วินทุกเว(ที)..Ways to Win EP:52 อ.ปุ๋ย-อนุรี อนิลบล เบิกเนตรฉ่ำ ๆ “กรรมยืนหนึ่ง” ของกรรมการ (1)

อีบุ๊กบางกอกทูเดย์รายสัปดาห์ ฉบับที่ ๔๒๒ ระหว่างวันที่ ๘-๑๔ มีนาคม ๒๕๖๗

หน้า 33 วินทุกเว(ที)..Ways to Win EP 52/อนุรี อนิลบล

“กรรมยืนหนึ่ง” ของกรรมการ (1)

หากพูดถึง “กรรม” อย่าง “กรรมที่ไม่ได้ก่อ” ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยยุติธรรมกับคน ๆ นั้น หรือคนกลุ่ม ๆ นั้น สักเท่าไหร่ โดยเฉพาะ “คณะกรรมการตัดสินการประกวด” ที่บางเวทีหลังจากการตัดสินแล้วเปรียบเสมือน “หนังหน้าไฟ” เอย “กระโถนท้องพระโรง” เอย โดนด่าอย่างเสีย ๆ หาย ๆ สารพัดสารเพ ทั้ง ๆ ที่เราและพวกเราไม่ได้รู้อิโหน่อิเหน่กันเลย ทุกอย่างเริ่มต้นที่ผู้จัดและจบ (อย่างไม่สวย) ที่คณะกรรมการ

จากประสบการณ์ของ “อ.ปุ๋ย-อนุรี อนิลบล” ได้รับเชิญไปเป็นคณะกรรมการหลายร้อยเวทีหลากประเภท ซึ่งเวทีที่จัดออกมาดีเราต้องขอชื่นชมปรบมือรัว ๆ ให้ แต่ก็มีบางเวทีที่ต้องสาปส่ง ทำให้คณะกรรมการต้องเสียชื่อเสียงที่อุตส่าห์สั่งสมกันมา ซึ่งที่เคลียร์ได้เราก็รอดตัว ส่วนที่เคลียร์ไม่ได้ผู้จัดตีมึนไม่รับผิดชอบ เราก็ซวยไป โดยจะขอรวบรวมมาแบ่งเป็นหัวข้อดังต่อไปนี้

1.กรี้ด! ผลคะแนนทำแทนก็ได้เหรอ !?! : “คะแนน” แทบจะเรียกได้ว่า เป็นหัวใจของการประกวดเลยก็ว่าได้ เพราะถ้าหากไม่มีผลคะแนน เราก็จะไม่ทราบกันเลยว่า ใครได้ตำแหน่งชนะเลิศ และอันดับรอง ๆ หรือตำแหน่งพิเศษใด ๆ ในโลกา…ปรากฏการณ์ล็อกได้เกิดขึ้นแล้วไง ใครจะทำถ้าไม่ใช่คนจัดหรือคนที่รวมคะแนนจากคณะกรรมการ โดยความเร็วในการรวมคะแนน(แบบลวง ๆ หลอก ๆ) มี 3 เลเวลคือ 1. กองประกวดยังรวมผลคะแนนไม่เสร็จก็ประกาศผลแล้ว ที่รู้เนื่องจากมีคณะกรรมการเกือบ 20 คน อีกทั้งช่องคะแนนอีกยิบย่อย ขอโทษนะคะ “ตดยังไม่ทันหายเหม็นเลย” พิธีกรประกาศผลคะแนนออกมาแล้ว โดยเฉพาะ รอบ 10 คน 5 คน หรือ 3 คน 2. ทีมงานเดินเก็บใบคะแนนจากคณะกรรมการไม่ครบทุกคน พิธีกรประกาศผลแล้ว  3. เลเวลนี้เร็วยิ่งกว่าหนัง FAST8 เร็วกว่านรก คือ  คณะกรรมการยังรวมหรือกรอกคะแนนในแต่ละช่องไม่ทันเสร็จ พิธีกรประกาศผลแล้ว

จากเหตุการณ์ทั้ง 3 เลเวล ทำเอาคณะกรรมการมองหน้ากันเลิกลั่ก ถ้าหากพูดเสียงดังได้คงจะพูดกันว่า “อะไรวะ!” แล้วยิ่งได้ยินเสียงพิธีกรประกาศผลรางวัลแล้วละก็ “คนนี้กรูไม่ได้เลือก” คณะกรรมการมองหน้ากันแล้วสั่นหัว เป็นอันรู้กันว่า “ล็อก” ชัวร์! บอกตามตรงมันดู “ทุเรศ” เลยล่ะ มีอย่างที่ไหนคนที่คณะกรรการส่วนใหญ่หรือเป็นเอกฉันท์เลือกกลับไม่ได้ตำแหน่งเท่าที่ควรจะได้ โดยเฉพาะตำแหน่ง “ชนะเลิศ”

