‘สรรชาย’ เชื่อมต่อธุรกิจสู่อนาคต คาดธุรกิจ MICE ดันท่องเที่ยวไทยพุ่ง
วันนี้ ดูเหมือนสถานการณ์ การท่องเที่ยวของประเทศไทย กำลังค่อยๆ ฟื้นตัวดีขึ้นมาเรื่อยๆ จนเหมือนจะกลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติแล้ว แต่หากสังเกตดีๆ การฟื้นตัวที่ว่านี้ เป็นเพียงการฟื้นตัวของธุรกิจเฉพาะ บางกลุ่ม เท่านั้น ในทางกลับกัน วันนี้ ยังคงมีอีกหลายธุรกิจ โดยเฉพาะ ในกลุ่มธุรกิจโปรดักซ์ หรือ สินค้าประเภทสิ้นเปลือง ยังคงเฝ้ารอการเข้ามาช่วยเหลือ เพื่อให้ธุรกิจกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง
ด้วยเหตุนี้ ทางด้าน อินฟอร์มา มาร์เก็ตติ้ว ประเทศไทย จึงร่วมกับ สมาคมโรงแรมไทย สมาคมภัตตาคารไทย จัดงาน Food & Hospitality 2023 ขึ้นระหว่างวันที่ 23-26 สิงหาคม 2566 เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย ตลอดจนเป็นการปลุกกระแส ผู้ประกอบการในธุรกิจต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง
ปลุกความเชื่อมั่น
สรรชาย นุ่มบุญนำ ผู้จัดการทั่วไป อินฟอร์มา มาร์เก็ตติ้ง ประเทศไทย ผู้จัดงาน Food & Hospitality Thailand 2023 (FHT) เปิดเผยว่า วัตถุประสงค์ของการจัดงานที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนสิงหาคม นอกจากนเป็นการรวมกลุ่มผู้ประกอบการในธุรกิจต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวและการบริการของไทยมากกว่า 28 องค์กรแล้ว งานครั้งนี้ ยังเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งงานที่จะมาช่วยส่งเสริมให้เหล่าผู้ประกอบการเกิดความเชื่อมั่น ในการลงทุนเพื่อรองรับการท่องเที่ยวที่กำลังจะกลับมาช่วงปลายปี รวมถึง เป็นการเตรียมตัวให้ผู้ประกอบการในธุรกิจท่องเที่ยว ได้เกิดการต่อยอดและเชื่อมต่อธุรกิจ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอีกด้วย
“ผมอยากจะเรียนว่า อุตสาหกรรมในภาคบริการ อาทิ โรงแรม และร้านอาหาร ถือเป็นธุรกิจหนึ่ง ที่ยังฟื้นตัวได้ไม่มากเท่าไรนัก เนื่องจากธุรกิจประเภทนี้ ถือเป็นสินค้าที่สิ้นเปลือง ดังนั้น เวลาที่เกิดวิกฤตอะไรขึ้นมา กลุ่มธุรกิจที่ว่านี้ ก็จะเจอผลกระทบก่อนเป็นอันดับแรก แต่พอหลังวิกฤตคลี่คลายลงไป ธุรกิจเหล่านี้ ก็ยังเป็นธุรกิจที่ฟื้นตัว หรือ กลับมาสู่สถานการณ์ปกติ เป็นอันดับสุดท้าย” คุณสรรชาย กล่าว
สร้างการเตรียมพร้อมให้ผู้ประกอบการ
หากถามว่า ในส่วนของการจัดงาน FHT จะมีส่วนช่วยเหลือผู้ประกอบการเหล่านี้ ได้อย่างไร ผู้จัดการทั่วไป อินฟอร์มา มาร์เก็ตติ้ง ประเทศไทย อธิบายเพิ่มเติมว่า “วันนี้ นวัตกรรมถือเป็นที่มีส่วนสำคัญในการช่วยเหลือผู้ประกอบการ ตลอดจนช่วยต่อยอดธุรกิจให้เติบโตมากขึ้น “เรื่องของนวัตกรรม มีหลากหลายรูปแบบ ซึ่งวันนี้ ได้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ ขึ้นมามาก รวมถึงมีเครื่องมือที่ทันสมัยทั้งในกลุ่มธุรกิจด้านอาหาร และระบบอัตโนมัติ ในกลุ่มธุรกิจโรงแรม ซึ่งในส่วนนี้หากผู้ประกอบการในธุรกิจมองเห็นแนวโน้มของการท่องเที่ยวที่จะกลับมาช่วงปลายปีนี้ พวกเขาก็จะแสวงหาเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาพัฒนา และปรับปรุงธุรกิจให้ดีขึ้น”
“ทั้งนี้ ในช่วงเดือน สิงหาคม และ กันยายน จึงเป็นช่วงเวลาสำคัญ ที่บรรดาผู้ประกอบการในธุรกิจ จะมองเห็นแนวโน้มของการท่องเที่ยวว่า เป็นอย่างไร ซึ่งหากเขาเชื่อมั่น และเห็นว่าแนวโน้มการท่องเที่ยวดีขึ้นแน่นอน ก็จะตัดสินใจลงทุน ในการเลือกซื้อเทคโนโลยี และนวัตกรรมต่างๆ เข้ามาพัฒนาธุรกิจของตัวเอง” คุณสรรชาย กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า วันนี้ จากข้อมูลของการท่องเที่ยว ที่เกี่ยวกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศไทย พบว่า กว่า 20% ในการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวเหล่านี้ส่วนใหญ่ จะเป็นเรื่องชองการ เลือกซื้อของกิน และอาหาร ดังนั้น ตรงนี้ จึงถือเป็นหมุดหมายสำคัญ ที่ผู้ประกอบการของไทย จะต้องเตรียมตัว และวางแผนเพื่อพร้อมต่อสู้กับการแข่งขัน ที่เชื่อว่าน่าจะรุนแรงมากขึ้นอย่างแน่นอน
