4 โค้ช “ปิ่น-ปุ๋ย-หนุ่ม-บ๊อบ” แบ่งปันข้อคิดการใช้ชีวิต ในโอกาสครบรอบ 8 ปี “วินทุกเว(ที) Ways to win” พ็อกเกตบุ๊กระดับตำนาน

14 ตุลาคม 2564 ครบรอบ 8 ปี ของพ็อกเกตบุ๊กระดับตำนานอย่าง “วินทุกเว(ที) Ways to Win” คัมภีร์พิชิตมงกุฎ กลยุทธ์สู่ดวงดาว” โดยสำนักพิมพ์ไอซีซี พับลิชชิ่ง ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2556 ณ โรงแรมปทุมวันปริ๊นเซส โดยมี ดร.บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี เป็นพิธีกรดำเนินรายการ ซึ่งมีไฮไลท์ของงานคือ การบันทึกสถิติจาก Ripley’s Believe It or Not! Pattaya ว่าเป็นการชุมนุมผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจากเวทีต่าง ๆ มากที่สุดในประเทศไทย

โดยพ็อกเกตบุ๊กเล่มนี้ เขียนโดยทีมโค้ชที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการประกวดทั้ง 5 คน นำโดย ครูปิ่น-ปิ่นศิริ ศิริปิ่น ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาศิลปิน SMD 1987,คุณหนึ่ง-ชัชวาลย์ พวงเดช อดีตหัวหน้าข่าวบันเทิง หนังสือพิมพ์สยามรัฐ (ถึงแก่อนิจกรรมแล้ว),อ.ปุ๋ย-อนุรี อนิลบล อดีตผู้บริหาร MTI,กูรูหนุ่ม-นันท์นภัทร (ประเสริฐ) เจิมจุติธรรม ผู้เชี่ยวชาญด้านการประกวดและความงาม,ดร.บ๊อบ-จุมพล โพธิสุวรรณ บรรณาธิการข่าวสำนักข่าวบางกอกทูเดย์และผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการพูด

ซึ่งถึงวันนี้วันที่ 14 ตุลาคม 2564 ครบรอบ 8 ปีพอดี 4 โค้ชทีมที่ขณะนี้ได้แยกย้ายกันไปใช้ชีวิตส่วนตัว เนื่องจากการตัดสินใจในการเปลี่ยนวิถีในการดำเนินชีวิตและด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โควิด-19 มาอัพเดตชีวิตของแต่ละคนกันว่า ทำอะไรกันอยู่ พร้อมทั้งข้อคิดดี ๆ ทั้งเรื่องการประกวดและการดำเนินชีวิตในวิถี New Normal

ครูปิ่น-ปิ่นศิริ ศิริปิ่น ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาศิลปิน SMD 1987 กล่าวว่า ช่วงนี้กักตัวอยู่ในบ้านที่จังหวัดนนทบุรี เพราะเราอายุเยอะแล้วแถมยังมีโรคประจำตัวจึงต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ ถ้าหากจะออกไปก็ไปซื้ออาหารสดและอาหารแห้งมาทานให้ยาวไปหลาย ๆวัน แต่ยังคงมีงานให้ทำอยู่เรื่อย ๆ โดยเฉพาะงานสอนงานแนะนำเด็ก ๆ เกี่ยวกับการพัฒนาทักษะด้านการร้องเพลงผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งมีผู้ปกครองเด็ก ๆติดต่อเข้ามาบ้าง เพราะลูกหลานอยู่บ้านไม่รู้จะทำอะไร พูดตรง ๆว่า แรก ๆยังไม่ค่อยถนัด รู้สึกมันขัด ๆ ไม่เหมือนเรียนจริงแบบตัวต่อตัว แต่ในท้ายที่สุดเราต้องปรับตัวให้เข้ากับวิถีการใช้ชีวิตในยุค New Normal ให้ได้  นอกจากนั้นก็มีส่องพระเครื่องที่สะสมไว้

