Digiqole ad

‘ไมนิ่งโปร’ จัดหนัก! ฟ้อง ‘สนธิ’ คดีอาญาฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา กล่าวหา “ลักไฟหลวงขุดบิตคอยน์” เรียกค่าเสียหาย 29 ล้านบาท

 ‘ไมนิ่งโปร’ จัดหนัก! ฟ้อง ‘สนธิ’ คดีอาญาฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา กล่าวหา “ลักไฟหลวงขุดบิตคอยน์” เรียกค่าเสียหาย 29 ล้านบาท
Social sharing
Digiqole ad

บริษัท ไมนิ่งโปร จำกัดมอบหมายให้ทนายความยื่นฟ้องคดีอาญา ฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาเอาผิด สนธิ ลิ้มทองกุล, บริษัท เอนิวซัน จำกัด เจ้าของรายการ สนธิทอล์ครวมถึงกรรมการบริษัท
ทุกคน เรียกค่าเสียหาย 29 ล้านบาท หลังถูกกล่าวหา ลักไฟหลวงขุดบิตคอยน์

วันนี้ (28 ก.พ. 2566) นายสมพงศ์ ตั่นไพบูลย์ ผู้รับมอบอำนาจจาก บริษัท ไมนิ่งโปร จำกัด นำหลักฐานยื่นฟ้อง นายสนธิ ลิ้มทองกุล เป็นจำเลยที่ 1 บริษัท เอนิวซัน จำกัด ผู้ผลิต และเจ้าของลิขสิทธิ์รายการ
‘สนธิทอล์ค’ (Sondhitalk) จำเลยที่ 2 รวมถึงกรรมการบริษัท ได้แก่ นางสาวธันย์ธนัตภัค วรรณวัฒนากิจ จำเลยที่ 3, นายวินเนอร์ เดชเพียร จำเลยที่ 4 และนายธีร์ธวัช สังวรเวชภัณฑ์ จำเลยที่ 5 ต่อศาลอาญารัชดาฯ ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา หลังถูกนายสนธิกล่าวหาว่า บริษัท ไมนิ่งโปร จำกัด ซึ่งเป็นผู้ให้บริการซื้อขายเครื่องขุดบิตคอยน์ รับฝากวางเครื่องขุดบิตคอยน์ กระทำการ “ลักไฟหลวงขุดบิตคอยน์” พร้อมเรียกค่าเสียหายจำนวน 29 ล้านบาท โดยศาลได้รับคำฟ้องคดีหมายเลขดำที่ อ.556 /2566 และศาลมีกำหนดวันนัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 เวลา 09.00 น.

นายสมพงศ์ ตั่นไพบูลย์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่ นายสนธิ ได้กล่าวหา บริษัท ไมนิ่งโปร จำกัด ผ่านทางรายการสนธิทอล์ค ซึ่งนายสนธิเป็นผู้ดำเนินรายการว่า “ลักไฟหลวงขุดบิตคอยน์” นั้น สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้  คุณแทนไทได้ฟ้องต่อศาลแพ่งคดีหมายเลขดำที่ พ.553/2566 และต่อมาเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 ศาลแพ่งได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ห้ามนายสนธิ พูดหรือแสดงข้อมูลใด ๆ ว่า บริษัท ไมนิ่งโปร จำกัด ลักกระแสไฟฟ้ามาใช้ จึงได้รวบรวมข้อเท็จจริงมาฟ้องต่อศาลในวันนี้

“ในช่วงที่ผ่านมานายสนธิได้พูดกล่าวหา บริษัท ไมนิ่งโปร ในรายการสนธิทอล์ค ผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ อีกหลายครั้ง ทำให้ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง สร้างความเข้าใจผิดต่อบริษัท ทำให้ถูกดูหมิ่นและ
เกลียดชัง แม้นายสนธิจะใช้ข้ออ้างว่าตนเป็นสื่อมวลชน มีสิทธิเสรีภาพในการพูดวิพากษ์วิจารณ์บุคคลอื่นได้แต่ก็ควรตรวจสอบข้อมูลให้แน่ชัดก่อนที่จะกล่าวหาผู้อื่นโดยปราศจากข้อเท็จจริง อีกทั้งยังใช้สื่อโซเชียล
ในเครือข่ายของตัวเองที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก เป็นเครื่องมือในการเผยแพร่ข้อมูลที่บิดเบือนซ้ำ ๆ ว่าบริษัทไมนิ่งโปร ลักไฟหลวงมาใช้ จนทำให้เกิดความเสียหายต่อธุรกิจของบริษัท ไมนิ่งโปร เป็นอย่างมาก”

Facebook Comments

Related post