Digiqole ad

UAC ประกาศท็อปฟอร์ม โชว์รายได้ปี 66 แตะ 1,589.78 ล้านบาท

 UAC ประกาศท็อปฟอร์ม โชว์รายได้ปี 66 แตะ 1,589.78 ล้านบาท
Social sharing

Digiqole ad

บอร์ดเคาะจ่ายปันผลเพิ่ม 0.10 บาท ขึ้น XD 7 มี.ค. นี้

บมจ.ยูเอซี โกลบอล ( UAC ) ประกาศผลการดำเนินงานปี 2566 โกยรายได้ 1,589.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.13% (YoY) และมีกำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัท และ EBITDA จำนวน 278.03 ล้านบาท และ 448.54 ล้านบาท จากการเติบโตของ 4 กลุ่มธุรกิจ ล่าสุดบอร์ดไฟเขียวปันผลเพิ่ม 0.10 บาท/หุ้น จ่อขึ้น XD 7 มี.ค.นี้ และกำหนดจ่ายปันผล 29 เม.ย. 2567 พร้อมประกาศเดินหน้าเปิด COD โครงการโรงไฟฟ้าภูผาม่าน-PT Cahaya Yasa Cipta (CYC)-และเพิ่มกำลังการผลิตปิโตรเลียม  เร่งดันรายได้เพิ่มให้บริษัทฯ

          บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ “UAC” รายงานผลการดำเนินงานงวดปี 2566 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ภาพรวมธุรกิจในปี 2566 ยังเจอแรงกดดันจากการชะลอตัว ของเศรษฐกิจโลก ปัจจัยอัตราเงินเฟ้อ และการปรับสูงขึ้นของอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้บริษัทฯ มุ่งให้ความสำคัญ เพื่อรักษาสภาพคล่องทางการเงิน เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ควบคุมต้นทุน การผลิตและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ผลการดำเนินงานปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการเติบโตอย่างโดดเด่นแตะที่ระดับ 1,589.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 309.03 ล้านบาท (YoY) หรือ 24.13 % (YoY) และมีกำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัท และ EBITDA จำนวน 278.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 252.55 % (YoY) และ 448.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 84.94 % (YoY)

            “สำหรับผลการดำเนินงานเติบโตอย่างโดดเด่น มาจากการรับรู้กำไรจากการขายเงินลงทุน กำไรจากการเปลี่ยนสถานะเงินลงทุน กำไรจากการขายสินทรัพย์ รวมทั้งสิ้น 129.34 ล้านบาท รวมถึงการได้รับส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในบริษัทร่วมอย่างต่อเนื่อง จำนวน 87.84 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้รับเงินปันผลจากบริษัทร่วม จำนวน 57.33 ล้านบาท ทำให้กระแสเงินสด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 อยู่ที่ระดับ 330.20 ล้านบาท และยังสามารถรักษาอัตราส่วนหนี้สินรวมต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) ที่ 1.04 เท่า ตามนโยบายทางการเงินของบริษัทฯ ที่ไม่เกิน 2 เท่า

          นายชัชพล ประสพโชค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ “UAC” เปิดเผยว่า ปี 2566 ผลการดำเนินใน 4 กลุ่มธุรกิจของบริษัทฯ มีการเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะ กลุ่มธุรกิจ (Trading) มีรายได้รวมทั้งสิน 1,329.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.40% (YoY) จากยอดขายในกลุ่มEnergy เพิ่มขึ้นจำนวน 287.58 ล้านบาท หลังจากปัญหาการขนส่งจาก Principle คลี่คลาย และยังมี Margin ที่สูงกว่าที่คาดการณไว้ แม้ว่ากลุ่ม Industrial ยอดขายลดลง 114.11 ล้านบาท จากการขายสินค้าผ่าน UAC จำนวน 38.54 ล้านบาท และบริษัท ยูเอซี เทรดดิ้ง โซลูชั่นส์ จำกัด อีก 163.48 ล้านบาท