“หากพูดถึงเวทีประกวดร้องเพลงจากการเห็นในรายการทีวีตามช่องต่าง ๆ ต้องบอกเด็กสมัยนี้เก่งมาก ๆ อย่างรายการ เดอะสตาร์ ไอดอล ร้องเพลงอย่างเดียวไม่ได้ ทั้งเล่นดนตรี แต่งเพลง เต้น และมีทักษะการพูดเพื่อพรีเซ็นต์ตัวเอง เป็นว่าที่ศิลปินพร้อมโชว์ศักยภาพในระดับโลกได้เลย ที่ผ่านมาก็มีนักร้องไทยไปสร้างชื่อในต่างประเทศและโด่งดังระดับโลก เช่น ลิซ่า BLACKPINK สะท้อนให้เห็นว่า หากอยากเข้าสู่วงการบันเทิง โดยเฉพาะการเป็นนักร้องจะต้อง ร้อง เล่น เต้น แต่ง(เพลง) พูด ให้ครบเซ็ตทีเดียวเลย”

นอกจากนี้ครูปิ่นยังพูดความสัมพันธ์กับทีมโค้ช “วินทุกเว(ที) Ways to Win” ว่า ต้องบอกว่าทีมเราครบกันมาไม่ต่ำกว่า 20 ปี ซึ่งแสดงให้เห็นว่า การที่เราจะคบกันมาได้ระยะยาวถึงขณะนี้  เพราะว่า เราพยายามที่จะเรียนรู้และเข้าใจกัน ยอมรับว่าในบางครั้งทัศนคติอาจไม่ตรงกัน แต่ท้ายที่สุดมีการปรับจูนเคลียร์กัน พยายามที่จะให้เกียรติและถนอมน้ำใจกัน มองโลกในแง่ดี หากใครได้รับโอกาสที่ดีจะแบ่งปันกัน ไม่มีการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น รวมทั้งไม่เหยียบหัวกัน ไม่ลืมบุญคุณ

“อิทธิพลของโควิด-19 เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินชีวิตของคนทั้งโลก เมื่อเราหนีมันไม่ได้คงต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันให้ได้ มาตรการการป้องกันต่าง ๆ เราควรให้ความสำคัญและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด สำหรับตัวเองแล้วได้มีเวลาทบทวนบทบาทและหน้าที่ตัวเองมากขึ้น ที่ผ่านมาเรายังมีตรงไหนมั้ยที่ยังขาดตกบกพร่อง ควรปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น มีความเชื่อว่าการพัฒนาตัวเองจริง ๆ แล้วเราไม่จำเป็นต้องรอให้มาถึงจุดที่ตกต่ำสุดแล้วค่อยพัฒนา สามารถทำได้เลยไม่ต้องรอ”

อ.ปุ๋ย-อนุรี อนิลบล อดีตผู้บริหาร MTI กล่าวว่า ได้ขอเกษียณงานที่ตัวเองทำก่อนกำหนดมาหลายปีแล้ว ได้ออกจากกรุงเทพฯ ซึ่งข้าวของที่เป็นแฟชั่นเป็นแบรนด์เนมแจกจ่ายให้กับคนที่รู้จักกันไปหมดเลย เพราะไม่คิดที่จะกลับมาใช้ชีวิตแบบเดิม ๆ อีกแล้ว  โดยกลับมาอยู่ที่บ้านเกิด อำเภอสวี จังหวัดชุมพร นับว่าเราโชคดีมากที่กลับมาใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านก่อนที่จะเกิดโควิด-19 การตัดสินใจกลับมาอยู่ที่บ้านได้คิดวางแผนมานานแล้ว เพราะอยากมาอยู่เป็นเพื่อนแม่ที่อายุ 80 กว่าปี แม่อยู่คนเดียวรู้สึกเป็นห่วง ทุกวันนี้ทำสวนปลูกผัก ปลูกผลไม้ และเลี้ยงสัตว์ อย่างเช่น ไก่ เป็ด ห่าน หมู ได้ผลผลิตก็นำไปขายที่ตลาด ขับรถไปเองไปกลับก็หลายกิโลฯ แม้จะได้เงินไม่มาก แต่ไม่เคยหมิ่นเงินน้อย “จงใช้เงินกับสิ่งที่เงินซื้อได้ และจงใช้เวลากับสิ่งที่เงินซื้อไม่ได้”

