Digiqole ad

ไทยลีฟ ผนึกพาร์ทเนอร์ระดับโลกแง้มแผนพัฒนาโปรดักส์ ตอบโจทย์ปัญหาสุขภาพประชากรไทย – อาเซียน พร้อมชี้ตลาดซีบีดีเอเชียแปซิฟิกยังโตทะลุกว่า 30%

 ไทยลีฟ ผนึกพาร์ทเนอร์ระดับโลกแง้มแผนพัฒนาโปรดักส์ ตอบโจทย์ปัญหาสุขภาพประชากรไทย – อาเซียน พร้อมชี้ตลาดซีบีดีเอเชียแปซิฟิกยังโตทะลุกว่า 30%
Social sharing
Digiqole ad

บริษัท ไทย ลีฟ ไบโอเทคโนโลยี จำกัด เปิดแผนการพัฒนาผลิตภัณฑ์สารสกัด CBD จากกัญชง ตอบโจทย์ตลาดการแพทย์ในไทยและอาเซียน โดยในช่วงต้นปี 2566 จะมีการวางจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มเครื่องดื่ม กลุ่มอาหารเสริม และกลุ่มเวชสำอาง ในราคาย่อมเยาว์ และปลอดภัยต่อผู้ใช้ นอกจากนี้ ไทยลีฟยังมุ่งนำองค์ความรู้ต่างๆ จากคอร์เนลล์มาใช้ในกระบวนการธุรกิจเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นการปลูกกัญชงเพื่อให้ได้ค่าสาร CBD ในระดับสูง เพื่อวงการแพทย์และเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร การสร้างระบบนิเวศกัญชงแบบ Zero Waste และการใช้กระบวนการสกัดกัญชงเพื่อให้ได้ค่า CBD ตามมาตรฐานระดับโลก

นายยิ่งยศ จารุบุษปายน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย ลีฟ ไบโอเทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่า นอกเหนือจากฝั่งอเมริกาและยุโรป การใช้สารสกัด CBD จากกัญชง กำลังได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้นในแถบเอเชีย-อาเซียน เนื่องจากประสิทธิภาพการใช้งานที่หลากหลาย โดยเฉพาะการนำไปใช้ประโยชน์ในวงการเฮลธ์แคร์ ทั้งนี้ จากผลสำรวจ Data Bridge Market ได้มีการวิเคราะห์มูลค่าการเติบโตของตลาด CBD ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวม 21 เขตพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญที่มีการส่งเสริมการเปิดเสรีการค้าการลงทุนระหว่างกัน พบว่า ในปี 2564 มีมูลค่า 173.36 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 6,646 ล้านบาท และคาดว่าภายในปี 2572 จะเพิ่มขึ้นถึง 1,755.34 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 67,301 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ร้อยละ 33.56

ไทยลีฟ ได้เล็งเห็นแนวโน้มการเติบโตดังกล่าว รวมถึงการเปิดเสรีการใช้สาร CBD จากกัญชงในประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศแรกในเอเชีย จึงร่วมมือกับมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ ในการเดินหน้าสรรค์สร้างผลิตภัณฑ์ฟาร์มาซูติคอล เพื่อสนับสนุนวงการแพทย์ในตลาดไทยและตลาดอาเซียน โดยให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานโลก และตอบโจทย์กับภาวะทางสุขภาพของคนในภูมิภาค รวมถึงสินค้าที่สอดรับกับไลฟ์สไตล์ต่างๆ โดยในช่วงต้นปี 2566  ผลิตภัณฑ์ 3 กลุ่มแรกที่จะเริ่มวางจำหน่ายได้แก่ กลุ่มเครื่องดื่ม ที่จะพัฒนาเครื่องดื่มเสริมอาหาร (Functional Drinks) ผสมสาร CBD จากกัญชง ถัดมาคือ กลุ่มอาหารเสริม ที่จะมาในรูปแบบของ Snack Bar ซึ่งเป็นอาหารทานเล่นที่มีประโยชน์ และกลุ่มเวชสำอาง เช่น คลีนเซอร์โทนเนอร์ เซรั่ม โลชั่น ที่สามารถใช้ในชีวิตประจำวัน ราคาย่อมเยาว์ ปลอดภัยต่อทุกคน