เรียกทีมงานมาถามว่า “เกิดอะไรขึ้น?!” ก็ใบ้รับประทาน ให้เรียกคนจัดมาคุยก็เงียบหาย เห็นอีกทีโน่น เตรียมขึ้นไปยืนมอบรางวัลอยู่บนเวทีแล้ว…เอาเข้าให้สิ คณะกรรมการจึงประท้วงด้วยการไม่ขึ้นไปมอบรางวัลหรือถ่ายรูปบนเวทีแต่อย่างใด ที่แบบเหลืออดคือ WALK OUT เดินออกจากงานไปเลยจ้า พี่เลี้ยงและผู้ชมต้องเบรครถทัวร์อย่างกะทันหัน และรีบหันหัวรถทัวร์ไปจอดลงที่ผู้จัด พอกันทีเวทีนี้ขึ้นบัญชีหนังสุนัขขี้เรือนในบัดดล!

 

 

2.อย่าเสนอให้มาเป็นกรรมการหุ่นเชิด : หัวข้อนี้จริง ๆ แล้วก็เป็นเรื่อง “ล็อกมง” หรือ “ดีลไว้แล้ว” แต่เชิญคณะกรรมการมาเป็น “หุ่นเชิด” หรือ “ไม้ประดับ” แต่ทำแบบเนียน ๆ ไม่กระโตกกระตาก เหมือนหัวข้อแรก ผลคะแนนมาเก็บตามปกติ แต่ด้วยจิตวิญญาณของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ก็ไม่มีทางเล็ดลอดสายตาไปได้หรอก เพราะพอผลประกาศออกมาไม่ใช่อย่างที่คณะกรรมการส่วนใหญ่เลือกไว้เลย (จากการถาม ๆ กัน) กลายเป็น “คณะกรรมการทิพย์” เป็นผู้คัดเลือกและตัดสิน

สมัยที่เพิ่งเข้ามาเป็นน้องใหม่ป้ายแดงในแวดวงคณะกรรมการตัดสินการประกวดนั่นเรายังไม่รู้เท่าทันคนจัด แต่เมื่อตบะแกร่งกล้าขึ้น เวลาใครเชิญให้เป็นคณะกรรมการตัดสิน เราจะถามคำถามแรกเลยว่า “ล็อกมง” หรือ “ดีลตำแหน่ง” ไว้หรือเปล่า!?! ถ้ามี…ไม่ไปค่ะ เพราะถ้าถูกด่า มันไม่คุ้มกับชื่อเสียงที่เราสร้างและสะสมมาเนิ่นนาน ออกงาน ๆ หนึ่ง ไหนจะค่าเสื้อผ้า ค่าแต่งหน้าทำผม ค่าน้ำมันรถ และค่าจิปาถะมากมาย ดังนั้นจงอย่าก่อเวรสร้างกรรมด้วยการลากเราไปนั่งเป็นคณะกรรมการตัดสิน โดยที่คุณมีตัวผู้ชนะไว้แล้ว  น็นคณะ

3. ก่อกำเนิดกรรมการเขมรสามฝ่าย : บางเวทีมีจำนวนคณะกรรมการมากกว่าจำนวนผู้เข้าประกวดเสียอีก ที่ผ่านมา อาทิ คณะกรรมการ 40 คน ผู้เข้าประกวด 30 คน ที่เป็นเช่นนี้ เนื่องจากด้วยความที่ผู้จัดไปดีลคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ไม่ทรงคุณวุฒิ และสปอนเซอร์ไว้เยอะมาก ๆ  จึงจับมามัดรวมเป็นคณะกรรมการชุดใหญ่เบิ้มมาก จากตรงนี้ขอแบ่งคณะกรรมการเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้ 1. ฝ่ายคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (จริง ๆ) แบบนี้จะได้ค่าน้ำมันรถ เว้นเสียแต่ว่าท่านนั้น ๆ จะไม่รับเงิน มาช่วยงานจริง ๆ อาทิ เป็นผู้ใหญ่ที่มีความสนิทสนมกับผู้จัด หรือเป็น ศิษย์เก่า  2. ฝ่ายคณะกรรมการที่ไม่ใช่ผู้ทรงคุณวุฒิ แต่ติดต่อขอมาเป็นคณะกรรมการเพื่อเอาโพรไฟล์และเอาพื้นที่สื่อ ที่สำคัญยินดีมอบเงินสนับสนุนการจัดประกวด จะเรียกว่า “ซื้อเก้าอี้กรรมการ” อย่างที่ใคร ๆ พูดกันก็กระไร ไหน ๆ ก็จะมาเป็นคณะกรรมการควรทำการบ้านสักหน่อยก็จะดี 3. ฝ่ายกรรมการที่มาจากสปอนเซอร์ คือผู้จัดจะขายเป็นแพค ถ้าหากเป็นสปอนเซอร์จะได้นั่งเป็นคณะกรรมการด้วย หรือได้ขึ้นมอบรางวัลพิเศษที่ตัวเองเป็นคนเลือก ดังนั้น “กรรมของกรรมการ” จึงเกิดขึ้น เสียงแตก คะแนนไม่เป็นเอกฉันท์ เพราะกรรมการเกินครึ่งไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญในการคัดเลือกและตัดสินจริง ๆ หลายครั้งจึงดู “ค้านสายตา” ทั้งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจริง ๆ และผู้ชม กรรมจึงเกิดขึ้นให้ถูกด่าอีกหนึ่งดอก!

