Digiqole ad

ไป(ร)เวท? “2023 มูครองเมืองมายา ยุคไปหาเวทย์เสริมดวงโชคลาภ” (อีบุ๊กบางกอกทูเดย์ ฉบับที่ 385 วันที่ 23-29 มิ.ย.66)

 ไป(ร)เวท? “2023 มูครองเมืองมายา ยุคไปหาเวทย์เสริมดวงโชคลาภ” (อีบุ๊กบางกอกทูเดย์ ฉบับที่ 385 วันที่ 23-29 มิ.ย.66)
Social sharing

Digiqole ad

อีบุ๊กบางกอกทูเดย์ฉบับที่ 385 วันที่ 23-29 มิถุนายน 2566

ไป(ร)เวท ?

2023 มูครองเมืองมายา

ยุคไปหาเวทย์เสริมดวงโชคลาภ

           “ไปรเวท” (Private) ชุดที่กำลังกลายเป็นทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ และกระแสดราม่าในสังคมไทยหลังจากที่มีเด็กคนหนึ่งออกมาเรียกร้องให้ใส่ชุดไปรเวทแทนชุดนักเรียนไปโรงเรียน “ทัวร์ลง” ตามระเบียบ แต่ประเด็นที่บางกอกทูเดย์ขอหยิบมานำเสนอในสัปดาห์นี้คือ “ไปเวท” ซึ่งเสียงอ่านพ้องกัน แต่นัยยะแตกต่างกันคือ ในยุคนี้แม้จะเป็นยุคเทคโนโลยีและดิจิทัล แต่ความเชื่อในเรื่องของ “ไสยเวท/ไสยศาสตร์” และ “โหราศาสตร์” หรือที่เรียกติดกันว่า “มู-มูเตลู”  ไม่มีวันเสื่อมคลาย แบบว่า “ไม่เชื่ออย่าลบหลู่” โดยเฉพาะในการวงการบันเทิง ศิลปินและนักแสดงหลายคนต่างไปเวท คือพึ่งเรื่องทางด้านนี้ ซึ่งมีความเชื่อและศรัทธาว่าชีวิตหลังมูจะดีกว่าเป็นอยู่เดิม ๆ บางคนก็นำไปใช้ในด้านมืดกำจัดศัตรูคู่แข่งอย่างที่เป็นข่าว

ปฐมบทไปหาเวท

ในยุคแรก ๆ คนบันเทิงจะเข้าพิธีกรรมหรือมูอยู่ 3 งาน ตามธรรมปฏิบัติคือ

  1. งานพิธีไหว้ครูประจำปีของสำนักอาจารย์ที่ตนเองหรือองค์กรสังกัดนับถือ : ส่วนใหญ่จะเป็นบรม

ครูทางด้านดนตรีและด้านการแสดง ไฮไลท์ในงานจะมีการครอบเศียรครู อาทิ พ่อแก่,พระพิฆเนศ

,พระพิราพ และพระนาง เพื่อเสริมความเป็นศิริมงคลในชีวิตส่วนตัวและชีวิตการทำงานให้ดียิ่ง ๆ ขึ้น ศิลปิน

นักแสดงหลายคนมีครูหลายคนก็เดินสายครอบครูกันไป

  1. บวงสรวงงาน : ส่วนมากจะเป็นการบวงสรวงหนังหรือละครเอาฤกษ์เอาชัย โดยมีพราหมณ์เป็น

เจ้าพิธี ฤกษ์ดีที่นิยมกันคือ เวลา 9 โมงเช้า และนาทีลงท้ายด้วยเลข 9 อาทิ 09.19 น. เป็นต้น

  1. รับพรและรดน้ำมนต์ : พระเกจิอาจารย์ชื่อดังจะทำพิธีให้ศีลให้พร และทำพิธีกรรม อาทิ รดน้ำมนต์และเจิมหน้าผาก