“เราอยู่แบบเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ ตามแนวทางพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ซึ่งเป็นแนวทางการพัฒนาที่ตั้งบนพื้นฐานของทางสายกลาง และความไม่ประมาท คำนึงถึงความพอประมาณ การมีเหตุผล และการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเอง ที่สำคัญคือจะทำให้เกิด สติ ปัญญา และความเพียร อันจะนำไปสู่ความสุขในการดำเนินชีวิตอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นพื้นฐานในการดำรงชีวิต”

อ.ปุ๋ย กล่าวถึงการประกวดนางงามในยุคนี้ว่า หลังออกมาจากวงการแล้ว พอจะติดตามข่าวสารบ้างไม่ได้คลุกวงในเหมือนแต่ก่อน เวทีใหญ่ ๆ ดูมีสีสันและเปิดกว้างมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะผู้เข้าประกวดที่สวย เก่ง ความสามารถรอบด้าน แต่ละเวทีมีคอนเซ็ปต์การประกวดที่แตกต่างกันออกไป มีแฟนคลับ แต่สิ่งที่คล้ายกันคือ การขับเคลื่อนให้เวทีก้าวไปสู่ความเป้าหมายแห่งความสำเร็จ แล้วอยากให้เป็นรู้จักกันอย่างแพร่หลาย พร้อมทั้งสนับสนุนตัวแทนไปประกวดในเวทีระดับนานาชาติ

“ เรา 4 คนในทีม วินทุกเว(ที) Ways to Win แม้อยู่กันคนทิศละทางแต่มีโซเชี่ยลมีเดียคอยเป็นเครื่องมือยึดเหนี่ยวกันเอาว่า เรามีการตั้งไลน์กลุ่มแต่ตั้งแอพไลน์มาใหม่ ทักทายกันทุกวัน ส่งข่าวความรู้ ความเป็นไปของเหตุการณ์บ้านเมืองกัน วงการประกวดก็มีการอัพเดตกันไป แล้วถ้าหากใครหายไปวันสองวันต้องค่อยตามกันแล้วว่า ยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า (หัวเราะ) อีกทั้งเราติดตามความเคลื่อนไหวของกันและกันทางเฟซบุ๊ก”

ทางด้าน กุรูหนุ่ม-นันท์นภัทร (ประเสริฐ) เจิมจุติธรรม ผู้เชี่ยวชาญด้านการประกวดและความงาม กล่าวว่า ช่วงกักตัวอยู่กับบ้านที่ย่านอโศก (กรุงเทพฯ) จัดการกับสิ่งของที่เราเก็บไว้ ทั้งสะสมและไม่ได้สะสม เก็บไปเก็บมาก็ได้ข้อคิดว่า เราอายุมากขึ้นแล้วกำลังจะก้าวไปสู่หลัก 6 สิ่งของที่เราเก็บไว้วันหนึ่งหากเราตายไปก็ไม่สามารถนำตัวตัวเราไปได้ จึงนำสิ่งของ โดยเฉพาะของสะสม ไม่ว่า หนังสือและภาพนางงาม นิตยสารบันเทิงฉบับเก่า ๆ  แมคกาซีนหัวดัง ที่มีอยู่เต็มบ้านเป็นหมื่นชิ้น ออกมาทั้งแจกจ่ายและขายผ่านออนไลน์ ซึ่งอยากให้ไปอยู่กับคนรุ่นใหม่ที่เขารักเขาสะสมกันจริง ๆ รายได้ที่ได้มาแบ่งส่วนหนึ่งโอนไปทำบุญให้กับวัดต่าง ๆ โดยตั้งเป้าให้ครบทั้ง 77 จังหวัด เป็นการทำบุญเสริมชีวิตเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ให้ดีขึ้น หลังจากช่วงหนึ่งป่วยเกือบตายจากการแพ้ยาอย่างรุนแรง ส่วนหลัง ๆ พอเริ่มออกจากบ้านได้ก็จะมีงานละคร งานประชุมนางงาม มีออกไปทานอาหารกับครอบครัวและคนสนิทบ้าง

