อดีตรักษาราชการแทนอธิการบดี ม.นครพนม เดินหน้าทวงความเป็นธรรม หลังผลสอบ คกก.สอบวินัยอย่างร้ายแรงไม่มีมูล
“อดีตรักษาราชการแทนอธิการบดี ม.นครพนม เดินหน้าทวงความเป็นธรรม หลังผลสอบ คกก.สอบวินัยอย่างร้ายแรงไม่มีมูล” และคำสั่งศาลปกครองสูงสุด ชี้มูล รมว.อว.ออกคำสั่งปลดกรรมการสภามหาวิทยาลัยอาจมิชอบด้วยกฎหมาย
จากข่าวประเด็นร้อนเรื่องภายใน ม.นครพนม ซึ่งมีความขัดแย้งกันอย่างหนักในเรื่องการบริหารภายใน เนื่องจากทีมผู้บริหารมีนโยบายตามงานจริงจัง รวดเร็ว และปราศจากการทุจริต จึงทำให้เป็นที่ขัดใจของกลุ่มบุคลากรบางกลุ่มและกลุ่มบุคคลภายนอกที่คอยหาประโยชน์จากมหาวิทยาลัย กลุ่มบุคคลดังกล่าวยังคงยึดติดกับผลประโยชน์และวิธีคิดแบบเดิม จนนำไปสู่ศึกล้มอธิการบดีและแย่งชิงอำนาจในการบริหารภายในองค์กรแห่งนี้
ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2564 ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่ง คบ.73/2564 ชี้มูล รมว.อว. ออกคำสั่ง อว.103/2563 อาจมิชอบด้วยกฎหมาย คำสั่งดังกล่าวเป็นคำสั่งล้างบางกรรมการสภามหาวิทยาลัย และแต่งตั้งคณะบุคคลมาทำหน้าที่นายกสภาและกรรมการสภามหาวิทยาลัย และมีการแต่งตั้งผู้บริหารชุดใหม่มาทำหน้าที่แทน เวลาก็ผ่านมานานกว่าปีแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ มากไปกว่านั้นยังทำให้ปัญหาบานปลายยืดเยื้อ ก่อให้เกิดความเสียหายยากต่อการเยียวยาแก้ไข ถึงแม้จะได้ตัวรักษาราชการแทนอธิการบดีท่านใหม่มา ก็ไม่สามารถอยู่ในตำแหน่งได้นาน จนต้องขอลาออกถึง 2 คนแล้ว
นอกจากนี้แล้ว กรณี รมว.อว. ได้มีคำสั่งให้ ม.นครพนม แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรง กล่าวหาว่า ผศ.ดร.พัฒนพงษ์ วันจันทึก อดีตรักษาราชการแทนอธิการบดี (ผู้ผ่านการสรรหาเป็นอธิการบดี ตั้งแต่ปี 2561) ทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง กรณีสั่งให้นำเครื่องบินของ ม.นครพนม ขึ้นบินโดยไม่ได้รับอนุญาต ประสบอุบัติเหตุตกเมื่อ 2 มิถุนายน 2559 จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน บัดนี้ได้ข้อยุติแล้ว โดยผลการสอบ คกก. มีความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่าการกระทำของ ผศ.ดร.พัฒนพงษ์ วันจันทึก ไม่เป็นความผิดตามข้อกล่าว และเห็นควรยุติเรื่อง จึงเป็นผลให้ ผศ.ดร.พัฒนพงษ์ฯ เดินหน้าทวงขอความเป็นธรรม โดยจะใช้ช่องทางด้านกฏหมายเพื่อเรียกร้องศักดิ์ศรีและต้องการกลับมาทำหน้าเป็นอธิการบดี ม.นครพนม เพื่อพิสูจน์ผลงานของตนเองต่อไป
