‘ดร.สมพร’ ธุรกิจประกันปี 2567 ปรบตัวรับเทรนด์รถยนต์อีวี-การท่องเที่ยวมาแรง 

ก้าวขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2567 แล้ว หนึ่งในธุรกิจที่น่าจับตามองของปีนี้ และน่าจะมาแรงไม่แพ้ธุรกิจใด ๆ น่าจะเป็นธุรกิจ “ประกันภัย” โดยเชื่อว่า ตลอดปี 2567 นี้ จะได้เห็นผลิตภัณฑ์ประกันภัยใหม่ๆ อะไรออกมาให้เห็น และสอดรับกับเทรนด์ของผู้บริโภค ที่มีการปรับเปลี่ยนไปจากเดิม 

ธุรกิจประกันขยายตัวต่อเนื่อง

ดร.สมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิพย์ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPH กรรมการและผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ TIP กล่าวถึงภาพของทิพยประกันภัยในปี 2566 ว่า เป็นบริษัทที่มีเบี้ยประกันภัยเป็นอันดับสองของประเทศ แต่สำหรับปี 2567 คาดว่าธุรกิจของบริษัท จะมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง “เรามองตัวของเราว่าจะกลายเป็นผู้นำเรื่องการประกันภัยในประเทศไทย และภูมิภาค ขณะที่เราก็มีจุดยืนทางธุรกิจของเรา เป็นบริษัท non-motor insurance แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ทำอะไรที่เกี่ยวกับรถยนต์ แค่เราไม่ได้เน้นเรื่องการประกันภัยรถยนต์เป็นหลักเท่านั้น” 

ซีอีโอ TIPH กล่าวด้วยว่า “บังเอิญเราเก่งในเรื่องของการประกันภัยร่วม ก่อสร้าง และโครงสร้างขนาดใหญ่ โดยที่ผ่านมาเราตั้งเรื่องของการทำประกันรถยนต์ไว้ไม่เกิน 20% ซึ่งตอนนี้เรามีพอร์ตรถยนต์อยู่กับเรา 18% หรือประมาณ 9 พันล้านบาท แต่หากรวมทั้งหมดของเรา ก็มีอยู่แล้ว 90,000 กว่าล้านบาท เราปรับเรื่องพอร์ตรถยนต์ของเรามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เข้าที่เข้าทาง และวันนี้ เรามองา เราพร้อม และมั่นใจแล้วว่า เราจะเพิ่มเรื่องของการประกันภัยไปที่รถยนต์มากขึ้น” 

ผุ้บริหาร TIPH ยังกล่าวถึงการขยายตัวของธุรกิจประกันวินาศภัย รวมถึงบริษัทจะล้อไปกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ ด้วยว่า “ในมุมมองของ TIPH เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยปี 2567 จะมีการขยายตัวได้ดีกว่าปี 2566 ที่ผ่านมา โดยได้แรงสนับสนุนมาจากการลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐ และในส่วนของภาคเอกชนที่ธุรกิจเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ทั้งในเรื่องของ โรงแรม ร้านอาหาร เป็นต้นนั้นยังคงเติบโตได้ดี”

แรงสนับสนุนจากภาครัฐ

ดร.สมพร กล่าวด้วยว่า งานของภาครัฐที่ทาง ทิพย์เข้าไปรับมี 2 ส่วน ส่วนแรกเกี่ยวกับประกันภัยพืชผล ซึ่งในปี 2565 รัฐบาลไม่ได้อนุมัติงบส่วนนี้เพื่อซื้อประกันภัย เนื่องจากอยู่ในช่วงใกล้เลือกตั้ง เกรงว่าจะเป็นข้อครหาหากใช้งบประมาณเพื่อทำประกันความเสี่ยงภัยพืชผลให้เกษตรกร จึงไม่มีการอนุมัติงบส่วนนี้ออกมา แต่สำหรับในปี 2567 คาดว่าเม็ดเงินส่วนนี้จะได้รับการอนุมัติ และTIP ก็เป็นหนึ่งในบริษัทประกันวินาศภัยที่เข้าไปรับงานดังกล่าว 

“ขณะเดียวกัน ในปี 2567 เราจะเห็นรัฐบาลมีการกระตุ้นด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการท่องเที่ยวแบบ Inbound  Tourism ที่น่าจะมีมากขึ้น หลังจากที่รัฐบาลเปิดฟรีวีซ่า ให้กับหลากหลายประเทศ และเราก็เชื่อว่า จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ จะมาช่วยทำให้เกิดการบริโภค และการจับจ่ายใช้สอย รวมถึงยังช่วยธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ด้านต่างๆ ให้ฟื้นตัวกลับมาด้วย ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้กระเตื้องขึ้น” 

