Digiqole ad

“BIOMED Technology ประเทศไทย” ผนึกพลัง “Elements Clinic” เปิดศูนย์โพรไบโอติกส์เฉพาะบุคคลแบบครบวงจรแห่งแรกในอาเซียน ปลุกเทรนด์สุขภาพดีด้วยจุลินทรีย์ที่สมดุล

 “BIOMED Technology ประเทศไทย” ผนึกพลัง “Elements Clinic”  เปิดศูนย์โพรไบโอติกส์เฉพาะบุคคลแบบครบวงจรแห่งแรกในอาเซียน ปลุกเทรนด์สุขภาพดีด้วยจุลินทรีย์ที่สมดุล
Social sharing

Digiqole ad

BIOMED Technology ประเทศไทย ผู้นำในการดูแลจุลินทรีย์ในลำไส้ (Gut Microbiome) ที่โดดเด่นด้วยการเป็น One-Stop Service สำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพด้วยการสร้างสมดุลให้จุลินทรีย์ ตั้งแต่การเก็บตัวอย่างอุจจาระ-การส่งผลตรวจไปที่ฮ่องกง-ให้คำปรึกษาพร้อมจ่ายโพรไบโอติกส์แบบเฉพาะบุคคลโดยทีมแพทย์ไทย หรือโพรไบโอติกส์สำหรับบุคคลทั่วไป จนถึงตัวเลือกด้านไลฟ์สไตล์ที่คัดสรรมาว่าเหมาะสมกับการดูแลจุลินทรีย์ ล่าสุดร่วมมือกับ Elements Clinic ผู้ให้บริการดูแลรักษาสุขภาพแบบองค์รวม ที่มีแนวทางการรักษาแบบ Personalized Medicine ก่อตั้ง “ศูนย์โพรไบโอติกส์เฉพาะบุคคล” (Personalized Probiotics Center) แบบครบวงจร แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สร้างมิติใหม่ให้วงการดูแลสุขภาพแบบเชิงป้องกัน ตอกย้ำการเป็น Complete Solution สำหรับคนรักสุขภาพที่ต้องการสร้างสมดุลให้จุลินทรีย์อย่างแม่นยำและเห็นผล

วันวนัส มาอินทร์ ซีอีโอบริษัท BIOMED Technology ประเทศไทย กล่าวว่า การสร้างสมดุลให้จุลินทรีย์เป็นหนึ่งใน Preventive Care หรือ การดูแลตัวเองเชิงป้องกัน ที่เป็นหนึ่งในโกลบอลเทรนด์ เป็นการบรรเทาความเสี่ยงที่ต้นเหตุของโรครวมถึงอาการเจ็บป่วยที่จุดเริ่มต้น เพราะจุลินทรีย์ที่เสียสมดุลเป็นจุดเริ่มต้นของโรคเรื้อรังและร้ายแรงหลายโรค แตกต่างจากวิธีรักษาทั่วไป ซึ่งมักใช้วิธีการเลี่ยง หรือรักษาเมื่อเกิดอาการเจ็บป่วยหนักขึ้นมาแล้ว “คนเราก็ไม่ต่างจากจุลินทรีย์ที่เดินได้ เพราะในร่างกายคนเราประกอบด้วยเซลล์จุลินทรีย์ทั้งชนิดดีและไม่ดีถึง 90% ของเซลล์ทั้งหมด โดยเฉพาะจุลินทรีย์ในลำไส้ มีอิทธิพลต่อการทำงานของเกือบทุกระบบในร่างกาย ตั้งแต่ สมอง ทางเดินอาหาร ระบบต่อมไร้ท่อ ระบบภูมิคุ้มกัน เป็นต้น หากเกิดภาวะไม่สมดุล อาจก่อให้เกิดโรคเรื้อรังต่างๆได้ เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน ภูมิคุ้มกันบกพร่อง ภูมิแพ้อาหาร ภูมิแพ้อากาศ ท้องผูก มะเร็งลำไส้ ปัญหาการนอน ผิวหนังอักเสบ  เป็นต้น การรับประทานอาหารเสริมที่มีโพรไบโอติกส์ เพื่อดูแลสมดุลจุลินทรีย์ลำไส้ จึงเป็นหนึ่งในการดูแลสุขภาพที่เป็นที่นิยม”