“พอช่วงรัฐบาลมีมาตรการผ่อนคลายเรื่องโควิด-19 ซา ๆ ลง เริ่มมีงานรับเชิญให้เป็นกรรมการตัดสินประกวดเด็กประกวดผู้ใหญ่โดยผ่านระบบออนไลน์ เราไม่ต้องเดินทางไปที่งาน แค่นั่งตัดสินอยู่ที่บ้านผ่านระบบ ZOOM แรก ๆ อาจไม่ชินตา แต่พอนาน ๆ เริ่มปรับตัวได้ อีกทั้งเป็นที่ปรึกษาของเวทีการประกวดที่ทยอยติดต่อเข้ามาเรื่อย ๆ   เรียกว่าวงการประกวดบ้านเราไม่ค่อยซบเซา เพราะไม่ว่าเป็นเวทีเล็กเวทีใหญ่ต่างพยายามปรับเปลี่ยนรูปแบบการประกวดให้ทันยุคทันเหตุการณ์ ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกๆ เวที”

กูรูหนุ่ม กล่าวว่า สำหรับการวิธีเทรนนางงาม นางแบบ นายแบบ ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ต้องขอชื่นชมครู โค้ช เทรนเนอร์ หลาย ๆคน ที่ได้ปรับเปลี่ยนการสอนมาใช้วิธีการเปิดคอร์สเทรนผ่านออนไลน์ รวมถึงการทำคลิปเผยแพร่ให้ผู้สนใจและตั้งใจประกวดได้เรียนรู้กันแบบไม่มีค่าใช้จ่าย เช่น Tik Tok และ ยูทูป นอกจากนี้ยังศึกษาคลิปเด็ก ๆ ที่ทำกันอย่างสร้างสรรค์ ยอมรับว่าคนรุ่นใหม่เหล่านี้เป็นครูสอนเราได้เหมือนกัน

“ให้พูดถึง วินทุกเว(ที) Ways to Win ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณสำนักพิมพ์ไอซีซี พับลิชชิ่ง และกัลยาณมิตรทุกท่านที่ให้เกียรติมาร่วมสร้างประวัติศาสตร์งานวันเปิดตัวหนังสือเมื่อ 8 ปีที่แล้ว ส่วนเรื่องทีมโค้ชเรานั้น  แม้ว่าโอกาสที่จะรวมตัวให้ครบองค์ประชุม หรือที่เราเรียกกัน 4 ยอดกุมาร ดรีมทีมกันนั้นเป็นเรื่องยากสักหน่อย แต่เราใช้สื่อโซเชี่ยลมีเดียนี่แหละติดต่อกันแทบทุกวัน บอกตรง ๆว่า เวลานี้เราอยู่ไกลกันกลายเป็นว่า เหมือนอยู่ใกล้กัน เพราะเรามีความห่วงใยให้กันเสมอมา  ยังได้คุยกันบ่อย ๆ มากขึ้น  อยากจะบอกว่า เพื่อนบางคนก็เป็นบทเรียน เพื่อนบางคนก็เป็นของขวัญ แต่พวกเราคงเป็นเพื่อนแบบหลังกันตลอดไปจนกว่าจะตายจากกันไป”

ดร.บ๊อบ-จุมพล โพธิสุวรรณ บรรณาธิการข่าวสำนักข่าวบางกอกทูเดย์และผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการพูด กล่าวว่า กลับมาเยี่ยมครอบครัวที่บ้านอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ในช่วงต้นเดือนเมษายนก่อนที่โควิด-19 ระลอกใหม่จะระบาดหนัก จากนั้นการระบาดหนักเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้นทั้งที่กรุงเทพฯ และแม่สอด ก็เหมือนหนีเสือปะจระเข้ จึงขออนุญาตที่ทำงาน work from home ที่แม่สอดเลย ซึ่งต้องกักตัวอยู่ที่บ้าน นาน ๆ ได้ออกไปทำธุรกิจสำคัญ เช่น นำสิ่งของไปบริจาคให้กับโรงพยาบาลแม่สอด ถ้าหากเป็นงานอีบุ๊กก็ทำงานส่งผ่านออนไลน์ไป ส่วนการอัพข่าวเราลงในเว็บไซต์เราสามารถช่วยอัพได้เลย อย่างข่าวสถานการณ์โควิด-19 ประจำวัน จะรับผิดชอบอัพขึ้นเว็บทุกวัน บางทีก็มีกิจกรรมร่วมกับองค์กรต่าง ๆ ที่เขาขอให้เราเข้าร่วมกิจกรรมในฐานะสื่อ เช่น กิจกรรมของโลตัสแจกข้าวกล่องให้กับคนที่เดือดร้อนจากพิษโควิด-19  การสัมมนาผ่านโปรแกรม ZOOM และ การเป็นคณะกรรมการตัดสินการประกวดผ่านระบบออนไลน์

