Digiqole ad

ต่อยอิจฉา-นัยตาแตก คอลัมน์ กะพรุนไฟ

 ต่อยอิจฉา-นัยตาแตก คอลัมน์ กะพรุนไฟ
Social sharing

Digiqole ad

ต่อยอิจฉา-นัยตาแตก

“ประเทศไทย” เป็น “เพชรเม็ดเอก” ที่มีประกายไฟ-มีการแสงที่ดีที่สุด

ขนาดนิตยสารที่ชื่อก้องโลก “ซีอีโอเวิร์ด์ เอ็น” ยัง “ติดเทรน” ท็อปเอให้เป็น “อันดับ ๑ ของโลก”

ว่าเป็น “ประเทศที่ดีที่สุด ในโลกควรเยี่ยมชม ในช่วงชีวิต ของคุณ ๒๐๒๔”

เขา “การันตี” รับรองค้ำประกันเอาไว้ว่า “สักครั้งในชีวิตควรต้องไปก่อนตาย”

“ซีอีโอเวิร์ด เอ็น” เห็นใน “ศักยภาพ” ในสมบัติของประเทศ และ แผ่นดิน ว่า “ไทย” เป็นเมืองที่ดีพร้อม เพื่อมาเยือนโดยแท้

“นิตยสาร” เขาได้จำแนก-แตกสาขา ให้เห็นเป็น “รูปธรรม” สัมผัสด้วยกาย และ ใจ อย่างอิ่มเอม ที่ต้องมาก่อนตาย

เขาได้กำหนด-จดรายละเอียดเอาไว้ชัดเจนดังนี้..

การมา “ท่องเที่ยวไทย” จะได้พบ-กับประสบการณ์ที่หลากหลาย

ไม่ว่าจะเป็น “สีสันยามค่ำคืน อาหารอร่อย ศิลปะและวัฒนธรรม ที่มีชีวิต-ชีวา”

“แหล่งชอปปิ้งที่ขึ้นชื่อ แม่น้ำลำคลองที่คดเคี้ยว อย่างสวยงาม วัดของศาสนาพุทธ”

“ตลาดกลางคืน ตลาดน้ำ และ สวนสาธารณะสุดพิเศษ”

บรรยายกันเป็น “มหากาพย์” เหมือนกับมองเห็น “ลายมือตัวเองก็ไม่ผิด”

เขาช่าง “รอบรู้-ดูออก” เห็นสิ่งที่ปรากฏ เมื่อได้เข้ามาชิลๆ-กินบรรยากาศของไทย ที่มีแต่ “ความงดงาม”

จนยกให้ประเทศไทยเป็นอันดับ ๑ ได้คะแนนสูงโด่ง ๗๒.๑๕ คะแนน

ประเทศกรีซไล่ตามหลัง มีคะแนน ๖๗.๒๒

อินโดนีเซีย ๖๕.๑๕ คะแนน.. โปรตุเกส ๖๔.๓๒ คะแนน..ศรีลังกา ๖๐.๕๓ คะแนน..แอฟริกาใต้ ๕๙.๗๖ คะแนน

อิตาลีแห่งกรุงโรม ได้ ๕๗.๗๗ คะแนน ..อินเดีย ๕๗.๖๕ คะแนน ..สหรัฐอาหลับเอมิเรตส์ ๕๗.๓๘ คะแนน

ซึ่ง “โลกทั้งใบ” มีอยู่ด้วยกัน “๗ ทวีป” ทั้งหมดมี “๑๙๕ ประเทศ” แต่สหประชาชาติรับรองเพียง “๑๙๓ ประเทศ”เอง

“ไทย” เราก้าวขึ้นมาเป็น “๑ ในตองอู” เป็นเมืองน่าเที่ยว ที่เหมือนดังแดนสวรรค์ ก็ว่าได้

แต่กับคนไทย เหมือนจะ “มองข้าม” ละเลย ไม่นำพา แลไม่ใส่ใจ ด้วยอีกต่างหาก

“การได้เกียรติ” ไม่ได้เป็น “ผลงานชิ้นโบว์แดง” เฉพาะกับ “รัฐบาลเศรษฐา” ที่หยิบเอา “ความดีไป”

และ “ฝ่ายค้าน” ก็ไม่ได้ “เสียแต้ม” เสียคะแนน ความนิยมอะไรไปเลย สักหน่อย

คนไทยทุกคน ๖๗ ล้านกว่าชีวิต ต่างร่วมกัน “เก็บเกี่ยว” พืชผลแห่งความเป็น “เมืองน่าเที่ยวที่สุดของโลก” ด้วยกันทุกคน

“แดง-ส้ม-อมสลิ่ม” เป็นแค่ “ต่างความคิดเห็น” ที่ถือท้าย กันคนละฝั่งเท่านั้นเอง

อย่าได้ “เพาะบ่ม” ความคิด “ที่ไม่ลงรอย” ให้บาน จนหุบไม่ลง

เพราะเห็นมีคนบาง “ดิ้นเป็นกุ้ง” เหมือนถูก “บีบด้วยน้ำมะนาว” ยังไง-หยั่งงั้น ก็ไม่ผิด

“ต่อมอิจฉา-นัยน์ตาแตก” ในเรื่อง ที่คนไทยได้อาสิสงฆ์ ในสิ่งดีๆ นี้ด้วยกัน

จะมา “ขย้ำ” ใช้วาจา “ดีสเครดิต” กับ “นายกฯเศรษฐา” และ “คณะรัฐมนตรี” กันทำไม

อ้างร้อยแปด-แผดเสียง อย่างโกรธขึ้ง ว่า.. “ไม่ได้เป็นผลงาน-ของรัฐบาล”

ซึ่งเขาก็ไม่ได้ “ตักตวง” จิ๊กเอามาเป็นผลงาน เพื่อที่จะ “เคลม” กันเมื่อไหร่

เป็นการ “ร่วมอนุรักษ์” ท้องถิ่นไทย-ให้ได้ดี จน “นิตยสาร-ซีอีโอเวิร์ด เอน” ส่งกระแสเสียงหนักแน่น-ให้คะแนนเป็นที่๑

ถ้าคนไทย ไม่ใช่ “การเมือง” เป็นลาน-ประหัตประหาร กันเสียอย่างแล้ว เราต้องกลับมาเป็น “เสือตัวที่ ๕” ได้ไม่ยาก

แต่เพราะ “จ้องจะกัด” กันอย่าง “ไม่มีวันพระ-วันโกน”

เราจึงมีแต่ความมัวหมอง..ทั้งที่ “ฝรั่งยกย่อง” จองคิวให้คนทั้งโลก ต้องมาท่องเที่ยวกัลล์

  • การบูร
Facebook Comments


Social sharing

Related post