เที่ยวเท่ เสน่ห์วันวาน เชียงแสน-เชียงราย

เที่ยว “เชียงราย” สนุกกว่าที่คิด
กับมนต์ขลัง “เที่ยวเท่ เสน่ห์วันวาน เชียงแสน-เชียงราย”

เรียกว่า เป็นอีกหนึ่งการเดินทาง ที่ครบรสชาติจริงๆ กับ ทริป “เที่ยวเท่ เสน่ห์วันหวาน เชียงแสนและเชียงราย” ซึ่งก่อนที่จะไปเล่าเรื่องราวความสนุกในทริปนี้ ก็ต้องขอขอบคุณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงราย ในการดูแลและอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง พร้อมให้ความรู้ในข้อมูลการท่องเที่ยวต่างๆ รวมถึง ต้องขอบคุณ สายการบินไทยสไมล์ (Thai Smile) กับการพาบินจากกรุงเทพฯ ถึงท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ในครั้งนี้ และ อีกผู้สนับสนุนที่ขาดไม่ได้เลยคือ โรงแรมเฮอริเทจ เชียงราย โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น กับการอำนวยความสะดวกเรื่องที่พักอันแสนสะดวกสบายในทริปนี้

บอกเลยว่า ผู้เขียนเคยเดินทางมาที่ท่องเที่ยวที่จังหวัดเชียงรายแล้ว หลายครั้ง แต่สำหรับครั้งนี้เรียกว่า เป็นการมาเชียงรายที่แตกต่างไปจากครั้งก่อนๆ ก็ว่าได้ เพราะครั้งนี้ได้ไปท่องเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยว ต่างๆ กันแบบจุใจ ตั้งแต่เช้า ยันค่ำ กันเลยทีเดียว รวมถึงยังได้มีโอกาสเข้าร่วมงานประเพณี ที่หาดูได้ยากอีกด้วย

เที่ยวแลนด์มาร์คสุดปัง

เริ่มต้นการเดินทาง จุดหมายแรกที่เรามุ่งหน้าไปก็คือ “สกายวอล์กผาเงา สามแผ่นดิน” ณ วัดพระธาตุผาเงา หนึ่งในแลนด์มาร์ค ของอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ที่มองเห็นทิวทัศน์ของประเทศเพื่อนบ้านทั้งฝั่ง สปป.ลาว และ พม่าได้อย่างเต็มตา ขณะที่ยืนอยู่บนพื้นที่ปูด้วยแผ่นกระจกใส น่าตื่นเต้นทีเดียว

จากแลนด์มาร์คสุดปัง! ก็ไปกันต่อที่การไปสักการะขอพร “พระธาตุจอมกิตติ ณ วัดพระธาตุจอมกิตติ ซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทางสักการะพระธาตุ 9 จอม ของจังหวัดเชียงราย ที่จะมาเสริมความเป็นสิริมงคล ให้กับทุก ๆ คน ก่อนที่จะไปท่องเที่ยวโบราณสถาน พร้อมกับรับฟังเรื่องราวประวัติศาสตร์อันน่าทึ่งของ เมืองเชียงแสน ที่ใครจะรู้ว่า เป็นหนึ่งเมืองที่มีอายุเก่าแก่มากกว่า 1,000 ปี

ประวัติศาสตร์ที่ซ่อนตัว

หนึ่งในไฮไลท์เด่นของ โบราณสถานเชียงแสน นอกจากวัดเจดีย์ และกำแพงเมืองโบราณที่ใหญ่โต แล้ว ยังมีวัดป่าสัก ที่เรียกว่า มีต้นสักนับพันต้น เป็นจุดเด่น ที่ยังคงได้รับการอนุรักษ์เอาไว้ ซึ่งที่นี่ มีเรื่องราวมากมาย ซุกซ่อนอยู่ตามซากปรักหักพัง ของโบราณสถาน ที่ควรค่าแก่การเรียนรู้ ที่จะบอกเล่าต่อไปยังคนรุ่นหลัง เพื่อซึมซาบถึงความรุ่งโรจน์ของอดีตเมืองเก่าแต่โบราณนานมา และเพื่อให้มีความสะดวกสบายมากขึ้นในการเที่ยวชมโบราณสถาน ทางหน่วยงานในพื้นที่ ยังจัดให้มีบริการ “รถราง” นำเที่ยวชมความงดงามของโบราณสถานต่างๆ ภายในอำเภอเชียงแสนอีกด้วย

ไขความลับ “ถ้าขุนน้ำนางนอน”

บอกแล้วว่า มาเชียงรายครั้งนี้ ไม่ธรรมดาจริงๆ ซึ่งครั้งนี้ เรายังพาร่างกายของเรา ไปปะทะความเย็นฉ่ำบนดอยสูง เริ่มจาก การไปเยี่ยมชม ถ้าขุนน้ำนางนอน ที่ครั้งนี้ เราได้มัคคุเทศก์ ที่มีส่วนร่วมในทีมช่วยเหลือ 13 หมูป่า มาบอกเล่าเรื่องราวเจาะลึกของภารกิจ ซึ่งบอกเลยว่า เจาะลึกแบบ เอ็กซ์คลูซีฟ จริงๆ ทั้งเรื่องราวการสร้างพลังใจของเหล่า 13 หมูป่า ขณะติดอยู่ในถ้ำ ที่ยังไม่มีใครเคยรู้ จากปากของพี่ “กมล คุณงามความดี” กับเทคนิคการเล่าเรื่องที่ทำให้เหมือนเราได้เข้าไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริงๆ

สัมผัสอาหารชนเผ่าอาข่า

ความสนุกยังไม่หยุดแค่นั้น หนึ่งในเส้นทางท่องเที่ยวที่ต้องไปเมื่อมาเชียงราย ก็คือ “ดอยผาหมี” จุดท่องเที่ยวที่หากใครได้ขึ้นมา จะต้องรู้สึกหายเหนื่อยกับการเดินทางไปเลย เพราะที่นี่ ไม่เพียงจะมีอากาศดีๆ เย็นสบายตลอดทั้งวัน เท่านั้น แต่ที่นี่ ยังมีอาหารอร่อย อย่าง “อาหารชนเผ่าอาข่า” ซึ่งเป็นการนำวัตถุดิบตามธรรมชาติที่หาได้ในท้องถิ่น มารังสรรค์เป็นอาหารแสนอร่อย ไม่ว่าจะเป็น น้ำพริกถั่วอาข่า ปลาหมกอาข่า ยำไข่เจียวอาข่า แกงเห็ดรวม และผัดรากชูไก่บ้าน บอกได้คำเดียวว่า “อร่อย” ทุกเมนู

ดื่มกาแฟ-ชาอุ่น บนดอย

เพื่อให้การดื่มด่ำกับธรรมชาติ และความเย็นฉ่ำ บนบนยอดดอยมากขึ้นนน ก็ต้องปีนป่ายกันขึ้นไปให้ถึง “ดอยผาฮี้” ที่นี่เราจะได้เห็นทิวเขาที่สวยงาม พร้อมกับอากาศที่เย็นฉ่ำ ไปพร้อมๆ กับการจิบกาแฟ และชาอุ่นๆ กับเบเกอรี่อร่อยๆ กับคาเฟ่ ที่กระจายตัวอยู่บนดอยแห่งนี้ และหากใครกำลังมองหาที่พักบนยอดดอยแห่งนี้ ก็สามารถทำได้เช่นกัน เพราะมีที่พักแบบโฮมสเตย์ ให้เลือกเยอะอยู่เหมือนกัน

นิทรรศการแสงไฟ

Light of Life นิทรรศการแสงไฟ กลไก และภาพเงา เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยว ที่เราได้มีโอกาสแวะมาเยี่ยมชม ซึ่งนิทรรศการนี้จัดขึ้น ณ อุทยานศิลปวัฒนธรรมแม่ฟ้าหลวง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ที่เราจะได้เห็นงานศิลปะจากแสง ที่ตระการตารวมกันกว่า 20 ชิ้น โดย 6 ศิลปิน 4 สตูดิโอ หลงใหลในแสงไฟ มาร่วมกันถ่ายทอดความงามของแสงสีขา พร้อมๆ กับการสร้างแรงบันดาลใจและส่งต่อพลังสร้างสรรค์ในการขับเคลื่อนสู่สิ่งใหม่

สรงน้ำพระธาตุดอยตุง

นอกจากความสนุกกับการท่องเที่ยวแบบไลฟ์สไตล์แล้ว เชียงราย ยังมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงประเพณี และวัฒนธรรมให้ได้สัมผัสด้วยเหมือนกัน ซึ่งผู้เขียน ก็ได้ไปสัมผัสมาแล้ว กับงานประเพณี นมัสการและสรงน้ำพระธาตุดอยตุง ประจำปี 2566 “2005 ปีสืยมา หกเป็งล่องฟ้า ไหว้สาพระธาตุดอยตุง” ซึ่งภายในงานประเพณี จะได้เห็นภาพของกลุ่มชาติพันธุ์ ที่รวมตัวกันมาเข้าร่วมในงานประเพณี

หนึ่งเดียวในไทย

เช่นเดียวกัน การได้ไปเป็นส่วนหนึ่ง ในประเพณีเวียนเทียนทางน้ำ กลางกว๊านพะเยา ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 47 เนื่องในวันมาฆบูชา เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา เป็นอีกภาพความสวยงามยามค่ำคืน ที่มีเพียงแสงจันทร์ และแสงเทียนส่องสว่างอยู่กลางกว๊านพะเยา ที่น่าประทับใจจนไม่สามารถลืมเลือน และสามารถมาสัมผัสได้ที่จังหวัดพะเยา เพียงที่เดียวเท่านั้น และก่อนที่จะบินกลับมากรุงเทพฯ ผู้เขียนยังได้มีโอกาสไปกราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอความเป็นสิริมงคลที่ “วัดห้วยปลากั้ง” (พระอาจารย์พบโชค) จังหวัดเชียงราย ที่มีสถาปัตยกรรมสวย อาทิ “พบโชคเจดีย์” ที่ผสานศิลปะจีน และล้านนา รวมถึง รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม สีขาวองค์ใหญ่ และโบสถ์สีขาวที่ประดับด้วยลวดลายปูนปั้นสุดอลังการ

จังหวัดเชียงราย ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวให้ทุกคนไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ใหม่ๆ ซึ่งเร็วๆ นี้ ทาง ททท.สำนักงานเชียงราย ยังได้จัดเตรียมกิจกรรม และเส้นทางการท่องเที่ยวสุดประทับใจ ระหว่าง เดือน มีนาคม – เมษายน 2566 ไว้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น “เที่ยวเชียงราย Amazing New Chapters” หรือ “วันธรรมดา พาเที่ยวเชียงราย” เอาไว้ให้ทุกคนได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ซึ่งหากใครสนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ ททท.สำนักงานเชียงราย โทร.053717433 หรือ 053744674-5 รวมถึงเว็บไซต์ www.tourismchiangrai-phayao.com และทางเพจเฟซบุ๊ค: ททท.สำนักงานเชียงราย-พะเยา