“กิจวัตรประจำวันที่บ้านนอกจากงานที่ต้องทำให้ออฟฟิศแล้ว ยังต้องคอยดูแลพ่อที่ป่วยติดเตียงด้วยโรคอัมพฤกษ์มาเกือบ 30 ปี ส่วนน้องชายเพิ่งจะเส้นเลือดในสมองแตกเมื่อปีที่แล้ว ตอนนี้อาการดีขึ้นคอยช่วยรื้อฟื้นความทรงจำ มีดูแลหลานวัยเด็กเรียนออนไลน์ ที่ต้องช่วยสอนช่วยปริ๊นซ์ใบงานให้ เพราะพ่อแม่หลานต้องออกไปทำงาน ปลูกผัก ปลูกผลไม้ ถือว่าอย่างน้อยได้ช่วยแบ่งเบาภาระของครอบครัว โดยเฉพาะแม่ลงได้บ้าง แม่ดีใจนะที่เราได้อยู่ยาว ๆ โดยบอกว่าตั้งแต่ไปเรียนอยู่กรุงเทพฯ ปี 2528 เพิ่งมาปีนี้ที่เราอยู่บ้านยาวนานมาก ได้อยู่แฮปปี้เบิร์ธเดย์แม่ ได้กราบเท้าวันแม่ เป็นครั้งแรกในรอบ 36 ปี ถ้ากลับไปทำงานวันไหนแม่คงคิดถึงแย่แลย…พอเราได้ยินแบบนี้จะรออะไร..ก็น้ำตาซึมสิครับ”

ดร.บ๊อบ ยังกล่าวด้วยว่า การกลับมาอยู่บ้านทำให้เราสะกดคำว่า ครอบครัวอบอุ่น ได้มากเลย เพราะในปีที่ผ่าน ๆกลับมาเยี่ยมแค่ช่วงปีใหม่และช่วงวันสงกรานต์เท่านั้น อาจกลับมาเป็นครั้งคราวในช่วงธุระสำคัญ แต่เดิมคิดว่า ถ้าวันหนึ่งเรากลับมาอยู่บ้านจะมาทำอะไร แต่วันนี้พอเราได้อยู่บ้านกลับไม่อยากกลับไปกรุงเทพฯเลย รู้สึกผูกพันมาก ๆ ตอนนี้เราได้คำตอบแล้วว่า เราจะทำอะไรที่ให้อยู่กับครอบครัวไปนาน ๆ

“ขอบคุณผู้ใหญ่และเพื่อนร่วมงานที่ออฟฟิศ ที่คอยให้กำลังใจและไม่กดดันในเรื่องของการทำงาน ขอบคุณพี่ ๆ โดยเฉพาะทีมโค้ช วินทุกเว(ที) Ways to Win   ที่ยังคงมิตรภาพอันเหนียวแน่น เพื่อน ๆ น้อง ๆ ที่ส่งกำลังใจมาในทุกรูปแบบ ส่งสิ่งของต่าง ๆ โดยเฉพาะอุปกรณ์และเครื่องมือป้องกันโควิด-19 พร้อมทั้งให้โอกาสช่วยทำงานที่นอกเหนือจากงานประจำ เช่น งานเขียนบทความ บทละคร ให้คำปรึกษางานด้านสื่อและพีอาร์ ตรวจดวงชะตา และเทรนน้อง ๆ ผู้เข้าประกวดผ่านออนไลน์ และอยากจะบอกว่า มิตรภาพเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้โลกนี้น่าอยู่ และความกตัญญูกตเวทีเป็นสิ่งที่สวยงามเสมอ ขอขอบคุณทุกๆมิตรภาพ และขอส่งกำลังใจให้กัลยาณมิตรทุกท่านก้าวผ่านพ้นวิกฤติโควิด-19 ในครั้งนี้ไปด้วยกันนะครับ”