เที่ยวเมืองรองต้องไปมู “จิรัฏฐวัฒน์ ศิริบุตร” เขียนตอนที่ 7 “สายมูต้องไม่พลาด…นครศรีธรรมราช…เมืองรองที่ต้องไป”
อีบุ๊กวันที่ 16-22 มิถุนายน 2566 (ฉบับที่ 384)
คอลัมน์ : เที่ยวเมืองรองต้องไปมู
เรื่อง : จิรัฏฐวัฒน์ ศิริบุตร
ตอนที่ 7 : สายมูต้องไม่พลาด
นครศรีธรรมราช เมืองรองที่ต้องไป
“เมืองประวัติศาสตร์ พระธาตุทองคำ ชื่นฉ่ำธรรมชาติ แร่ธาตุอุดม เครื่องถมสามกษัตริย์ มากวัดมากสิน ครบสิ้นกุ้งปู”
จากคำขวัญประจำจังหวัด “นครศรีธรรมราช” หากโฟกัสไปเป็นเรื่องมูแล้ว จะมีคำว่า “พระธาตุทองคำ” กับ “มากวัดมากสิน” อยู่ในคำขวัญ ซึ่งเป็นสิ่งยืนยันได้ว่า “นครศรีธรรมราช” คือเมืองแหล่งธรรมะอย่างแท้จริงจากข้อมูลในวิกิพีเดียระบุว่า “นครศรีธรรมราช” เป็นจังหวัดในประเทศไทย มีประชากรมากที่สุดในภาคใต้และมีขนาดพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของภาคใต้ (รองจากสุราษฎร์ธานี) เป็นจังหวัดที่มีอำเภอมากที่สุดในภาคใต้ ห่างจากกรุงเทพมหานคร ประมาณ 780 กิโลเมตร
”นครศรีธรรมราช” เมืองรองที่ต้องไปมู ขอย้อนความกันสักนิดคุณแม่ของผมเองและญาติๆฝ่ายคุณแม่เป็นชาวนครศรีธรรมาราช ผมมีโอกาสไปเที่ยวแวะไปๆมาๆตั้งแต่เด็กๆ คุณพ่อเล่าให้ฟังว่าไปรับราชการทหารที่จังหวัดนครศรีธรรมราชเมื่อสัก 50 กว่าปีที่ผ่านมา นครศรีธรรมราชถือได้ว่าเป็นจังหวัดที่เป็นจังหวัดแดนไกลและมีกลุ่มคอมมิวนิสต์มากมาย ทหารเองต้องมาปราบพวกคอมมิวนิตส์ที่อยู่ในนครศรีธรรมราช
ภายในค่ายทหารมีอนุสรณ์วีรบุรุษทหารกล้าที่มีชื่อว่า “จ่าดำ” คุณพ่อเล่าให้ฟังต่อว่า ช่วงเวลาว่างของการปราบคอมมิวนิสต์ก็ไปตลาดและได้พบกับคุณแม่ของผม ตอนเล็ก ๆ ผมมีโอกาสเดินทางกลับไปที่นครศรีธรรมราชเป็นประจำทุกปี เพื่อพบเจอคุณยาย ก๋ง และญาติๆของแม่ เท่าที่ผมจำความได้ นครศรีธรรมราชเป็นเมืองที่ผู้คนคุยเสียงดัง ภาพลักษณ์ดูน่ากลัวผมคิดแบบนั้นในช่วงวัยเด็ก
ผมท่องเที่ยวในนครศรีธรรมราชทั้ง ธรรมชาติน้ำตกกรุงชิง (รูปของน้ำตกกรุงชิงจะอยู่บนธนบัตรฉบับ1,000 บาท ของไทย) และสถานที่ที่อากาศดีที่สุดคือ “หมู่บ้านคีรีวงศ์” ที่สำคัญยังมี “พระธาตุทองคำ” ที่อยู่ในคำขวัญ คือองค์พระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราชยอดทองคำ ของเมืองนครศรีธรรมราชนับเป็นหนึ่งในมหาเจดีย์ของชาติไทย ที่มีความศักดิ์สิทธิ์มาก เป็นที่สักการบูชาและเป็นแหล่งรวมศรัทธาของเหล่าพุทธศาสนิกชนทั่วทั้งชาติ ไม่เพียงแต่เฉพาะชาวภาคใต้หรือชาวนครเท่านั้น
นอกจากนี้ชีวิตของชาวนครศรีธรรมราชเป็นไปด้วยความเรียบง่าย ผมเห็นการเปลี่ยนแปลงของเมืองนครศรีธรรมราชมาโดยตลอด เป็นเมืองรองที่เติบโตทั้งทางวัตถุ เทคโนโลยี แต่ยังคงอนุรักษ์และเต็มเปี่ยมไปด้วยความสวยงามของวัฒนธรรม ประเพณี ที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน
นครศรีธรรมราช เปลี่ยนแปลงไปในช่วงเวลาอันรวดเร็ว ผมมีโอกาสไปไหว้ “ไอ้ไข่” ที่วัดเจดีย์(ไอ้ไข่ )มาเมื่อสัก 8 ปีก่อน ลูกพี่ลูกน้องผมพาไป ครั้งนั้นที่ไปต้องบอกว่าผู้คนสายมูน้อยมาก ผมเองก็ไปกราบไหว้ตามปกติ ตามที่ญาติของผมบอกกล่าวมาและได้ขอจุดประทัดไปสัก 500 ดอก ตามประเพณีปฏิบัติ ผมบอกตามตรงว่ายังไม่รู้รายละเอียดมากนักในช่วงเวลานั้น หลักจากนั้นผ่านไปไม่ถึงปี “ไอ้ไข่” ดังเป็นพลุแตก ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวสายมู จำนวนมหาศาล ทุกคนต้องได้ไปกราบไหว้ไอ้ไข่ ไปขอเงินขอทองจากไอ้ไข่
ขอแนะนำคร่าว ๆ จาก ข้อมูลของ ททท. “วัดเจดีย์” ตั้งอยู่ที่ อ.สิชล ซึ่งมีเล่าสืบต่อกันมาหลายชั่วอายุคนว่า สถานที่ตั้งวัดเจดีย์ปัจจุบันนั้น เมื่อก่อน “หลวงปู่ทวด” พระเกจิอาจารย์ดังสายปักษ์ใต้ ได้เดินธุดงค์และมาปักกลดอยู่ในบริเวณนั้น ส่วน “ไอ้ไข่” นั้น เชื่อว่าเป็นวิญญาณเด็กอายุประมาณ 9-10 ขวบ เป็นลูกศิษย์ซึ่งติดตามหลวงปู่ทวด เมื่อหลวงปู่ทวดมาถึงสถานที่ดังกล่าว กลับพบว่ามีทรัพย์สมบัติและศาสนสถานที่สำคัญเป็นจำนวนมาก จึงได้ให้ไอ้ไข่สิงสถิตเฝ้าทรัพย์สมบัติดังกล่าว วิญญาณดวงนี้เฝ้าดูแลปกปักรักษาทรัพย์สินของแผ่นดินและอยู่ที่วัดแห่งนี้ตั้งแต่นั้นมา จากศรัทธาที่ผู้คนต่างเชื่อกันว่า “ขอได้ ไหว้รับ” ทำให้มีผู้คนมากราบไหว้ไอ้ไข่หรือตาไข่กันเป็นจำนวนมากเพื่อขอพรและโชคลาภ และนิยมมาแก้บนด้วยรูปไก่ชน ชุดทหาร หนังสติ๊ก ของเล่นต่าง ๆ เป็นต้น
“นครศรีธรรมราช” จากเมืองที่อยู่กันแบบใครจะไปบ้างหนอ นาน ๆ จะมีนักท่องเที่ยวไปสักที เมื่อมีกิจกรรมสายมูเกิดขึ้นจังหวัดได้รับความนิยมมากขึ้น ภาพเก่าๆก็เริ่มจะหายไป มีความทันสมัยทางเทคโนโลยีเข้ามา มีโรงแรม มีห้างสรรพสินค้ามากมาย มีร้านอาหาร การเดินทางที่สะดวกสบายและสำคัญที่สุดเพิ่มเที่ยวบินต่อวันจำนวนมากอีกด้วย ทางรถไปก็มีรถไฟไปถึง รถทัวร์มีให้เดินทางตลอด จนนครศรีธรรมราชกลายเป็นเมืองรอง สายมูที่ถูกจับตามองและมีการเจริญเติบโตของเมืองอย่างรวดเร็ว
ปฏิเสธไม่ได้ว่านครศรีธรรมราช เป็นเมืองบุญเมืองธรรมะ เมืองวัฒนธรรมดูได้จาก ในช่วงก่อนโน้น ก็มีองค์จตุคามรามเทพ ที่โด่งดัง แพงแสนแพง มาตอนนี้ก็เป็นไอ้ไข่วัดเจดีย์ ท่องเที่ยววัดพระมหาธาตุ ชมงานสาทเดือน10 เอาเป็นว่าตอนนี้ จังหวัดนครศรีธรรมราช เมืองรองที่ต้องไม่พลาด สายมูยืนหนึ่ง ที่ทุกคนต้องไปให้ได้
ภาพ : museumthailand,เพจวัดเจดีย์ (ไอ้ไข่)
อีบุ๊กวันที่ 16-22 มิถุนายน 2566 (ฉบับที่ 384)
คอลัมน์ : เที่ยวเมืองรองต้องไปมู
เรื่อง : จิรัฏฐวัฒน์ ศิริบุตร
ตอนที่ 7 : สายมูต้องไม่พลาด
นครศรีธรรมราช เมืองรองที่ต้องไป
https://book.bangkok-today.com/books/kyuk/
(สามารถใช้นิ้วพลิกอ่านได้เหมือนหนังสือปกติ)
