‘สาธร’ EdTech พันล้าน ธุรกิจสร้างการเรียนรู้ไม่สิ้นสุด
เริ่มต้นพาดหัวข่าว “EdTech” หลายคนอาจจะรู้สึก งง! ว่าคืออะไร แล้วมาเกี่ยวข้องกับเรื่องของธุรกิจได้อย่างไร หรือแม้แต่จะเป็นธุรกิจที่สร้างคนให้เก่งขึ้นได้อย่างไร นี่เป็นคำถามที่หลายคนรู้สึกและอยากรู้คำตอบอย่างมากในเวลานี้
ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจความหมายของคำว่า “EdTech” กัน โดยคำนี้เรียกเต็มๆ ว่า Educational Technology ซึ่งก็คือ เทคโลยีทางด้านการศึกษา หรือ วิถีของการคิดค้น ออกแบบ และสรรค์สร้างเทคโนโลยี ทั้งในรูปแบบของฮาร์ดแวร์ (Hardware) และ ซอฟต์แวร์ (Software) ที่จะมาช่วยให้ทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย เข้าถึงการศึกษา และการเรียนรู้ ได้มากขึ้น ซึ่ง “สาธร อุพันวัน” หรือที่น้อง ๆ ในแวดวงการศึกษารู้จักกันในชื่อ “พี่เต๋อ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เลิร์น คอร์ปอเรขั่น จำกัด (มหาชน) บอกว่า ธุรกิจของกลุ่มเลิร์น คอร์ปอเรชั่น ได้ดำเนินงานมาแล้ว 16 ปี “เรามีจุดเริ่มต้น และแพชชั่นของพวกเราเอง โดยมีเป้าหมาย และความเชื่อเดียวกันว่า ….การเรียนรู้ช่วยทำให้ชีวิตคนดีขึ้น… ซึ่นนั่นก็ทำให้เราก่อตั้ง เลิร์น คอร์ปอเรชั่น ขึ้นมา”
EdTech คืออะไร
ซีอีโอ เลิร์น คอร์ปอเรชั่น เล่าด้วยว่า พันธกิจหลักของ เลิร์น คอร์ปอเรชั่น คือการสร้าง Edtech หรือ เทคโนโลยีการเรียนรู้เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคน ที่ผ่านมานับได้ว่าเราสามารถก้าวสู่การเป็นองค์กร EdTech อันดับหนึ่ง ที่ช่วยพัฒนาการเรียนรู้ของสังคมไทยได้อย่างเป็นรูปธรรม “เราสนับสนุนให้สังคมไทย เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ จนกลายเป็น Lifelong Learning EdTech EdTech Ecosystem หรือ อีโคซิสเต็ม ที่สนับสนุนเทคโนโลยีการเรียนรู้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด พร้อมกับการตอบสนองการเรียนรู้ในทุกช่วงวัย และครอบคลุมทุกกคลุ่มคน ไม่ใช่เฉพาะแค่นักเรียน หรือ ในสถานศึกษาเท่านั้น เพราะเราชื่อว่า มนุษย์ต้องมีการเรียนรู้ และพัฒนาตลอดชีวิต”
ธุรกิจเพื่อการศึกษา
ปัจจุบัน เลิร์น คอร์ปอเรชั่น มีธุรกิจอยู่ด้วยกันถึง 4 กลุ่ม ประกอบด้วย “Out-School” หรือธุรกิจสอนพิเศษและแนะแนวการศึกษา ซึ่งธุรกิจในกลุ่มนี้ ได้แก่ OnDemand และ Ignite by OnDemand เป็นต้น นอกจากนี้ ก็ยังมีธุรกิจที่เป็น “Chain School” หรือ ธุรกิจบริหารโรงเรียนเอกชน “ในส่วนนี้ เป็นธุรกิจบริหารและดูแลหลักสูตรการเรียนการสอนในโรงเรียน โดยปัจจุบันมีโรงเรียนสาธิตพัฒนา ฝ่ายมัธยม หรือ LSP (LEARN Satit Pattana) อยู่ภายใต้การบริหารงาน ด้วยการใช้เทคโนโลยีและคอร์สเรียนคุณภาพจาก เลิร์น คอร์ปอเรชั่น ควบคู่กับแผนการเรียนตามเป้าหมายรายบุคคลที่ตรงประเด็นเพื่อเตรียมนักเรียนให้พร้อมสู่การสอบเข้ามหาวิทยาลัย และทักษะภาษาอังกฤษมาตรฐาน Cambridge International ทำให้โรงเรียนฯ สามารถเพิ่มจำนวนนักเรียน จากหลักตัวเลข 100 คน เป็น 900 คน ในระยะเวลา 3 ปี”
นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจกลุ่ม Professional & Skills หรือ กลุ่มพัฒนาทักษะการทำงานแห่งโลกอนาคตและแพลตฟอร์มการเรียนรู้ คือธุรกิจที่มุ่งพัฒนาทักษะใหม่แห่งอนาคตให้กับวัยทำงาน หรือผู้ที่ต้องการพัฒนาทักษะตัวเองให้สอดรับกับความต้องการของตลาดแรงงานโลก และ กลุ่มที่เป็นธุรกิจ “In-School” หรือธุรกิจผลิตสื่อและเนื้อหาสนับสนุนการสอนในโรงเรียน “วันนี้ กลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจของ เลิร์น คอร์ปอเรชั่น ได้เน้นย้ำเรื่องแก่นสำคัญของ EdTech ซึ่งประกอบด้วย 3 ด้าน ได้แก่ ด้านบุคลากร ที่จะมาตอบสนองความต้องการขององค์กร ที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ เช่นเดียวกับ ด้านการเรียนรู้ ที่เรามีทีม Learning Design Technology หรือ ทีมออกแบบเทคโนโลยีการเรียนรู้ที่ทำหน้าที่วัดความสำเร็จผู้เรียน และปรับการเรียนรู้เฉพาะบุคคลได้อย่างตรงจุด ตลอดจนสร้างแรงจูงใจเพื่อผลักดันการเรียนรู้ได้อย่างเต็มศักยภาพ
“ส่วนด้านสุดท้าย คือเทคโนโลยีที่เราเริ่มจากการศึกษาความต้องการและพฤติกรรมของผู้เรียนอย่างละเอียด ก่อนออกแบบและพัฒนาแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์ลูกค้าแต่ละกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน สถานศึกษาในระบบ หรือผู้ให้บริการคอนเทนต์ เพราะแพลตฟอร์มที่ดีควรจะมอบประสบการณ์พร้อมการเรียนรู้ที่ดีควบคู่กับการวัดผลเชิงคุณภาพอีกด้วย”
เป้าหมายสำคัญ
ซีอีโอ กล่าวถึงเหตุผลที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับทั้ง 3 ด้านนี้ ด้ยว่า เพราะบริษัทฯ มีเป้าหมายด้าน Social Impact หรือการสร้างผลลัพธ์เพื่อสังคม เพื่อเปลี่ยนแปลงการเรียนรู้และพัฒนาสังคมในวงกว้างด้วยทรัพยากรทั้งหมดที่เรามี โดยปัจจุบัน 4 กลุ่มธุรกิจของเรา สามารถเข้าถึงผู้ใช้งานได้อย่างครอบคลุม 77 จังหวัด คิดเป็น 500 องค์กร และ 500 โรงเรียน หรือกว่า 2.5 ล้านคน
กระนั้นก็ตาม เมื่อเล่าถึงมุมมองธุรกิจ EdTech ซีอีโอ กล่าวว่า อาจจะยังเป็นธุรกิจใหม่สำหรับประเทศไทย “แต่ในความเป็นจริง ตลาด EdTech และตลาดดาต้าของกลุ่มของเด็กและผู้ใหญ่กำลังเป็นที่ต้องการค่อนข้างมาก โดยที่ผ่านมาบริษัทฯ มีอัตราการเติบโตถึง 3-4 เท่าตัว มีมูลค่าธุรกิจรวมกว่า 1,000 ล้านบาท” ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ เลิร์น คอร์ปอเรชั่น มองเห็นโอกาสที่จะขยายธุรกิจออกไปได้อีกมาก “คาดว่า ในปีหน้ายอดขายของเราจะมีโอกาสเติบโตขึ้น 20% ท่ามกลางการตอบรับจากลูกค้า คุณครู รวมถึงนักเรียน ตลอดจนความรู้สึกของบุคลากรของเราเอง ที่เป็นเครื่องยืนยันความสำเร็จของบริษัท ได้เป็นอย่างดี”
ค้นหาคนเก่งช่วยพัฒนาการศึกษา
ไม่เพียงเท่านั้น ซีอีโอ เลิร์น คอร์ปอเรชั่น ยังบอกด้วยว่า เขามีความมุ่งมั่น ที่จะพัฒนาระบบการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง เพื่อใช้ EdTech สร้างการเรียนรู้สู่อนาคต รวมถึง ทางบริษัทฯ ยังมีแผนที่จะผลักดันองค์กรเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ เพื่อต่อยอดไอเดียและนวัตกรรมของ เลิร์น คอร์ปอเรชั่น ให้แผ่ขยายครอบคลุมมากยิ่งขึ้นด้วย และการนำ “การเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ เราไม่ได้มองว่า จะทำให้ธุรกิจของเราขยายการเติบโตเท่านั้น แต่เราต้องการที่จะดึงคนเก่ง ๆ และมีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการศึกษา เข้ามาช่วยพัฒนาธุรกิจของเราให้เติบโต และเป็นประโยชน์กับคนให้มากที่สุด ตลอดจน การสร้างการเรียนรู้ ให้ขยายวงกว้างมากขึ้นในอนาคต เพื่อให้ประเทศไทย เป็นสังคมการเรียนรู้ อย่างแท้จริง”