Digiqole ad

อียูซื้อวัคซีนโควิด-19 ไบออนเทค-ไฟเซอร์ เพิ่ม 4 ล้านโดส สกัดจุดแพร่เชื้อ

 อียูซื้อวัคซีนโควิด-19 ไบออนเทค-ไฟเซอร์ เพิ่ม 4 ล้านโดส สกัดจุดแพร่เชื้อ
Social sharing
Digiqole ad

บรัสเซลส์, 11 มี.ค. (ซินหัว) — เมื่อวันพุธ (10 มี.ค.) คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ประกาศว่าสหภาพยุโรป (EU) จะได้รับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) จากไบออนเทค-ไฟเซอร์ (BioNTech-Pfizer) เพิ่ม 4 ล้านโดสภายในสิ้นเดือนมีนาคม เพื่อตอบสนองความต้องการของพื้นที่ท้องถิ่นที่เกิดการระบาดสูง

คำแถลงจากสหภาพยุโรประบุว่าคณะกรรมาธิการยุโรปบรรลุข้อตกลงกับผู้ผลิตด้านการจัดส่งวัคซีนเพิ่มเติมให้ประเทศสมาชิกภายใน 2 สัปดาห์ข้างหน้า เพื่อ “จัดการกับพื้นที่ที่เกิดการระบาดสูงและอำนวยความสะดวกแก่การเดินทางข้ามพรมแดนอย่างเสรี”

เชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ ทำให้เกิดการติดเชื้อเพิ่มขึ้นในพื้นที่ที่เกิดการระบาดสูงอย่างรัฐทิรอลของออสเตรีย เมืองนีซและจังหวัดโมแซลของฝรั่งเศส เมืองโบลซาโนของอิตาลี รวมถึงพื้นที่บางส่วนของรัฐไบเอิร์นและรัฐซักเซนของเยอรมนี

“วัคซีนของไบออนเทค-ไฟเซอร์ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพสูงในการต่อสู้กับเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ทั้งหมดที่พบในปัจจุบัน” คำแถลงระบุ

อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ระบุว่าวัคซีนชุดใหม่จะช่วยให้ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงรักษาหรือฟื้นคืนการขนส่งสินค้าและการเดินทางของประชาชนอย่างเสรี

ปัจจุบันเยอรมนี เบลเยียม ฮังการี ฟินแลนด์ เดนมาร์ก และสวีเดน ปิดพรมแดนเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ ทว่าคณะกรรมาธิการยุโรปกระตุ้นประเทศเหล่านี้ยกเลิกคำสั่งระงับการเดินทางและดำเนินมาตรการที่เหมาะสมและเจาะจงยิ่งขึ้น

ด้านสเตฟาน เดอ คีร์สแมกเกอร์ โฆษกฝ่ายสาธารณสุขของคณะกรรมาธิการยุโรป ระบุว่าวัคซีนชุดใหม่จะถูกจัดสรรแก่ประเทศสมาชิกตามสัดส่วนประชากรของแต่ละประเทศ

คณะกรรมาธิการยุโรปสั่งซื้อวัคซีนจากไบออนเทค-ไฟเซอร์ทั้งหมด 600 ล้านโดส เป็นข้อตกลงสั่งซื้อล่วงหน้าครั้งใหญ่ที่สุดจากทั้งหมด 6 ครั้ง ซึ่งทำให้สหภาพยุโรปมีวัคซีนทั้งหมด 2.6 พันล้านโดส

อนึ่ง องค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (EMA) ได้อนุมัติการใช้งานวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ทั้งหมด 3 ตัว โดยสหภาพยุโรปมุ่งฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ร้อยละ 70 ของประชากรวัยผู้ใหญ่ทั้งหมดภายในวันที่ 21 ก.ย. นี้

Facebook Comments

Related post