            พกเครื่องรางของขลัง

            สมัยก่อนการถ่ายทำหนังมักนิยมถ่ายทำโลเกชั่นต่างจังหวัด ส่วนนักร้องลูกทุ่งก็จะเดินทางไปตามจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ ดังนั้นจึงต้องมีการเดินทางโดยรถยนต์เป็นหลัก เพราะเครื่องบินยังไม่เป็นนิยม ดังนั้นนักแสดงนักร้องทั้งหลาย ร่วมถึงคนบันเทิงในยุคปัจจุบันก็นิยมมีเครื่องรางของขลังหรือวัตถุมงคลติดตัวติดรถไว้ตลอด จึงต้องมีเครื่องยึดเหนี่ยวทางด้านจิตใจ เพื่อให้การเดินทางทั้งไปและกลับปลอดภัย ถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ ด้วยกลัวเหมือนหลายคนที่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิต ดังเป็นข่าวมาทุกยุคทุกสมัย ซึ่งเครื่องรางของขลังที่นิยมกันคือ

พระเครื่อง : อาทิ พระสมเด็จ เป็นต้น ที่บางคนมีพระเครื่องมูลค่าแพงมาก ทำไปเลี่ยมทอง นักแสดง-นักร้องชายบางคนนิยมสวมสร้อยพระแบบยกพวงนิยมจำนวนเลขคี่ 3,5,7,9 ราคาไม่ต้องพูดถึง ยิ่งเป็นสุดยอดพระเครื่องที่ล้ำค่าอย่าง “ชุดเบญจภาคี” ประกอบด้วย 5 องค์ คือ

  1. พระสมเด็จวัดระฆังเป็นตัวแทนยุค รัตนโกสินทร์
  2. พระนางพญาเป็นตัวแทนยุคอยุธยา
  3. พระกำแพงซุ้ม กเป็นตัวแทนยุคสุโขทัย
  4. พระผงสุพรรณเป็นตัวแทนยุคอู่ทอง
  5. พระรอดเป็นตัวแทนยุคลพบุรี

ซึ่งเวลาออกต่างจังหวัดไม่มีใครกล้าถอดออกมาจากคอ แม้จะเปลี่ยนชุดเสื้อผ้าก็ขอสวมไว้กับคอ เพราะด้วยเหตุผลเดียวคือ “กลัวหาย”

            -ผ้ายันต์ลงอักขระ : สำหรับผ้ายันต์ที่นิยมพกติดตัวติกรถกัน 10 อันดับจากการรวบรวมของเว็บ tnews มีดังนี้

1.ยันต์พระเจ้าเปล่งรัศมี ความหมาย ความเชื่อ ไปไหนนำติดตัวไปด้วยทำให้คนรักคนหลง

2.ยันต์พุทธคุณ ความหมาย ความเชื่อ คุ้มกันสารพัดภัย แคล้วคลาดจากอันตราย

3.ยันต์พุฒซ้อน หรือ ยันต์พระเจ้าห้าพระองค์ ความหมาย ความเชื่อ เป็นยันต์ที่โด่งดังมากมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ถือเป็นมหายันต์สูงสุดกว่ายันต์ทั้งปวง

            4.ยันต์เก้ายอด ความหมาย ความเชื่อ ของยันต์หมายถึงคุณวิเศษของพระพุทธเจ้าทั้ง 9 ประการ

5.ยันต์แปดทิศ ความหมาย ความเชื่อ ความเชื่อ ยันต์แปดทิศ มีสรรพคุณ ทางด้านเมตตา อยู่ยงคงกะพัน คุ้มครองทิศทั้งแปด

6.ยันต์บารมีพระพุทธเจ้า ความหมาย ความเชื่อ กันภูตผี ปีศาจ ป้องกันอันตรายทั้งปวง

            7.ยันต์พญาหงส์ทอง ความหมาย ความเชื่อ เมตตามหานิยม เป็นเสน่ห์ ทำให้ทุกคนรัก

            8.ยันต์พญาราชสีห์ ความหมาย ความเชื่อ ทำให้คนเกรงขาม เป็นตบะเดชะ มีอำนาจ

9.ยันต์พญาหนุมาน ความหมาย ความเชื่อ มีอำนาจอยู่ยงคงกระพัน เมตตามหานิยม

            10.ยันต์เกราะเพชร สุดยอดแห่งพุทธานุภาพ จากตำราของพระร่วง เสริมมงคล เมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ โชคลาภ และ ป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง

ส่วนผ้ายันต์ยอดนิยมของคนบันเทิงในยุคนี้คือ “ผ้ายันต์เจ้าคุณ/สมเด็จธงชัย วัดไตรมิตร” (สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี) ประกอบผ้ายันต์พระนารายณ์ทรงครุฑ และ ผ้ายันต์พระนารายณ์ทรงครุฑประทับพระราหู หากใครมีติดตัวไว้และประพฤติดีจะทำให้อำนาจร้ายใด ๆ มิสามารถมากล้ากราย กุศลที่สร้างจะเป็นเกราะกำบัง ช่วยเกื้อหนุนส่งเสริม จนสามารถฝ่าฟันอุสรรคทั้งปวงได้

-สักยันต์ ทั้งนี้เป็นนิยมในหมู่นักแสดง-นักร้องผู้ชาย ส่วนตามตัว โดยเฉพาะบริเวณกลางหลัง สำหรับลายสักยันต์ยอดนิยมที่จะขอนำมากล่าวถึงในยุคนี้ “อ.หนู กันภัย” ที่คนบันเทิงทั้งไทยและต่างประเทศระดับดาราฮอลลีวู้ด อย่าง แองเจลินา โจลี ให้ความศรัทธาคือ

  1. ยันต์ห้าแถว คนบันเทิงนิยมสักกันมากที่สุด ที่บริเวณไหล่ซ้าย เป็นยันต์ครอบจักรวาล ทำให้แคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งปวง ทำให้มีโภคทรัพย์ มีเสน่ห์ เมตตามหานิยม กันเสนียดจัญไร กันคุณไสย
  2. ยันต์ฉัตรเพชร โดดเด่นด้านโชคลาภการเงิน แก้ดวงชะตาที่ตกต่ำ และเสริมดวงชะตา
  3. ยันต์นะสำเร็จ หรือ ยันต์นะมหาสำเร็จ เสริมเมตตา ความร่ำรวย กระทำการใดๆ ก็สำเร็จ กินไม่รู้สิ้น ช่วยเรื่องงาน และโชคลาภโดยตรง
  4. ยันต์เสือเหลียวหลัง เป็นเมตตามหานิยม แก้ร้ายกลายเป็นดี แก้ฮวงจุ้ยต่างๆ และเสริมดวง
  5. ยันต์โสฬสมงคล แก้อาถรรพ์ต่างๆ ป้องกันภยันอันตราย เสริมโชคลาภ
  6. ยันต์โภคทรัพย์ เด่นทางด้านโภคทรัพย์ เงินทองไหลมาเทมา มีไว้ไม่อดตาย ทำมาค้าขึ้น มีเมตตามหานิยม
  7. ยันต์แปดทิศหรือยันต์อิติปิโสแปดทิศ เป็นยันต์สารพัด ป้องกันร้อยแปด
  8. ยันต์คู่ชีวิต หรือยันต์อสิสัตติ หรือพระพุทธเจ้าห้ามอาวุธ ป้องกันศาสตราวุธทั้งปวง มีชีวิตอยู่ยงคงกระพัน
  9. ยันต์จิ้งจก เสน่ห์ เมตตามหานิยม และเรียกทรัพย์
  10. ยันต์เก้ายอด คงกระพันชาตรี ฟันแทงไม่เข้า

            -ตะกรุด/เบี้ยแก้/ปลัดขิก/มีดหมอ/เขี้ยวเสือ/กุมารทอง/ลูกประคำ/น้ำเต้าดูดทรัพย์ นับเป็นเครื่องรางของขลังทจากพระเกจิอาจารย์จากวัด และอาจารย์ฆราวาส สำนักต่าง ๆ  คนบันเทิงมีไว้บูชา ส่วนจะติดตัว ติดรถ บูชาที่บ้าน ก็แล้วแต่ความเชื่อและความสะดวกของแต่ละคน

