Digiqole ad

อำนาจ

 อำนาจ
Social sharing
Digiqole ad

โลกธรรม คือลาภ ยศ สุข สรรเสริญ พระท่านว่าเป็นธรรมดาธรรมชาติ มีคู่กับสัตว์โลก ประเภทคน ได้มาก็ดี เสื่อมไปก็เสียดายเสียใจ มากน้อยสุดแต่จะรู้ทันมัน คงแปลกหากเห็นใครสักคนเสื่อมลาภ เสื่อมยศเป็นต้น ยิ้มรับดีใจ เอาเป็นว่ายอมรับมันอย่างรู้ทัน ก็นับเป็นคนเต็มคน คนรู้เท่าทันโลกธรรมแล้ว
พุทธภาษิตว่า ยโส ลัทธา นะ มัชเชยยะ มีความหมายว่า ได้ยศนี่อย่าเมา เพราะยศเป็นหนึ่งในธรรมดาของคนๆหนึ่งที่มีโอกาสได้ เมื่อได้มันมามันเสื่อมได้ เสื่อมเป็นธรรมดา ทั้งเสื่อมไม่ธรรมดาด้วย เช่นเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ รัฐมนตรี หรือกระทั่งนักธุรกิจใหญ่ สรุปว่ามีตำแหน่งสูงสุด เสื่อมไปเพราะอายุ ตามกฎระเบียบองค์กร ถือว่าเสื่อม หมดไปธรรมดา ที่เสื่อมไปเพราะเผลอใผลไปทำทุจริตเขาจับได้ไล่ออก นี่ก็ใช่ เป็นเสื่อมและเสียหายด้วย เพราะตัวเร่งให้เสื่อมเร็ว
พระท่านจึงสอนนักหนาไงว่า ได้ยศแล้วอย่าเมายศ ทั้งย้ำเตือนว่า มันเป็นธรรมดาน่ะ รู้มันเสียแต่ตอนมียศ จะได้ไม่ประมาทไง!
วันนี้บ้านเมืองเรา มีปรากฏการณ์ ได้ยศและเสื่อมยศให้เห็นเต็มหูเต็มตา มีทั้งขวากหนามห้ามมียศสนั่นเมือง ทั้งลากชื่อเสียงพระเจ้าพระสงฆ์ อ้างคำสอนท่านเข้าข้างตัวเองครึ่งๆกลาง เอาพระมัวหมองไปด้วย
นักการเมืองมักอ้างคำสอนท่านพุทธทาส ภิกขุ หรือพระธรรมโกษาจารย์(เงื่อม อินฺทปญฺโญ พานิช เปรียญ) จากที่ท่านสอนว่า
“ ประชาธิปไตย คือประโยชน์ของประชาชนเป็นใหญ่ ไม่ใช่ประชาชนเป็นใหญ่ ต้องให้ประชาชนได้ประโยชน์เต็ม อย่างนั้นจึงเป็นประชาธิปไตย ไอ้ประชาชนเป็นใหญ่มันไม่แน่ ประชาชนบ้อบอก็ได้ ถ้าประชาชนเห็นแก่ตัวก็ฉิบหายกันหมด”
นักการเมืองดึงคำสอนนี้ มาอธิบายไม่เต็มธรรม แปลงสารเสียธรรม น่าเวทนาแก่ปัญญาผู้อ้างอย่างเพี้ยนๆผิดๆ
มีนักการเมือง อ้างอำนาจประชาชน เอกสิทธิประชาชนมอบหมาย อยู่สองกลุ่มคือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยปัจจุบันหลังการเลือกตั้ง วันที่14 พฤษภาคม ฝ่ายนี้ยึดโยงประชาชนด้วยการกาบัตรลงคะแนน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบเขต400เขต และระบบบัญชีรายชื่อ100คน รวมที่ได้จากเลือกตั้ง 500 คน จากทุกพรรคที่ส่งสมัครรับเลือกตั้ง กับสมาชิกวุฒิสภาได้รับการแต่งตั้ง250 คน พวกหลังนี้ มาด้วยกฎหมายคือได้อำนาจด้วยการแต่งตั้ง ทั้งได้สิทธิในสภาแปลกประหลาดคือ มีสิทธิลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรี อีกด้วย
2สภานี้ชิงยศชิงลาภกันอย่างเข้มข้น
สภาผู้แทนเลือกตั้งมา จะมาตั้งรัฐบาล วุฒิสภามีท่าทีไม่เอาด้วย อ้างธรรมของท่านพุทธทาส เสมือนว่า ประดาเสียงประชาชนเป็นเสียงบ้า เป็นเสียงไม่จริงๆ เสียงอาตมา(เสียงส.ว.)จริง เสียงส่วนใหญ่ในสภาผู้แทนราษฎร ที่ขาดอยู่จะต้องมาขอ และแสดงท่าทีว่า พวกฉันจะไม่ให้ อ้างสารพัดสารพัน สุดท้ายก็กูไม่เอามรึง ล่ะ
คำสอนของท่านพุทธทาส เมื่อวิเคราะห์ด้วยการเผชิญหน้าทั้ง2สภาวันนี้ วิญญูชนจะเห็นคำ ที่ผู้ใดอ้างอิงคำสอนท่านนั้น มีความฉลาดเป็นปราชญ์ เป็นบัณฑิตเพียงใด หรือสักแต่พวกอยากได้ยศ กับพวกกำลังเสื่อมยศ
ประชาชนคิดได้เอง เมื่อนำคำสอนพุทธทาสเต็มความ คือประชาธิปไตยคือประชาชนส่วนใหญ่ เป็นผู้ให้ประโยชน์
ฝ่ายใดหวั่นไหวต่อความเสื่อมยศ อย่างรันทด
รู้ด้วยธรรมท่านพุทธทาส สาธุ

Facebook Comments

Related post