ประกันรถยนต์ไฟฟ้ามาแรงปี 2567

หากพูดถึง ผลิตภัณฑ์ด้านประกันประเภทใด ที่น่าจับตามองในปี 2567 ผู้บริหาร TIPH  กล่าวว่า ความนิยมในการใช้รถยนต์ไฟฟ้า หรือ รถยนต์ อีวี ที่มีมากขึ้น ซึ่งดูได้จาก ยอดจองรถยนต์ในงาน Motor Expo ในช่วงปลายปี 2566 ที่ปรับตัวสูงขึ้น “เราจะเห็นได้ว่า วันนี้ตลาดรถยนต์ในประเทศไทย มีการปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะ ตลาดรถยนต์อีวี ซึ่งก็ส่งผลให้เบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้า ปรับตัวสูงขึ้นกว่ารถยนต์ทั่วไป ถึงร้อยละ 15 และเชื่อว่าในปี 2567 นี้ เบี้ยประกันรถยนต์น่าจะปรับสูงขึ้นตามไปด้วย ถือเป็นอีกเทรนด์ของผลิตภัณฑ์การประกันภัย ที่คาดว่าน่าจะมาแรงที่สุดในปี 2567 นี้ด้วย ซึ่งเราจะเห็นได้จากการสนับสนุนของภาครัฐ ที่ให้สิทธิพิเศษทางภาษีกับผู้นำเข้ารถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของการประกันภัยที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ ที่น่าจะมีโอกาสเติบโตสูงขึ้นในปี 2567 นี้เช่นกัน” 

ปรับผลิตภัณฑ์ให้เล็กลงให้ง่ายต่อการเข้าถึง

นอกจากนี้ ผู้บริหาร TIPH ยังบอกถึงแผนการปรับในเรื่องของผลิตภัณฑ์ด้านการประกันอีกด้วยว่า “วันนี้ เพรากำลังมีความพยายามที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์ด้านการประกันบางผลิตภัณฑ์ มีตัวเล็กลง ทั้งนี้ก็เพื่อให้ผู้บริโภค หรือ ผู้ซื้อประกัน สามารถตัดสินใจซื้อประกันได้ง่ายขึ้น และเร็วขึ้น” ผู้บริหาร TIPH ยังบอกถึงเทรนด์การประกันอีกหนึ่งอย่างที่เชื่อว่าน่าจะเปลี่ยนไป และสอดรับกับความต้องการของผู้บริโภค อีกด้วย

“วันนี้ เทรนด์ และพฤติกรรมของผู้บริโภค มีการเปลี่ยนไปอย่างมาก โดยเฉพาะในปี 2567 จากการทำประกันภัยเฉพาะบุคคล ก็จะถูกปรับเปลี่ยนมาเป็นการทำประกันภัยดิจิทัล ที่มากขึ้น ซึ่งทั้งหมดจะเป็นการตัดสินใจซื้อประกันผ่านระบบดิจิทัลทั้งหมด และเห็นได้ว่า มีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ ขณะที่ตัวของ TIPH เอง ก่อนหน้านี้ ก็มีการปรับตัวเองมาเป็นเรื่องของดิจิทัล บ้างแล้ว อย่างการซื้อบริษัทเอราวัณประกันภัย เราก็เปลี่ยนบริษัทให้เป็น ดิจิทัล อินชัวแรนซ์ ซึ่งถือเป็น ดิจิทัล อินชัวร์แรนซ์ แห่งแรกที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ภายใต้ชื่อ InsurVerse หรือ บริษัท อินชัวร์เวิร์ส จำกัด (มหาขน)  โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มขายผลิตภัณฑ์ประกันภัยผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ 100% และจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เพราะเป็นบริษัทเดียวที่ไม่มีตัวแทนนายหน้าในการขายผลิตภัณฑ์ และยังเน้นการขายประกันภัยรถยนต์ และการประกันภัยท่องเที่ยว” ผู้บริหาร TIPH กล่าว 

Digital Insurance – AI Technology

“เราเห็นได้ว่า มีผู้บริโภคหันมาซื้อเบี้ยประกันภัยที่เป็น Digital Insurance มากถึง 500 ล้านบาท ซึ่งในปี 2567น้าบริษัทคาดว่าจะมียอดเติบโตในส่วนเพิ่มขึ้นอีก 25% เพราะนี่คือทางเลือกในการช่วยผู้บริโภคสามารถเข้าถึงบริการต่าง ๆ ได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว ทุกที่ ทุกเวลา และทุกประเภทของอุปกรณ์ เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า“

ไม่เพียงแค่การปรับตัวในเรื่องของผลิตภัณฑ์ประกันเท่านั้น วันนี้ยังมีระบบ AI ที่ทาง TIPH นำมาปรับใช้ในการทำงานด้วย “เราพยายามนำระบบ AI มาใช้ในการตอบคำถามต่างๆ โดยเฉาะทาง CHATGPT มาใช้แทนคน ซึ่งถือเป็นตัวช่วยในการจัดการให้การทำงานภายในองค์กร มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึง เรายังมีระบบ Robotic Process Automation มาช่วยทำงานอะไรที่ทำในแบบซ้ำๆ กัน พร้อมกับตรวจสอบ การเคลมสินไหมที่มีมูลค่าต่ำกว่า 3,000 บาทได้ด้วย” ผู้บริหาร กล่าว 

อย่างไรก็ดี ในปี 2567 เชื่อว่า ยังจะมีผลิตภัณฑ์ด้านการประกันภัยใหม่ๆ อีกหลายชิ้น มานำเสนอให้กับผู้บริโภคได้เลือกซื้ออีกมากมาย และไม่แน่ว่า เราอาจจะได้เห็นผลิตภัณฑ์ ที่เกี่ยวกับ การทำประกันให้สัตว์เลี้ยงแสนรัก” เพื่อให้เหล่าบรรดาทาสได้อุ่นใจ เพื่อเป็นการตอบแทน และดูแลสัตว์เลี้ยงแสนรักของพวกเขาได้อย่างดี ตลอดไป