“เที่ยวเมืองรองต้องไปมู” จิรัฏฐวัฒน์ ศิริบุตร เล่าเรื่องตอนที่ 15 : “วัดมณีวงศ์” มูแล้วปังพญานาคพันตัว กราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อบารมีแห่งชีวิต (อีบุ๊กบางกอกทูเดย์ ฉบับที่ 392 วันที่ 11-17 ส.ค.66)

Social sharing

อีบุ๊กบางกอกทูเดย์ ฉบับที่ 392 วันที่ 11-17 สิงหาคม 2566

หน้า 32 คอลัมน์ : เที่ยวเมืองรองต้องไปมู

เรื่อง/ภาพ : จิรัฏฐวัฒน์ ศิริบุตร

ตอนที่ 15 : “วัดมณีวงศ์” มูแล้วปังพญานาคพันตัว

กราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อบารมีแห่งชีวิต

“จังหวัดนครนายก” ถือเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีทรัพยากรทางการท่องเที่ยวค่อนข้างครบถ้วน อีกทั้งยังไม่ไกลจากกรุงเทพมหานครมากนัก ทำให้ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น

โดยนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบทางการท่องเที่ยวแบบธรรมชาติก็จะมาที่จังหวัดนครนายก ไม่ว่าจะเป็น “น้ำตกสาลิกา” “น้ำตกนางรอง” ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดมานาน และยังมีเขื่อนกักเก็บน้ำที่มีขนาดใหญ่และสวยงามรอต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่นั่นก็คือ “เขื่อนขุนด่านปราการชล”

ถ้าหากนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวแบบผจญภัยก็สามารถเดินทางไปได้ที่ “โรงเรียนนายร้อย จปร.” เขาชะโงก ซึ่งเปิดให้ประชาชนทั่วไป เที่ยวชมและทำกิจกรรมตื่นเต้นท้าท้าย ได้แก่ ยิงปืนจริง บีบีกัน เพ้นบอล ยิงธนู โดดหอ เลื่อนข้ามลำน้ำ ขับรถ ATV หรือ กิจกรรมเบาๆ อย่าง ขี่จักรยานท่องเที่ยว พายเรือคายัค ชมพิพิธภัณฑ์ มีครบทุกอย่างเที่ยวได้ทั้งวัน

แล้วถ้าพูดถึงอาหารจังหวัดนครนายกก็มีอาหารที่หลากหลายรสชาติดีเลยทีเดียว แม้ว่าจังหวัดนครนายกจะอยู่ใกล้กับกรุงเทพมหานครแต่ก็มีนักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยที่ไปพักค้างแรมเพื่อท่องเที่ยวในจังหวัดนครนายกอย่างเต็มอิ่ม

นอกจากธรรมชาติและการเที่ยวแบบผจญภัยแล้ว อีกหนึ่งไฮไลท์ของจังหวัดนครานายกที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจกันมาในขณะนี้คือ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์หรือสายมู ที่เดินทางไปจังหวัดไหนแล้วนั้น ต้องไปมูเพื่อขอบุญบารมี และในฉบับนี้ขอนำเสนอ “วัดมณีวงศ์” ตำบลดงละคร วัดมณีวงศ์เป็นที่นิยมจากคนสายมูเนื่องจากที่นีมี “วังพญานาค” ที่นี่มีเรื่องราวขององค์พญานาคและมีองค์พญานาคมากกว่าพันตัว

ภายในวังจะพบกับ “พระรัตนมณีมหาบาดาล” พระพุทธรูปองค์ใหญ่สีทองอร่ามเด่นตระหง่านประดิษฐานอยู่ท่ามกลางเหล่าพญานาค เป็นภาพที่สวยงามอย่างมาก ถือว่าที่นี่คือ “ถ้ำพญานาคเมืองบาดาล” ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย อีกทั้งยังมีศิลปกรรมต่าง ๆ ที่สวยงาม

ทั้งนี้ตามจุดต่าง ๆ ทั่วทั้งวังพญานาคจะมีหุ่นขี้ผึ้งจำลองของพระเกจิอาจารย์ที่เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวพุทธอีกด้วย อาทิ “สมเด็จพระพุฒจารย์” (โต พรหมรังสี) “ท่านพุทธทาสภิกขุ” “หลวงปู่มั่น” และ “ครูบาศรีวิชัย” เป็นต้น

เมื่อเราเดินเข้าไปแล้วภายในจะสามารถเดินถึงกันได้ทุกห้อง และในแต่ละห้องจะมีความหลากหลายให้นักท่องเที่ยวได้กราบไหว้บูชา บริเวณภายในถ้ำมีพื้นที่กว้างขวาง ซึ่งด้านหลังขององค์พระประธาน เป็นพื้นที่ของคลังมหาสมบัติที่เต็มไปด้วยเครื่องประดับ ไม่ว่าจะเป็นทอง เพชร พลอย และมุก บอกเลยว่าตระการตามาก ๆ

โดยความโดดเด่นของวันมณีวงศ์ ไม่ได้มีเพียงแค่ในวังพญานาคเท่านั้น แต่พื้นที่โถงอาคารด้านนอกถ้ำ ยังมีพระพุทธรูป เทวรูปอีกมากมาย รวมทั้งพระบรมรูปของ “สมเด็จพระนเรศวรมหาราช” และ “รัชกาลที่ 5” ที่ให้ผู้มาเยือนได้สักการะและขอพร พร้อมทั้งยังสามารถถวายสังฆทานแด่พระภิกษุสงฆ์ได้อีกด้วย และตามความเชื่อของคนโบราณก็คือถ้าได้ถวายสังฆทานแล้ว ก็จะส่งผลให้ชีวิตเราคลายทุกข์โศก โรคภัยไปได้ เพราะถือว่าเป็นการทำนุบำรุงพระศาสนาอีกรูปแบบหนึ่งนั่นเอง

นี่เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้นอยากให้นักท่องเที่ยวและสายมูที่ยังไม่ได้ไปลองไปสักครั้งแล้วจะได้เห็นถึงความงดงามและความศักดิ์สิทธิ์ ที่ “วัดมณีวงศ์” ตำบลดงละคร จังหวัดนครนายก ครับ!