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา การรับประทานโพรไบโอติกส์ตามเทรนด์ อาจให้ผลลัพธ์ที่ไม่มีประสิทธิภาพมากนัก เพราะจุลินทรีย์ในร่างกายคนเราแตกต่างกันไปตามพฤติกรรมการใช้ชีวิต ดังนั้นการเลือกโพรไบโอติกส์ที่สายพันธุ์และปริมาณเหมาะสมกับแต่ละคน จึงเป็นสิ่งสำคัญในการคืนช่วยสมดุลจุลินทรีย์ในระยะเวลาที่รวดเร็วขึ้นและแม่นยำมากขึ้น นี่จึงเป็นที่มาของ BIOMED ที่เป็นตัวช่วยในการดูแลสุขภาพของทุกคน ด้วยการตรวจจุลินทรีย์ในลำไส้จากอุจจาระ ซึ่งเป็นวิธีที่แม่นยำที่สุดวิธีหนึ่งในการหาความเสี่ยงหรือสาเหตุของอาการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นแล้วจากจุลินทรีย์เสียสมดุล เพื่อให้แพทย์นำไปประกอบการวินิจฉัย และสั่งจ่ายโพรไบโอติกส์แบบเฉพาะบุคคล เพื่อคืนสมดุลจุลินทรีย์”

วันวนัส ยังเสริมด้วยว่า จุดเด่นของ BIOMED  เป็นแบรนด์แรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีทีมแพทย์ นักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญของ BIOMED Technology ฮ่องกง ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นหลักของ BIOMED ประเทศไทย ก่อตั้งโดยกลุ่มนักวิทยาศาสตร์และแพทย์ที่เป็นผู้นำทีมถอดรหัสจีโนม SARS-CORONAVIRUS จนสำเร็จ มีห้องปฏิบัติการอยู่ที่ Hong Kong Science Park ซึ่งถือเป็นอุทยานวิทยาศาสตร์ที่ล้ำหน้าที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ก่อตั้งโดยรัฐบาลฮ่องกง  และในการระดมทุนรอบล่าสุด Hong Kong Science Park ได้เข้ามาถือหุ้นทของ BIOMED Technology ฮ่องกง  ที่มูลค่าบริษัทราว 500 ล้านบาท หลังก่อตั้งเพียงประมาณ 3 ปี

“นอกจากบริการที่ได้มาตรฐานระดับโลก BIOMED ยังตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้า ด้วยนวัตกรรมชุดเก็บตัวอย่างที่ส่งตรงถึงบ้าน จากนั้นนำไปส่งไปตรวจ DNA ของจุลินทรีย์ตามแพ็กเกจที่ลูกค้าเลือกที่ BIOMED Hong Kong Science Park โดยลูกค้าจะได้รับผลหลังตัวอย่างถึงห้องแล็บประมาณ 1 สัปดาห์ และสามารถนัดแพทย์เพื่อรับคำปรึกษาในรูปแบบ Teleconsult พร้อมให้แพทย์สั่งจ่ายโพรไบโอติกส์สายพันธุ์ที่เหมาะสมกับผลตรวจแบบเฉพาะบุคคล เพื่อส่งตรงถึงบ้าน เรียกว่าเป็นบริการที่ครบวงจร ที่จัดการทุกอย่างได้ง่ายๆ ด้วยปลายนิ้ว และเร็วๆ นี้ ยังมีแผนจะแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ไปสู่แพลตฟอร์มอื่นๆ ซึ่งถือแบรนด์แรกที่ให้ complete solution ได้เป็นอีคอมเมิร์ซ 100%”

นอกจากนี้ BIOMED ยังได้ร่วมมือกับพันธมิตรอย่างคลินิกและโรงพยาบาลชั้นนำ เพื่อขยายการตรวจจุลินทรีย์ในลำไส้ และโพรไบโอติกส์ให้เป็นวงกว้างมากขึ้น โดยวางแผนหารือร่วมกับพันธมิตรแต่ละเจ้าในการปรับเปลี่ยนรายละเอียดการบริการ ให้แตกต่างแต่สอดคล้องกับ persona ของกลุ่มลูกค้าของแต่ละพันธมิตร และล่าสุด ยังยกระดับการให้บริการไปอีกขั้น ด้วยการร่วมมือกับ Elements Clinic ก่อตั้งศูนย์โพรไบโอติกส์เฉพาะบุคคลแบบครบวงจร แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย

ชาดา เพี้ยนภักตร์ กรรมการผู้จัดการ Elements Clinic เผยถึงที่มาของการร่วมมือครั้งสำคัญนี้ว่า Elements Clinic เป็นคลินิกเวชกรรม ที่ก่อตั้งขึ้นด้วยความเชื่อที่ว่า การดูแลสุขภาพในเชิงป้องกัน คือกุญแจสำคัญสู่การมีชีวิตที่ยืนยาวและมีสุขภาพดี ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ BIOMED ที่มองว่า “สุขภาพดีเริ่มที่จุลินทรีย์สมดุล” แต่เพราะคนเรามีจุลินทรีย์ในร่างกายที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้น จึงต้องการโพรไบโอติกส์สายพันธุ์ที่ตอบโจทย์เฉพาะบุคคล จึงนำมาสู่การร่วมมือครั้งสำคัญ เพื่อผลักดันให้การดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน ด้วยการสร้างสมดุลให้จุลินทรีย์เป็นที่รู้จักในวงกว้างและเห็นผลที่แม่นยำ

จุดเด่นของศูนย์โพรไบโอติกส์เฉพาะบุคคล ซึ่งตั้งอยู่ที่ Elements Clinic อาคารอโศกทาวเวอร์ส คือ การบูรณาการรักษา ด้วยการนำผลตรวจโพรไบโอติกส์ของคนไข้แต่ละคนมาวางแผนการรักษา โดยใช้ทรีตเมนต์ต่างๆ ของคลินิก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้เลเซอร์บำบัด โอโซนบำบัด การให้วิตามินสูตรพิเศษทางหลอดเลือด การสวนล้างลำไส้ รวมถึงการใช้ Bach Flower Remedies หรือการบำบัดด้วยน้ำดอกไม้

“ดิฉันเชื่อว่าศูนย์แห่งนี้จะเป็นหนึ่งใน Game Changer ที่สำคัญของธุรกิจ เพราะ นอกจากจะตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพที่เน้นที่การป้องกันก่อนเกิดโรค ยังมีนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ยุค New Normal ด้วยบริการ Home Delivery คนไข้สามารถเลือกได้ว่าจะมาฟังผลที่คลินิกหรือฟังผ่านวิดีโอคอลล์ แล้วแพทย์สั่งจ่ายโพรไบโอติกส์ส่งไปให้รับประทานที่บ้านได้ แปลว่าทั้งกระบวนการนี้ คนไข้เลือกมีสุขภาพที่ดีขึ้นโดยไม่ต้องก้าวเท้าออกจากบ้านได้ถ้าไม่ต้องการ”

ทั้งนี้ชาดา ตั้งเป้าว่า ศูนย์แห่งนี้ จะเพิ่มรายได้ให้ Elements Clinic ราว 20% เพราะด้วยจุดแข็งของบริการที่ได้มาตรฐานระดับโลก บวกกับจุดเด่นของผลิตภัณฑ์อาหารเสริมโพรโบโอติกส์ที่มีทั้งโพรไบโอติกส์เฉพาะบุคคล (Personalized Probiotics) แบบกึ่งเฉพาะบุคคล (Semi Personalized Probiotics) และแบบสำหรับบุคคลทั่วไป เสริมทัพด้วยแพ็กเกจการตรวจสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ ที่มีให้เลือกหลากหลาย เน้นตอบโจทย์ 6 ปัญหาหลัก ได้แก่ ปัญหาโรคอ้วนและการเผาผลาญบกพร่อง (Obesity and Metabolic Syndrome) ปัญหาภูมิแพ้และหอบหืด (Allergy and Skin) ปัญหาป่วยง่าย ภูมิต่ำ เสี่ยงมะเร็งลำไส้ (Core Microbiota) ปัญหาระบบทางเดินอาหาร (Gut Toxin) ปัญหารวม 4 ประเภท (Diamond) และปัญหาภูมิแพ้ในเด็กทารกแรกเกิดถึงสามขวบ (Infant Allergy)

Facebook Comments


Social sharing

Related post