“นะหน้าทอง” มูยอดฮิตคนบันเทิงยุคดิจิทัล

กระแสการมูของคนบันเทิงสุดฮอตปรอทแตกคือ “การลงนะหน้าทอง” ที่นาทีนี้คนบันเทิงสายมูไม่รู้และไม่มูถือว่าเชย เพจบ้านธูปพุทธนิมิตได้กล่าวถึง “นะหน้าทอง” ว่า เป็นศาสตร์ที่มีอำนาจสูงส่งทางด้านการส่งเสริมดวงชะตาบารมี เสริมสิริมงคล รวมไปถึงเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ และโชคลาภ ความเจริญรุ่งเรือง

ผู้ใดได้ลงนะหน้าทองถือเป็นวาสนาแห่งบุคคลผู้นั้น ที่ไม่เคยมีใครรักก็กลับมามีคนเมตตารักใคร่ ที่ทำมาหากินไม่ดีก็กลับมาค้าขายดีมีกำไร ชีวิตที่อับเฉาก็จะไม่แห้งเหี่ยวอีกต่อไป จะบังเกิดสิ่งที่ดี ๆ เข้ามาในชีวิต พลิกชะตาจากที่ร้ายกลายเป็นดีอย่างไม่น่าเชื่อ จะบังเกิดสิ่งที่ดี ๆ ขึ้นในชีวิต นะหน้าทองคือวิชาไสยศาสตร์ที่มีอำนาจ ทางเมตตามหานิยม จัดเป็นวิชาชั้นสูงที่เกี่ยวเนื่องกับพระพุทธคุณ ไม่ใช่วิชาสายต่ำหรือมนต์ดำ
ที่เรียกว่านะหน้าทองเนื่องจาก มีการใช้ทองคำเปลวบริสุทธิ์ (ถือว่าเป็นของสูง)และเป็นธาตุที่เป็นอมตะตลอดกาล มาลงที่ใบหน้าของผู้ที่ประสงค์ให้คนมีสง่าราศี ประกอบกับอักขระที่ลงนั้นมีสูตรการเรียกเฉพาะตนว่าตัวนะหน้าทอง และยันต์ที่ลงก็จะมีสูตรถือเป็นเคล็ดของครูบาอาจารย์แต่ละท่านจะไม่เหมือนกัน ใครสำเร็จยันต์ไหน ตัวนะอักขระตัวใดก็ลงตามที่ตนเชึ่ยวชาญ


            นางงามแห่มูมงดูดมงใหญ่เรียกงาน

ในส่วนวงการนางงามยุคนี้ก็คึกคักไม่แพ้กัน เพราะขณะนี้เวทีประกวดใหญ่ ๆ มีรูปแบบในการหาผู้เข้าประกวดด้วยระบบตัวแทน 77 จังหวัด โดยในแต่ละจังหวัดหากไม่จัดประกวดเอง ทั้งจัดเดี่ยวจัดร่วมกันหลายจังหวัดบนเวทีเดียวกัน เนื่องจากจะใช้เงินทุนสูงมาก ก็จะใช้วิธีการแต่งตั้งตัวแทนขึ้นมา

เมื่อนางงามได้มงกุฎประจำจังหวัดแล้วส่วนใหญ่ผู้จัด พี่เลี้ยง หรือตัวนางงามเอง จะเอามงกุฎไปทำพิธีมูจากสำนักอาจารย์ชื่อดัง โดยเฉพาะที่สำนักบารมีคเณศ โดย “อาจารย์น้ำ บารมีคเณศ” เพื่อต่อยอดหรือดึงดูดมงกุฎใหญ่ ส่วนนางงามที่ได้มงกุฎใหญ่แล้วก็จะมูเพื่อให้เรียกงานเรียกทรัพย์ โดยจะนำมงกุฎใส่พานแล้วให้อาจารย์ทำพิธีจากนั้นจึงนำกลับมาสวมใหม่เพื่อความเป็นสิริมงคล

