Digiqole ad

ซีพีเอฟ เดินหน้าสร้างความมั่นคงทางอาหาร จับมือภาคีเครือข่าย เปิดตัวโครงการ “Circular Meal…มื้อนี้เปลี่ยนโลก”

 ซีพีเอฟ  เดินหน้าสร้างความมั่นคงทางอาหาร จับมือภาคีเครือข่าย เปิดตัวโครงการ “Circular Meal…มื้อนี้เปลี่ยนโลก”
Social sharing

Digiqole ad

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ จับมือภาคีเครือข่ายองค์กรชั้นนำ ขับเคลื่อนโครงการ “Circular Meal…มื้อนี้เปลี่ยนโลก” ส่งมอบอาหารปลอดภัยให้แก่ผู้ที่ขาดแคลนและด้อยโอกาส ลดการสูญเสียอาหารและจัดการอาหารส่วนเกิน พร้อมสร้างสรรค์อาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ตอกย้ำความมุ่งมั่นสร้างความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืน

นายวุฒิชัย สิทธิปรีดานันท์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซีพีเอฟ กล่าวว่า ซีพีเอฟ มุ่งมั่นขับเคลื่อนภารกิจสร้างความมั่นคงทางอาหาร โดยนำหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มาใช้ ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรในกระบวนการผลิตให้เกิดประสิทธิภาพและประโยชน์สูงสุด พร้อมกันนี้ บริษัทฯได้กำหนดนโยบายการจัดการอาหารสูญเสียและขยะอาหาร ส่งเสริมการลดการสูญเสียอาหาร อาหารส่วนเกิน และขยะอาหาร ตั้งแต่ต้นทางการผลิต ครอบคลุมตลอดห่วงโซ่คุณค่าของการผลิตอาหาร สนับสนุนการนำอาหารส่วนเกินสู่การสร้างโภชนาการที่ดีให้แก่สังคม ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ซีพีเอฟ ได้ร่วมมือกับภาคีเครือข่ายองค์กรชั้นนำ นำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนมาใช้กับโครงการ “Circular Meal…มื้อนี้เปลี่ยนโลก” เน้นลดผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมและใช้ทรัพยากรเกิดประโยชน์สูงสุด ภายใต้หลักการ Reduce – Recharge – Reborn ประกอบด้วย Reduce เป็นการลดการสูญเสียอาหาร (Food Loss) และการเกิดขยะอาหาร (Food Waste) ReCharge ร่วมเติมพลังงานชีวิต แก่ผู้ที่ขาดแคลนให้สู้ต่อไป ด้วยมื้ออาหารปลอดภัย สด สะอาด จากกระบวนการจัดการอาหารส่วนเกิน (Food Surplus) อย่างถูกหลักอนามัยและสู่การปรุงตามหลักโภชนาการที่เหมาะสม จนได้มื้ออาหารคุณภาพสำหรับทุกคน (Food Security for ALL) และ ReBorn คือ ร่วมสร้างชีวิตใหม่ ทั้งคนและผลิตภัณฑ์ ตลอดจนบรรจุภัณฑ์ เพื่อเติมความสมดุลแก่ระบบนิเวศตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน พร้อมทั้งยกระดับสู่การเปลี่ยนแปลงในระบบอาหารที่ยั่งยืน (Food System Transformation) ตามเป้าหมาย Zero Food Waste to landfill ภายในปี 2030 สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals : SDGs) ข้อที่ 2 คือ การขจัดความหิวโหย ข้อที่ 12 คือ การส่งเสริมการผลิตและการบริโภคอย่างยั่งยืน และข้อที่ 17 คือ การสร้างความร่วมมือระดับสากลเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน


โครงการ “Circular Meal…มื้อนี้เปลี่ยนโลก” มีเป้าหมายส่งมอบอาหารจากการบริหาร Food Surplus เพื่อส่งเสริมโภชนาการที่ดีพร้อมกับกระบวนการเก็บกลับบรรจุภัณฑ์อย่างมีความรับผิดชอบ (Take back system) ครบวงจร โดยตลอดปี 2564 จะนำร่องโครงการด้วยการส่งมอบอาหารทั้งหมด 10,000 ชุด ให้กับผู้ด้อยโอกาสและขาดแคลนอาหารในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งกิจกรรมแรกที่เข้าสนับสนุน คือ โครงการ Education for the Deaf (EDeaf) ซึ่งเป็นโครงการส่งเสริมความเท่าเทียมทางการศึกษาและสร้างทักษะในการประกอบอาชีพให้แก่ผู้พิการทางการได้ยิน ให้มีโอกาสทางการศึกษาและประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองได้ในอนาคต โดยได้จัดกิจกรรมส่งมอบอาหารครั้งแรกในเดือนเมษายน ให้กับผู้พิการทางการได้ยิน จำนวน 400 ชุด พร้อมทั้งเตรียมประกาศความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายอย่างเป็นทางการ ในเดือนกรกฎาคม 2564 นี้


“การผนึกกำลังกับภาคีเครือข่ายชั้นนำครั้งนี้ เป็นการนำศักยภาพของแต่ละองค์กรมาร่วมสร้างระบบนิเวศ ช่วยรักษาและใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า ตลอดจนร่วมลดผลกระทบที่เกิดขึ้นจากกระบวนการผลิตและพฤติกรรมการบริโภคของมนุษย์แบบครบวงจร (Closing the loop ecosystem) เพื่อใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด” นายวุฒิชัย กล่าว

นายวุฒิชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการ Circular Meal มื้อนี้เปลี่ยนโลก เป็นการบริหารจัดการแบบองค์รวม ตั้งแต่ต้นทางวัตถุดิบจนถึงปลายทางผู้บริโภค โดยส่งเสริมให้ผู้ที่ได้รับอาหารและชุมชนมีส่วนร่วมในการเก็บบรรจุภัณฑ์อาหารทั้งหมด เพื่อนำไปส่งต่อให้บริษัทที่เกี่ยวข้อง นำไปรีไซเคิลและการสร้างประโยชน์ใหม่ (Upcycling) และที่สามารถย่อยสลายได้ อย่างเหมาะสมตามเป้าหมายการสร้างความมั่นคงทางอาหาร

สำหรับภาคีองค์กรที่ร่วมโครงการ Circular Meal…มื้อนี้เปลี่ยนโลก ประกอบด้วย บริษัท พีทีที โกลบอล เคมีคอล จำกัด (มหาชน), บริษัทสยาม แม็คโคร จำกัด (มหาชน), บริษัท ซี.พี. อินเตอร์เทรด จำกัด (ข้าวตราฉัตร) , มูลนิธิสโกลาร์ ออฟ ซัสทีแนนซ์ (SOS) , วิสาหกิจชุมชน ซับรวงไทร , Wastegetable และ GEPP Sa-Ard (เก็บ สะอาด) ซึ่งหลังจากนี้ ภาคีเครือข่ายและพันธมิตรจะร่วมกันจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อ

Facebook Comments


Social sharing

Related post