          กลุ่มธุรกิจ Manufacturing – Energy มีรายได้รวมทั้งสิ้น 195.25 ล้านบาท ลดลง 2.60 ล้านบาท โรงงานต่างๆ ยังคงทำการผลิตต่อเนื่องตามเป้าหมาย

กลุ่มธุรกิจ Manufacturing – Petroleum มีรายได้รวมทั้งสิ้น 64.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 50.81 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 363.45% (YoY) เนื่องจากแหล่งบูรพา (L11/43) มีกำลังผลิตเพิ่มขึ้นจากการติดตั้ง Beam Pump จำนวน 1 ชุด และอีก 2 ชุด ในอยู่ระหว่างติดตั้ง และคาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 1/2567 เพื่อเพิ่มการผลิตปิโตรเลียมให้ได้วันละ 300 BBL/D  

กลุ่มธุรกิจ Manufacturing – Chemicals ดำเนินกิจการโดยบริษัท ยูเอซี แอ็ดวานซ์ โพลิเมอร์ แอนด์ เคมิคัลส์ จำกัด (UAPC) (บริษัทร่วม) มีส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนตามสัดส่วนการถือหุ้น จำนวน 1.80 ล้านบาท และกำไรสำหรับงวดจากการดำเนินงานที่ยกเลิก จำนวน 3.34 ล้านบาท จากยอดขายโดยรวมยังคงชะลอตัวตามสภาพเศรษฐกิจ  

ในวันเดียวกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติเพื่อเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการปี 2566 ในอัตราหุ้นละ 0.22 บาท โดยเป็นเงินปันผลระหว่างกาลที่ได้จ่ายให้กับผู้ถือหุ้นไปแล้ว ในอัตราหุ้นละ 0.12 บาท และเงินปันผลที่จะเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติจ่ายเพิ่มเติมอีก 0.10 บาทต่อหุ้น สะท้อนให้เห็นถึงผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างโดดเด่น โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 8 มีนาคม 2567 และขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 7 มีนาคม 2567 และกำหนดการจ่ายเงินปันผล ในวันที่ 29 เมษายน 2567   

 สำหรับแผนความคืบหน้าของการดำเนินงานโครงการต่างๆ โครงการที่จะสร้างโอกาสการเติบโตให้ UAC ในปี 2567 ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าภูผาม่าน (PPM) ซึ่งหลังจากที่ได้รับสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) จากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เดือนกุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา บริษัทฯ เตรียมเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ในส่วนของหน่วย Generator#1 ซึ่งมีกำลังการผลิตไฟฟ้า 1.5 เมกกะวัตต์ ภายในไตรมาส 1/2567 นี้ และส่วนของหน่วยGenerator#2 มีกำลังการผลิต 1.5 เมกกะวัตต์ คาดว่าจะดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ภายในไตรมาส 2/2567

ส่วนโครงการ PT Cahaya Yasa Cipta (CYC) ซึ่งเป็นการลงทุนของบริษัท ยูเอซี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด(บริษัทย่อย) ในบริษัท PT Cahaya Cipta สัดส่วน 70% เพื่อดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตและจำหน่าย RDF3 ในประเทศอินโดนีเซีย มีกำลังการผลิตประมาณ 40,000 ตัน/ปี โดยคาดว่าจะจำหน่ายให้กับโรงปูนซีเมนต์ในพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และยื่นขอใบอนุญาตต่างๆ คาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างโรงงานและเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ไตรมาส 4/2567

ด้านการผลิตปิโตรเลียม ได้วางแผนติดตั้ง Beam Pump ที่แหล่งบูรพาเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตจำนวน 3 ชุด โดยติดตั้งแล้วเสร็จจำนวน 1 ชุด อีก 2 ชุดที่เหลือคาดว่าจะติดตั้งเสร็จภายในไตรมาส1/2567 ซึ่งจะเพิ่มกำลังการผลิตให้ได้ตามเป้า 300 BBL/D

 

Facebook Comments


Social sharing

Related post