 

ล่าสุดเวที “มิสซูปร้าเนชั่นแนลไทยแลนด์ ปี 2023” ได้สร้างสรรค์มงกุฎใหม่ อาจจะเรียกได้ว่าเป็นมงกุฎแรกในโลกก็ว่าได้ที่ผู้จัดประกาศชัดงานว่า  ได้ออกแบบมงกุฎชิ้นพิเศษ ประดับด้วยบลูโทปาซ และเพชร และความพิเศษคือ มีสัญลักษณ์พระพิฆเนศประดับเพชร ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสำนักบารมีคเณศ โดย อาจารย์น้ำ บารมีคเณศ”  สำนักบารมีคเณศอยู่ด้านหลังมงกุฎ เพื่อความเป็นศิริมงคลสูงสุด 
            แก้บนที่ “เกาะคำชะโนด-วัดจุฬามณี-วัดไอ้ไข่”

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คนบันเทิงนิยมเดินทางไปกราบไหว้บูชามากเป็นอันดับต้น ๆ คือ “พญานาค เกาะคำชะโนด จ.อุดรธานี” , “ท้าวเวสสุวรรณ วัดจุฬามณี จ.สมุทรสงคราม” และ “ไอ้ไข่ วัดเจดีย์ จ.นครศรีธรรมราช” โดยนิยมขอในเรื่อง “งาน”  “เงิน” และ “ชื่อเสียง” เมื่อสำเร็จได้ดั่งใจหมายจากนั้นจะเดินทางกลับมา “แก้บน” อย่างเช่น ที่ป่าคำชะโนดมักจะรำแก้บน

สำหรับที่เกาะคำชะโนด คนบันเทิงจะไปมู  3 ที่ด้วยกันคือ 1. “ศาลหลวงปู่ศรีสุทโธ” ตรงจุดนี้มีไว้เพื่อให้ทุกคนเข้าไปกราบไหว้ ขอพรได้ทุกเรื่อง 2. บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ หรือ “ปล่องพญานาค” เข้ามากราบไหว้แล้วนำขวดเปล่ามาใส่น้ำในบ่อ เพื่อนำไปต้มดื่มหรืออาบที่บ้าน และ 3. “ลานต้นคำชะโนดใหญ่” เป็นจุดที่น่าอัศจรรย์ใจ เนื่องจากมีลักษณะของต้นไม้ที่โดดเด่นคือ เป็นการพันกันของต้นคำชะโนดหลายต้น จุดนี้มาเพื่อเสี่ยงโชค แล้วไปหาซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ตั้งแผงวางเรียบรายยาวเหยียด ซึ่งเข้ามาแล้วทุกรางวัลตั้งแต่รางวัลที่ 1 ถึง เลขท้าย 2 ตัว

 

ส่วนที่ วัดจุฬามณี จ.สมุทรสงคราม มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมาย แต่ที่คนบันเทิงไปกราบไหว้ขอพรคือ “ท้าวเวสสุวรรณ” (ท้าวกุเวร) 1 ใน 4 ท้าวจตุโลกบาล หรือเรียกกันติดปากว่า “ปู่เวส” ท่านเป็นเทพประจำทิศเหนือ คอยผู้ปกปักรักษาดูแลโลกมนุษย์ ซึ่งท้าวเวสสุวรรณที่วัดจุฬามณีมี 4 ปาง

  1. “ปางพรหมาสูติเทพ”เป็นองค์ปูนปั้นประทับนั่งสีขาว จะประทานพรในเรื่องของโชคลาภ การ

งาน การเงิน

  1. “ปางจาตุมหาราช” (ปางยักษ์) ประทานพรให้ผู้ที่ศรัทธาในเรื่องของการขจัดสิ่งชั่วร้าย

คุ้มครองให้แคล้วคลาด ผู้ที่กำลังอยู่ในช่วงปีชงหรือดวงตกจะนิยมมาไหว้ปางนี้

  1. “ปางเทพบุตรสูติเทพ”(หน้าเทพ)  ประทานพรในเรื่องของความรัก เมตตามหานิยม
  2. “ปางมนุษย์”ปางนี้จะช่วยให้ดำเนินชีวิตราบรื่น ทำสิ่งใดไม่มีอุปสรรค

