Digiqole ad

น้ำตาภารโรงบุรีรัมย์โดน ผอ. ให้รับผิดชอบซ่อมรถสองหมื่นปลายทั้งที่ไม่ได้ขับ

 น้ำตาภารโรงบุรีรัมย์โดน ผอ. ให้รับผิดชอบซ่อมรถสองหมื่นปลายทั้งที่ไม่ได้ขับ
Social sharing

Digiqole ad

 

อำเภอนาโพธิ์  จังหวัดบุรีรัมย์///นักการภารโรง ถึงกับประกาศลาออก หลังจาก ผอ.โรงเรียนเทศบาลชื่อดัง หักเงินเดือนทั้งหมด ให้รับผิดชอบซ่อมรถรับส่งนักเรียนเองมูลค่า 2.4 หมื่นที่เสียหาย ชี้เป็นคนขับต้องรับผิดชอบ เจ้าตัวเผยรถเก่ากว่า 36 ปีให้ขับรับส่งนักเรียนแต่วันรถเสียไม่ได้ขับ วุ่นยังไม่จบ

วันที่ 30 ก.ค.67 เพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีทริน์ part 7 ได้โพสต์ข้อความเขียนถึงภารโรงท่านหนึ่งทราบต่อมาเป็นลูกสาวของผู้เสียหาย ระบุข้อความจับใจความพอสังเขป ว่า พ่อทำงานเป็นภารโรงมากว่า 10 ปี มีหน้าที่ขับรถรับส่งนักเรียนโดยใช้รถของโรงเรียน เป็นรถยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฮีโร่ ซึ่งเป็นรถเก่ามีอายุมากกว่า 37 ปี แต่เกิดปัญหารถพัง

โรงเรียนเอาไปซ่อมต้องจ่ายค่าซ่อม 25,000 บาท ผอ.โรงเรียนให้ ภารโรงซึ่งเป็นคนขับรถจ่ายค่าซ่อมทั้งหมด โดยเริ่มจากการหักเงินเดือนครั้งแรก 9,000 บาท จากเงินเดือน 10,000 บาท ถึงขั้นเขียนใบลาออกจากการเป็นภารโรง เพราะไม่ลูกสาวไม่พอใจเนื่องจากสาเหตุมาจากเครื่องยนต์เก่าและใกล้จะพังแล้ว


ผู้สื่อข่าวตรวจสอบพบว่า ภารโรงคนดังกล่าว คือนายกฤษณะ หรือหนึ่ง พิทักษ์เกิด อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 95 ม.1 ต.นาโพธิ์ อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ ตำแหน่งนักการภารโรง โรงเรียนเทศบาลนาโพธิ์ อ.นาโพธิ์ จ.บรีรัมย์

นายกฤษณะ เล่าว่าสตนเป็นนักการภารโรงมาได้ประมาณ 10 ปี ได้ค่าตอบแทนเดือนละ 10,000 บาท ในช่วงหลัง ผอ.โรงเรียนได้ให้เป็นคนขับรถรับส่งนักเรียน โดยใช้รถของโรงเรียน เป็นรถยนต์ติดคอกทำเป็นรถสองแถวมีหน้าที่ขับรถไปรับและส่งนักเรียนตามหมู่บ้านแล้วเอามาส่งที่โรงเรียน

นายกฤษณะ เล่าด้วยว่า รถยนต์สองแถวคันดังกล่าวที่ตนขับไปส่งนักเรียน เป็นรถรุ่นเก่า อายุจนถึงตอนนี้ ประมาณ 37 ปี มีข้อเสียหลายอย่างโดยเฉพาะเครื่องยนต์ที่ทรุดโทรม ต้องเติมน้ำมันเครื่องทุกวันเนื่องจากเครื่องยนต์หลวม

ก่อนเกิดเหตุตนลางาน 2 วันในช่วงวันที่ 1-2 ก.ค.เพราะต้องไปทำธุระที่กรุงเทพฯ ทราบภายหลังว่า ผอ.ให้นายปัญญา ปักกาโต รองปลัดเทศบาลตำบลนาโพธิ์ เป็นคนขับรถรับส่งนักเรียนแทน หลังกลับมา ผอ.เรียกไปพบว่ารถรับส่งนักเรียนเครื่องพังต้องเอาไปซ่อม โดยจะให้ตนรับผิดชอบค่าซ่อมทั้งหมดตอนนั้นยังไม่รู้ว่าค่าซ่อมรถเท่าไหร่ ตนก็ฟังเอาไว้

กระทั่งบิลค่าซ่อมรถจากร้านซ่อมออกมายอด 24,600 บาท ต่อมา ผอ.ได้เรียกตนให้ไปคุยโดยสรุปเบื้องต้นว่าให้รับผิดชอบค่าซ่อมรถทั้งหมด ตอนนั้นยอมรับว่าอึ้งเพราะตนเพียงแค่เป็นคนขับรถให้

จนล่าสุดเงินเดือนสิ้นเดือนนี้ตนถูกหักเงินเดือนไปทั้งหมดที่เหลือ 9,500 บาท จากเงินเดือน 10,000 บาท เพราะประกันสังคมหักไป 500 บาท แต่ยังไม่วายที่ ผอ.จะตามจี้เอาเงินส่วนที่เหลือจากค่าซ่อมอีก 15,000 บาท

ตนจึงตัดสินใจเขียนใบลาออกจากการเป็นภารโรง หลังจากนั้นลูกสาวตนได้โพสต์ขอความช่วยเหลือ จนกระทั่ง ผอ.เรียกตนเข้าไปพูดคุยว่าจะให้กลับมาทำงานต่อ แต่ต้องหักส่วนที่ค้างจ่ายค่าซ่อมอีก 15,000 บาท โดยจะหักเงินเดือนๆละ 3,000 บาท รวม 5 เดือน

นายกฤษณะ เล่าด้วยว่า จริงแล้วตนเป็นนักการภารโรง แต่เมื่อผู้บังคับบัญชาให้ทำหน้าที่ให้ขับรถตนก็ยอม แต่การให้จ่ายค่าซ่อมให้ตนมองแล้วไม่ยุติธรรม เพราะรถอยู่ในสภาพเก่าต้องเติมน้ำมันเครื่องทุกวันเพื่อหล่อเลี้ยงให้วิ่งได้ในแต่ละวัน สาเหตุที่รถพังเพราะคนขับรถแทนไม่เติมน้ำมันเครื่อง ทั้งนี้จะเติมน้ำมันเครื่องหรือไม่เติมรถก็จะพังเหมือนเดิม เพราะรถอยู่ในลักษณะระยะสุดท้ายแล้ว

ด้านนางศุกภรักษ์ พิทักษ์เกิด อายุ49ปี ภรรยา นักการภารโรง เล่าว่ายอมรับว่าครอบครัวเจ็บปวดที่ถูกกระทำในลักษณะนี้ เงินเดือนโดนหักไปทั้งหมด แต่ครอบครัวมีภาระที่ต้องจ่ายประจำเดือนต้องไปกู้เงินนอกระบบไปเสริมสภาพเพื่อให้อยู่ได้ ส่วนหนึ่งก็ยังอยากจะให้สามีไปทำงานถึงแม้จะโดนหักอีกเดือนละ 3,000 อีก 5 เดือนจนครบ 15,000 บาท แต่ลูกสาวไม่ยอมเพราะดูเหมือนจะไม่ได้รับความยุติธรรม

อชันตา ชำนาญกอง

จังหวัดบุรีรัมย์ รายงาน

 

Facebook Comments


Social sharing

Related post