร” เล่าเรื่อง ตอนที่ 5 เปิดศรัทธาไหว้หลวงพ่อนิล วัดบางกุ้ง เปลี่ยนชีวิตคนสายมู เฮง เฮง เฮง (อีบุ๊กบางกอกทูเดย์ ฉบับที่ 382 วันที่ 2-8 มิ.ย.66)
Social sharing

Digiqole ad

อีบุ๊กวันที่ 2-8 มิถุนายน 2566 (ฉบับที่ 382)

หน้า 31

คอลัมน์ : เที่ยวเมืองรองต้องไปมู

เรื่อง : จิรัฏฐวัฒน์ ศิริบุตร

ตอนที่ 5 เปิดศรัทธาไหว้หลวงพ่อนิล วัดบางกุ้ง

เปลี่ยนชีวิตคนสายมู เฮง เฮง เฮง

ในช่วงเวลานี้ผู้เขียนต้องขอพูดถึง “จังหวัดสมุทรสงคราม” ที่เป็นเมืองรองอีกหนึ่งจังหวัด ในภาคกลาง กระแสประชาชนสายมูแห่ขอเลขเพื่อเสี่ยงโชคเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ประชาชนที่ชื่นชอบสายมูทั่วทุกสารทิศแห่กันไปวัดบางกุ้ง (ค่ายบางกุ้ง) หรือโบสถ์ปรกโพธิ์ เพื่อเสี่ยงดวงขอโชคลาภ ตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้จังหวัดสมุทรสงครามมีชีวิตชีวา และส่งผลไปถึงชาวบ้านในท้องถิ่นก็มีรายได้เพิ่มอีกด้วย ความศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้เขียนพิสูจน์แล้วด้วยตัวเองว่า….. “เป็นจริง”

วัดบางกุ้ง เป็นวัดเก่าแก่ตั้งอยู่ในเขตตำบลบางกุ้ง อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี มีจุดเด่นที่พระอุโบสถ ซึ่งเป็นโบสถ์เก่าแก่ ถูกปกคลุมทั้งอาคารด้วยรากของต้นโพธิ์ ต้นกร่าง ต้นไกร จนได้รับยกให้เป็นอันซีนแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรสงคราม พระอุโบสถเป็นอาคารเครื่องก่ออิฐถือปูน ไม่มีช่อฟ้า ใบระกา ตามแบบวัดไทยทั่วๆไป ที่มักเป็นเครื่องลำยอง

ภายในโบสถ์เป็นที่สถิตของ “หลวงพ่อนิลมณี” หรือ “หลวงพ่อดำ” ตามที่ชาวบ้านเรียกกัน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปทรงปางมารวิชัยขนาดใหญ่ สมัยอยุธยาตอนปลาย นอกจากนี้ภายในยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติวัดแห่งนี้ยังมีจุดเด่นที่มีรูปปั้นนักมวยไทยเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกับเครื่องบินเก่าตั้งโชว์ และยังมีสวนสัตว์ขนาดเล็กๆ ที่มีทั้งกรงอูฐ กวาง ม้า ตั้งอยู่ริมท่าน้ำวัดบางกุ้งอีกด้วย

 

 

ตามประวัติกล่าวว่าสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นวัดสำคัญวัดหนึ่งทางประวัติศาสตร์ เนื่องจากในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย พ.ศ.2308 กองทัพพม่ายกเข้ามาตีกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระเจ้าเอกทัศรับสั่งให้หัวเมืองปากใต้ยกกองทัพเรือมาตั้งค่ายสร้างกำแพงล้อมวัดบางกุ้งที่ตำบลบางกุ้ง เมืองสมุทรสงคราม เรียกว่า “ค่ายบางกุ้ง” กองทัพพม่าซึ่งยกทัพเข้ามาตามลำน้ำแม่กลองและบุกลงมาจนถึงค่ายบางกุ้ง โดยที่กองทัพของกรุงศรีอยุธยาไม่สามารถต้านทานไว้ได้ค่ายบางกุ้งจึงแตก

 

หลังจากพม่าตีกรุงศรีอยุธยาแตกในปี พ.ศ. 2310 ค่ายบางกุ้งก็ตกอยู่ในสภาพค่ายร้าง เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชสถาปนากรุงธนบุรีแล้ว โปรดให้ชาวจีนรวบรวมสมัครพรรคพวกมาตั้งเป็นกองทหารรักษาค่ายเก่าที่บางกุ้ง จึงเรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า “ค่ายจีนบางกุ้ง” ในปี พ.ศ. 2311 หลังจากเสียกรุงศรีอยุธยาไปประมาณ 8 เดือน กองทัพพม่านำโดยเจ้าเมืองทวายยกทัพบกและทัพเรือลงมาล้อมค่ายจีนบางกุ้งไว้ ทหารจีนที่รักษาค่ายบางกุ้งสู้รบอย่างเต็มที่แต่มีกำลังน้อยกว่าเกือบจะเสียค่ายแก่พม่า กรมการเมืองสมุทรสงครามจึงมีหนังสือกราบทูลไปยังกรุงธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสินทรงทราบจึงยกกองทัพมาตีทัพพม่าแตกพ่ายไป และต่อมาในปี พ.ศ. 2317 สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชยกกองทัพเรือนำทหารไปออกศึกที่บางแก้ว เมืองราชบุรี ในระหว่างการเดินทางได้หยุดกองทัพพักพลเสวยพระกระยาหารที่วัดกลางค่ายบางกุ้ง

            เอาว่าถ้าช่วงเวลานี้นักท่องเที่ยวสายมูที่ว่างขอเชิญที่โบสถ์ปรกโพธิ์ค่ายบางกุ้ง ขอพรหลวงพ่อนิลเพื่อความเป็นสิริมงคลและดังใจหวัง เน้นย้ำนะเขาเปิดตลอด 24 ชั่วโมง และมีความเป็นระเบียบทุกคนต้องเข้าแถวเดินตามคิวและเมื่อเข้าในโบสถ์ก็ต้องสวมหน้ากากทุกคนเพื่อความปลอดภัย

อีบุ๊กวันที่ 2-8 มิถุนายน 2566 (ฉบับที่ 382)

หน้า 31

คอลัมน์ : เที่ยวเมืองรองต้องไปมู

เรื่อง : จิรัฏฐวัฒน์ ศิริบุตร

ตอนที่ 5 เปิดศรัทธาไหว้หลวงพ่อนิล วัดบางกุ้ง

เปลี่ยนชีวิตคนสายมู เฮง เฮง เฮง

https://book.bangkok-today.com/books/fqsl/#p=31 (สามารถพลิกอ่านได้เหมือนหนังสือปกติ)

 

 

Facebook Comments


Social sharing

Related post