ประชากรส่วนใหญ่ในอาเซียน รวมถึงคนไทย กำลังเผชิญปัญหาทางสุขภาพอย่าง โรคนอนไม่หลับ โรคเครียดและวิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า การรับสารอาหารที่ไม่เพียงพอ ซึ่งสาเหตุมาจากการแพร่ระบาดของ
โควิด
-19 ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา รวมถึงปัญหาทางเศรษฐกิจ ที่ทำให้หลายคนประสบปัญหาทางการเงิน ทำให้จำเป็นต้องลดค่าใช้จ่ายด้านต่างๆ เช่น ค่าอาหาร ปัญหาการทำงาน รวมถึงไลฟ์สไตล์ชีวิตที่ติดกับเทคโนโลยีดิจิทัล ทำให้กระทบต่อการพักผ่อนที่ลดน้อยลง ดังนั้น ไทยลีฟ เชื่อมั่นว่าการทำผลิตภัณฑ์ที่ใช้สารสกัด CBD จากกัญชง ซึ่งมีสรรพคุณหลักในการช่วยผ่อนคลาย ช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น และอุดมด้วยสารต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น โปรตีน ช่วยซ่อมแซมร่างกาย โอเมก้า 3 ช่วยเรื่องระบบประสาทและสมอง ลดการอักเสบในร่างกาย เสริมระบบภูมิคุ้มกัน จึงเป็นตัวเลือกใหม่ที่เหมาะกับทุกคนในยุควิถีชีวิตใหม่ และผลิตภัณฑ์ของไทยลีฟย่อมตอบโจทย์ทุกคน แต่อย่างไรก็ตาม การขยายแผนการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไปยังตลาดต่างประเทศ ต้องพิจารณากฏหมายในแต่ละประเทศสำหรับประกอบการส่งเข้า หรือจำหน่ายได้ ซึ่งถ้าตลาดของประเทศนั้นๆ มีกฎหมายที่ชี้แจงข้อปฏิบัติ ที่ทำได้อย่างชัดเจน ด้วยกำลังความสามารถทางการผลิต เครื่องมือ และทีมผู้เชี่ยวชาญ ทางไทยลีฟก็พร้อมในการนำธุรกิจกัญชงไทย ไปเปิดตลาดที่ประเทศเหล่านั้นทันที

นายยิ่งยศ กล่าวต่อว่า นอกเหนือจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกับมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ ไทยลีฟยังนำองค์ความรู้ต่างๆ จากคอร์เนลล์มาใช้ในกระบวนการธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น 1. การปลูกกัญชงเพื่อให้ได้ค่าสาร CBD ที่สูงที่สุด ซึ่งปัจจุบัน การปลูกกัญชงโดยเฉลี่ยจะได้ค่าสาร CBD อยู่ที่ร้อยละ 18 – 22 แต่กัญชงของ
ไทยลีฟที่พัฒนาร่วมกับคอร์เนลล์ มีค่าสูงถึงร้อยละ 26 เหมาะกับอุตสาหกรรมเฮลธ์แคร์ รวมถึงการสร้างรายได้ใหม่ให้กับเกษตรกรซึ่งสอดรับกับยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ 2. การสร้างระบบ
กัญชงแบบ
Zero Waste การบริหารธุรกิจโดยตระหนักถึงสิ่งแวดล้อม เป็นพันธกิจสำคัญข้อหนึ่งของไทยลีฟ ซึ่งนอกจากจะใช้ช่อดอกกัญชง เพื่อสกัดสาร CBD แล้ว ส่วนบริเวณอื่นๆ ยังมีการบริหารเพื่อลดการเกิดขยะทางสิ่งแวดล้อมด้วย เช่น ‘ต้น’ นำไปจำหน่ายต่อเพื่อพัฒนาทำเครื่องนุ่งห่ม ‘ใบ’ ต่อยอดพัฒนาทำผลิตภัณฑ์อาหาร ‘ราก’ นำมาเก็บสกัด เนื่องจากอุดมด้วยสารดีๆ อีกเป็นจำนวนมาก 3. การสกัดค่า CBD ตามมาตรฐานขั้นสูงสุด การสกัดสาร CBD จากกัญชงเพื่อให้ได้สารสกัดที่สะอาดบริสุทธิ์ที่สุดของไทยลีฟ มีการใช้โรงงานสกัดที่มีมาตรฐานระดับสูงสุด คือ GMP PIC/S เป็นมาตรฐานเดียวกับโรงงานยาตามมาตรฐานโลก ซึ่งจะมีการควบคุมดูแลตั้งแต่การทำความสะอาดห้อง การเข้าออกห้อง การเปลี่ยนชุด การควบคุมจำนวนคนที่เข้าไปห้องปฏิบัติการ ทั้งนี้ การมีสถานที่ปฏิบัติการดังกล่าวผนวกกับการปลูกกัญชงที่ได้มาตรฐานตั้งแต่ต้น ย่อมส่งต่อผลดีในการทำผลิตภัณฑ์ที่ใช้สารสกัด CBD ให้มีคุณภาพในรูปแบบต่างๆ ต่อไปได้ในอนาคต

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://thaileaf.com/ และสำหรับสื่อมวลชนที่สนใจสอบถามข้อมูลหรือรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่อีเมล info@thaileaf.com

Facebook Comments

Related post