Digiqole ad

เมดพาร์คเปิดตัว Going the Extra Mile, Extra Hours นำร่องบริการช่วงค่ำฉีดวัคซีนโควิด-19 ชาวต่างชาติ

 เมดพาร์คเปิดตัว Going the Extra Mile, Extra Hours นำร่องบริการช่วงค่ำฉีดวัคซีนโควิด-19 ชาวต่างชาติ
Social sharing
Digiqole ad

กรุงเทพ 2 สิงหาคม 2564 – โรงพยาบาลเมดพาร์ค เปิดตัวโครงการ Going the Extra Mile, Extra Hours ขยายเวลาการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในช่วงค่ำแก่ชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในประเทศไทย เพื่อไม่ส่งผลกระทบต่อแผนการบริการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนทั่วไป ซึ่งอยู่ในเวลาทำการของทุกวันโดยไม่มีวันหยุด โดยโครงการให้บริการนอกเวลาจะดำเนินการตั้งแต่เวลา 18:00-22:00 น. ระหว่างวันที่ 2-9 สิงหาคม 2564

นายแพทย์ พงษ์พัฒน์ ปธานวนิช กรรมการผู้จัดการ โรงพยาบาลเมดพาร์ค เปิดเผยว่า ภายใต้สถานการณ์ความรุนแรงของโรคระบาดโควิด-19 ที่รุมเร้ามากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โรงพยาบาลเมดพาร์ค ตระหนักถึงความสำคัญที่จะเร่งต้องสร้างภูมิคุ้มกันให้ประชาชนเพื่อความปลอดภัย ซึ่งรวมถึงชาวต่างชาตินับแสนคน โดยเข้าร่วม เป็น 1 ใน 3 โรงพยาบาลที่ให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 แก่ชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในประเทศไทย ผ่านโครงการ Thailandintervac ซึ่งเป็นความร่วมมือกับ กระทรวงการต่างประเทศ และกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข

This image has an empty alt attribute; its file name is DSC01286-copy-1024x683.jpeg

อย่างไรก็ตาม เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับตารางการนัดหมายฉีดวัคซีนของประชาชนคนไทยที่ได้ลงทะเบียนไว้ผ่านระบบหมอพร้อม โรงพยาบาลเมดพาร์ค จึงได้ขยายเวลาให้บริการ ภายใต้โครงการ Going the Extra Mile, Extra Hours โดยกำหนดฉีดวัคซีนให้แก่ชาวต่างชาติ ตั้งแต่เวลา 18:00 น. ถึง 22:00 น. ในขณะที่การนัดหมายบริการฉีดวัคซีนของประชาชนทั่วไปยังคงดำเนินไปในเวลาทำการตามปกติ

สำหรับการฉีดวัคซีนให้ชาวต่างชาติในระยะแรกนี้ จัดให้สำหรับชาวต่างชาติที่ลงทะเบียนมาล่วงหน้าแล้วเท่านั้น เพื่อให้สอดคล้องกับวัคซีนที่ได้รับจัดสรรจากรัฐบาล

นายแพทย์ พงษ์พัฒน์ กล่าวว่า การดำเนินโครงการดังกล่าว เป็นการสนับสนุนการเร่งฉีดวัคซีนตามนโยบายและการจัดสรรจากรัฐบาล ซึ่งกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้กำหนดแนวทางการบริหารจัดการวัคซีนและกลุ่มเป้าหมายในระยะเร่งด่วนไว้อย่างชัดเจน โดยให้บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าทั่วประเทศที่ดูแลรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 จากการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า ได้รับวัคซีนเป็นบูสเตอร์โดส เข็มที่ 3

This image has an empty alt attribute; its file name is DSC01295-copy-1024x683.jpeg

นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นกลุ่มเสี่ยงทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ได้แก่ ผู้สูงอายุอายุ 60 ปีขึ้นไป และกลุ่มผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง (โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน และโรคอ้วน) รวมถึงหญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์มากกว่า 12 สัปดาห์

ก่อนหน้านี้ โรงพยาบาลเมดพาร์ค ได้ร่วมมือกับ กรมควบคุมโรค และกรุงเทพมหานคร ดำเนินโครงการ ‘Save Doctors, Save People, Save Thailand’ เพื่อเร่งกระจายฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้แก่ สมาชิกของสมาคมคลินิกไทย รวมถึง ประชาชนชาวไทยในกรุงเทพมหานคร โดยให้บริการฉีดวัคซีนไปแล้วกว่า 80,000 โดส (ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม) และคาดว่า จะสามารถฉีดวัคซีนให้ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้มากกว่า 100,000 ราย ภายในเดือนกันยายนนี้

This image has an empty alt attribute; its file name is DSC01268-copy-1024x683.jpeg

นายแพทย์ พงษ์พัฒน์ กล่าวอีกว่า ภายใต้สถานการณ์วิกฤตจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า โดยเฉพาะสายพันธุ์เดลต้า ในขณะนี้ การช่วยกันระดมฉีดวัคซีนให้รวดเร็วและครอบคลุมทั่วถึงทุกกลุ่ม ถือเป็นมาตรการสำคัญในการสนับสนุนแนวทางการจัดการของรัฐบาลที่มีเป้าหมายเร่งฉีดวัคซีนให้ได้ไม่น้อยกว่า 70% ของประชากรในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมถึงชาวต่างชาติที่ทำงานในกรุงเทพมหานคร กว่า 300,000 คน เพื่อทำให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ ซึ่งจะช่วยยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 และลดผลกระทบต่อระบบสาธารณสุขด้วย

Facebook Comments

Related post