ส่วนด้านข้างขององค์ท่านยังมี “พญาปุริสาท” มหาอำมาตย์คู่บารมีท้าวเวสสุวรรณ

ประทานพรในเรื่องป้องกันคุณไสย์มนต์ดำ ช่วยดลบันดาลให้อยู่เย็นเป็นสุข มั่งมีทรัพย์สินเงินทอง

ทางด้าน “ไอ้ไข่ วัดเจดีย์ จ.นครศรีธรรมราช” ไอ้ไข่คือวิญญาณเด็กที่ติดตามหลวงพ่อทวด คนส่วนมากจะเดินทางไปเพื่อนำรูปปั้นไก่ขนาดต่าง ๆ ไปถวายวัดและรูปปั้นหุ่นไอ้ไข่ ทั้งนี้มีความเชื่อถือว่า “ขอได้ไหว้รับ” โดยเฉพาะเรื่องโชคลาภ และการค้าขาย ซึ่งจะนำความโชคดีมาสู่คนที่เอาของมามอบให้ จากนั้นจะเดินไปจุดประทัด ณ บริเวณกองประทัดที่มีเศษซากประทัดขนาดมหึมา แล้วจะนำผ้าสีแดงที่มีตัวเลขอยู่ในกล่องประทัดไปเสี่ยงโชคลาภ

            “แม่มดดำ” นางพญามูนิเวิร์ส

พูดถึงมูตัวแม่ในวงการบันเทิงยามนี้ต้องยกให้ “มดดำ-คชาภา ตันเจริญ” เจ้าของฉายา “แม่มดดำ” และเป็นเจ้าของรายการ “คชาภาพาไปมู” ทางช่องยูทูป เรียกว่าเป็น “มูตัวแม่” มูตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า และมูบ้านทั้งหลังอีกด้วย กระทั่งได้ดี มูดี ๆมีที่ไหนแม่มดดำเดินทางไปพิสูจน์และทำมาหมด คนบันเทิงคนไหนอยากจะมูขอให้บอกแม่มดดำช่วยได้ เป็น “เอนไซโคลพีเดียมู” ดี ๆ นี่เอง

มดดำเคยให้สัมภาษณ์ www.brandbuffet.in.th ว่า ช่วงชีวิตที่ผ่านมาเป็นช่วงที่ยอมรับว่า อายุ 25 – 30 ปีคือการขอใช้ชีวิตให้สุดโต่งด้วยการขอลุยร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ เราอาจเกิดมาจากครอบครัวที่ไม่ได้สมบูรณ์ เรารู้อยู่แล้วว่า เราไม่ใช่ผู้ชาย และกว่าสังคมจะเริ่มยอมรับได้อย่างนี้ ยากนะ คนอื่นเขาทำงานกัน 10 ชั่วโมง เราอาจต้องทำ 15 ชั่วโมง จึงมีคำแนะนำว่า ให้ไปมูเตลูที่นั่นสิ ที่นี่สิ เพื่อให้งานและชีวิตเราดีขึ้น จากนั้นได้ลองมูเรื่อยมา ปรากฏมีเรื่องดี ๆ หลายอย่างเข้ามาในชีวิตอย่างที่เห็นทุกวันนี้

            “มูอย่างมีสติ ถ้าพลังจิตเราดี มูเตลูขอพรยังไงก็ปัง!” มดดำกล่าว

ภาพ :อินเทอร์เน็ต/TQM/PANTIP/วัดจุฬามณี/คชาภาพาไปมู

อีบุ๊กบางกอกทูเดย์รายสัปดาห์ ฉบับที่ 385 วันที่ 23-29 มิถุนายน 2566

https://book.bangkok-today.com/books/nocg/

(สามารถใช้นิ้วพลิกอ่านได้เหมือนหนังสือปกติ)

 

Facebook Comments


Social sharing

Related post