4. กรรมการวิญญาณออร์แกไนซ์ : หัวข้อสุดท้ายนี้เป็นประสบการณ์ตรงไม่อ้อมโลก เชื่อหรือไม่ว่าเพราะด้วยความใจดีของเรา จึงทำให้ผู้จัดงานประกวด มองเราเป็น “ออร์แกไนซ์” ไปเสียนี่ มีทั้งก่อน โทร.มาปรึกษาเราเกี่ยวกับการจัดงานสารพัดอย่าง อาทิ รูปแบบการจัด แพทเทิร์นการเดิน การตอบคำถาม ให้ช่วยปรับบุคลิกผู้เข้าประกวด ไหนจะเรื่องแสง สี เสียง บนเวที เดินชุดนี้จะใช้เพลงไหน เดินชุดนั้นจะใช้เพลงอะไร อยากจะพูดเหลือเกินว่า ไม่ต้องไปจ้างออร์แกไนซ์ มาจ้างฉันแทนเถอะ มอง ๆ ไปคุณไม่มีความเป็นมืออาชีพเลย (นี่หว่า) แม้แต่วันงาน ขณะที่เราแต่งตัวสวย ๆ มานั่งอยู่ที่โต๊ะคณะกรรมการแล้ว ยังถูกเรียกให้ไปบล็อกกิ้งนางงามต่อหน้าคนจำนวนมากที่เข้ามาอยู่ในงานแล้ว เอาเข้าให้สิ(เมิง) จากนั้นมาจึงขอ “ตัดกรรม” ไม่ใจดีไปช่วยอะไรแบบนี้อีกแล้ว…อีกอย่างหนึ่งคือ คิดว่าทำดีก็เสมอตัว พองานออกมาไม่ดี ความดีที่เราทำไว้กับเวทีนั้น ๆ หายไปหมดสิ้น แถมยังจะมองหน้ากันไม่ติดอีกต่างหาก

ท้ายสุดท้ายนี้อยากฝากไปยังผู้จัดงานที่ไม่มีความเป็นโปรเฟสชันแนลว่า ยุคสมัยนี้มีอะไรเปลี่ยนแปลงล้ำสมัยไปมาก หากอยากจัดงานประกวดก็ควรที่จะศึกษาและทำการบ้านให้มาก ๆ อย่าทำตัวแค่ว่า “อยากจะจัด” ขำ ๆ มีเงินเยอะไม่รู้จะเอาไปทำอะไรก็มาลงที่จัดประกวด ให้ทำตัว “รักที่จะจัด” เชื่อเหลือเกินงานนั้นจะต้องประสบความสำเร็จเป็นที่ยอมรับและอยู่ในวงการประกวดได้ตราบนานเท่านานค่ะ…ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ!

เรื่อง : อ.ปุ๋ย-อนุรี อนิลบล

เรียบเรียง : ดร.บ๊อบ-จุมพล โพธิสุวรรณ

อีบุ๊กบางกอกทูเดย์รายสัปดาห์ ฉบับที่ ๔๒๒ ระหว่างวันที่ ๘-๑๔ มีนาคม ๒๕๖๗

หน้า 33 วินทุกเว(ที)..Ways to Win EP:52

อ.ปุ๋ย-อนุรี อนิลบล เบิกเนตรฉ่ำ ๆ “กรรมยืนหนึ่ง” ของกรรมการ (1)

อีบุ๊กบางกอกทูเดย์รายสัปดาห์ ฉบับที่ ๔๒๒ ระหว่างวันที่ ๘-๑๔ มีนาคม ๒๕๖๗
https://book.bangkok-today.com/books/mvux/#p=33
(สามารถพลิกอ่านได้เหมือนหนังสือปกติ)