ภาพการท่องเที่ยวปีหน้า
มากันที่ ภาพรวมของการท่องเที่ยวในปีหน้า ที่หลายคนมองว่า น่าจะมีการเปลี่ยนแปลง และมีทิศทางที่ดีมากขึ้น โดย การท่องเที่ยวเชิงธุรกิจไมซ์ (MICE) ถือเป็นอีกหนึ่งแนวคิดการท่องเที่ยว ที่กำลังจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมให้ธุรกิจการท่องเที่ยวของไทย มีความคึกคักมากขึ้น “ในช่วงปีหน้า MICE Industry หรือ การเข้ามาจัดการประชุมต่างๆ ตลอดจนการจัดอีเว้นท์ ในประเทศไทย จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน และจะมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มนักธุรกิจในต่างประเทศ ที่มองเห็นศักยภาพของการจัดการประขุมในประเทศไทย”
ขณะเดียวกัน การเข้ามาของกลุ่มนักธุรกิจจากต่างประเทศ เพื่อการจัดการประชุม สัมมนา และอีเว้นท์ ต่างๆ ยังจะทำให้เกิดเม็ดเงินสะพัดในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวค่อนข้าวสูงเลยทีเดียว “ไม่ใช่แค่เรื่องของ MICE เท่านั้นในปีหน้า การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ อื่นๆ รวมถึงเรื่อง เวลเนสแคร์ ก็จะเป็นอีกหนึ่งประเภทของการท่องเที่ยว ที่จะมาช่วยผลักดันให้การท่องเที่ยวของไทย ในปีหน้า เติบโตขึ้นด้วย” คุณสรรชาย กล่าว
ปัจจัยที่ส่งผลต่อการท่องเที่ยวของไทย
กระนั้นก็ตาม การตั้งเป้าหมายการท่องเที่ยวของไทย จะสามารถไปถึงจุดมุ่งหวังอย่างที่คาดหวังหรือไม่นั้น ก็ยังมีปัจจัย บางอย่างเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเหมือนกัน “ผมมองว่า ปัจจัยที่จะทำให้เป้าหมายของการท่องเที่ยวไทย ประสบความสำเร็จหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัยใหญ่ๆ คือ ปัจจัยที่เราควบคุมได้ และ ปัจจัยที่เราควบคุมไม่ได้” โดยคุณสรรชาย กล่าวว่า ตัวที่เราควบคุมได้ ณ วันนี้ ในส่วนของอินฟอร์มาฯ ถือว่าเราไปได้ดี เราสามารถสร้างคอนเทนต์ เพื่อให้คนต่างชาติเข้ามาในเชิงบิสซิเนส ตรงนี้ เรามั่นใจ ว่าเราทำได้”
“ทว่า สำหรับปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ ยกตัวอย่างเช่น วิกฤตโควิด ที่ส่งผลให้ต้องปิดประเทศ แต่ปัจจัยที่ควบคุมยากที่สุด อย่างปัจจัยภายนอก ที่เกี่ยวข้องกับการเมือง เป็นสิ่งหนึ่งที่เชื่อว่า น่าจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของประเทศไทย รวมถึงทำให้ เป้าหมายการท่องเที่ยวไปไม่ถึงจุดหมายที่ตั้งไว้ได้”
กลยุทธ์ปีหน้า
อย่างไรก็ดี ในวันนี้ อินฟอร์มาฯ ยังคงเดินหน้าทำงาน เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในธุรกิจต่างๆ ของประเทศไทย อยู่ต่อไป “ในอนาคต เรามีแผนในการดึงพาร์ทเนอร์จากต่างประเทศที่มีความหลากหลาย โดยมีจีน เป็นหลัก เพื่อเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในงานที่ทางเราจัดขึ้น ซึ่งไม่เพียงจะทำให้เกิดความคึกคักเท่านั้น แต่ยังจะทำให้เกิดการต่อยอดธุรกิจได้อย่างแข็งแรง เพราะกลุ่มพาร์ทเนอร์ ที่เข้ามาร่วมงานกับเรานั้น ส่วนใหญ่จะเป็นนักธุรกิจ หรือ ผู้ประกอบการ ที่มีศักยภาพ ซึ่งนั่น จะทำให้เกิดการใช้จ่ายด้านการเงินที่มากกว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติทั่ว ๆ ไป และเราก็หวังว่า สิ่งที่เราทำเหล่านี้ จะเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนให้การท่องเที่ยวของไทยเติบโตอย่างมั่นคง และแข็งแรงต่อไป”
