วินทุกเว(ที)..Ways to Win EP:50 ครูปิ่น-ปิ่นศิริ ศิริปิ่น เขียน (อย่า)“วีน”ทุกเวที การเปลี่ยนแปลงคือนิรันดร์ (4) กับ 3 กฎเหล็กสู่ชัยชนะการประกวดร้องเพลงในยุคนี้

Social sharing

อีบุ๊กบางกอกทูเดย์ ฉบับที่ 420 วันที่ 23-29 กุมภาพันธ์ 2567

หน้า 33 วินทุกเว(ที)..Ways to Win EP 50////เรื่อง : ครูปิ่น-ปิ่นศิริ ศิริปิ่น

(อย่า)“วีน”ทุกเวที

การเปลี่ยนแปลงคือนิรันดร์ (4)

มาถึงไม้สุดท้ายก่อนวิ่งเข้าเส้ยชัยกับ “ครูปิ่น-ปิ่นศิริ ศิริปิ่น” ในประเด็น…(อย่า)“วีน”ทุกเวที การเปลี่ยนแปลงคือนิรันดร์… ซึ่งเกี่ยวกับการประกวดร้องเพลง ที่ครูปิ่นสันทัดกรณีมากกว่าการประกวดอื่น ๆ ขอแบ่งเป็นหัวข้อดังต่อไปนี้เลยนะครับ

1.โซเชี่ยลมีเดียต้นทุนที่ล้ำค่า : อาจกล่าวได้ว่า รายการประกวดร้องเพลงในสถานีโทรทัศน์ช่องต่าง ๆ มักจะนำเสนอข้อมูลที่น่าสนใจของผู้เข้าประกวด ก่อนที่จะให้เริ่มร้องเพลง โดยเฉพาะข้อมูลทางด้านโซเชี่ยลมีเดียที่นักร้องคนนั้น ๆ ได้โพสต์ลง อาทิ เฟซบุ๊ก,TikTok และช่องยูทูป ที่อาจมีผลในเชิงจิตวิทยาต่อการให้คะแนนจากคณะกรรมการ โดยเนื้อหาหรือคอนเทนต์ที่ขยันสร้างดังกล่าว มักเป็นแนวความสามารถทางด้านการร้องเพลงและเล่นดนตรี อาทิ การแต่งเพลงเองร้องเอง เด็กฝึกร้องเพลงอย่างหนักกับคุณครูผู้สอนด้านดนตรีและการขับร้อง ส่วนอีกแนวคือ แนวดราม่าบู๊สู้ชีวิต โดยใช้การร้องเพลงหรือเล่นดนตรีเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการทำงาน อาทิ ร้องเพลงเปิดหมวก ร้องเพลงในร้านอาหาร ตระเวนประกวดร้องเพลงตามเวทีในต่างจังหวัดบ้านเกิดและจังหวัดใกล้เคียง เพื่อนำรายได้มาจุนเจือตัวเองและครอบครัว

สังเกตดูหลายครั้งถึงแม้ว่า จะไม่ได้รางวัลใด ๆ หรือผ่านเข้ารอบลึก แต่ก็ได้ใจผู้ชมและยอดผู้ติดตามในฐานะเอฟซีหรือด้อมในโซเชี่ยลมีเดีย เพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก ทำให้เพิ่มโอกาสในช่องทางทำมาหากินได้อีกเยอะ แตกต่างจากสมัยก่อนที่ยังไม่มีโซเชี่ยลมีเดีย จะทราบเพียงแค่ชื่อ นามสกุล ภูมิลำเนา จนกว่าจะชนะเลิศถึงจะมีการเจาะลึกว่าคุณเป็นใคร ดังนั้นใครจะจะเข้าประกวดร้องเพลงต้องรู้จักใช้โซเชี่ยลมีเดียให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด

2.ต้องมั่นใจและต้องกล้าอย่ากลัวใคร : ปฏิเสธไม่ได้ว่า เมื่อมีการประกวดใด ๆ ในโลกนี้ย่อมต้องมี “นักล่าฝัน” หรือ “นักล่ารางวัล” สมัยก่อนคนกลุ่มนี้ ถ้าเป็นการประกวดร้องเพลง อย่างมากก็เป็นแชมป์งานเล็ก ๆ ในงานวัด งานหมู่บ้าน งานอำเภอ หรืออย่างมากก็แค่ระดับจังหวัด แต่ประทานโทษสมัยนี้แชมป์ระดับประเทศหรือนักร้องคนดัง ๆ ก็มาประกวดในรายการใหญ่ ๆ ทางสถานีโทรทัศน์ แต่จะบอกไว้สำหรับผู้เข้าประกวดที่ไม่ได้มีดีกรีอะไรใหญ่โต ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น “#แค่กล้าคุณก็ชนะแล้ว” (ขอยืมเอาสโลแกนสินค้ายี่ห้อหนึ่งมาใช้ครับ) คนเหล่านี้ถูกโค่นแชมป์มามากต่อมากแล้ว โดยเฉพาะรายการประกวดร้องเพลงที่ไม่ได้กำหนดเพศและอายุ แชมป์ยังเป็นเด็กกันอยู่เลย โดยเอาชนะพี่ป้าน้าอา ครูสอนร้องเพลง แชมป์จากเวทีใหญ่ ๆ

ขอยกตัวอย่าง “น้องเบลโลล่า-กนิษฐา ศรีลุปะบาตร” สาวน้อยวัย15 ปี จาก จ.สมุทรปราการ ที่คว้าแชมป์รายการ The Golden Song เวทีเพลงเพราะ ซีซั่น 5 (ทางช่องวัน31) ได้ครองถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และเงินรางวัลอีก 5 แสนบาท ล่าสุดเพิ่งจะจัดการประกวดในซีซั่น 6 ไปได้ 1 สัปดาห์ ส่วนอีกคนคือ “น้องพิงค์กี้-พัทธนันท์ สุวรรณลิขิต” สาวน้อยมหัศจรรย์ วัย 12 ปี จ. นนทบุรี แชมป์รายการ “The Golden Singer เวทีเสียงเพราะ” (ช่องวัน31) เป็นคนแรก (คนละรายการกับเวทีแรกนะครับ “เวทีเพลงเพราะ” เน้นเพลงลูกกรุง ส่วน “เวทีเสียงเพลง” เน้นเพลงยุค90) ที่เพิ่งประกาศผลไปเมื่อไม่นานมานี้เอง คว้าเงินรางวัลไปอีก 5 แสนบาทเช่นกันครับ ถือว่าทั้ง 2 คนเป็นเด็กที่เก่งมาก ๆ อายุเท่านี้หาเงินได้ถึงครึ่งล้านบาท แถมการันตีอนาคตดังอีกยาวไกล เพราะยี่ห้อช่องวัน31ในเครือแกรมมี่สายป่านยาวครับ

หมายเหตุ : คนที่เคยได้แชมป์จากรายการใหญ่ หรือบุคคลที่เป็นนักร้องมีชื่อเสียง ครูปิ่นว่า เปรียบเสมือนดาบสองคม หากได้แชมป์ก็เสมอตัว คุณได้ไปต่อ ส่วนใหญ่จะได้รองแชมป์กัน (เอาแชมป์ใหญ่มาแลกรองแชมป์ซะงั้น) สุดท้ายก็เงียบหายไป เหมือนต่อยอดงานแล้วไม่ดังเปรี้ยงปร้าง! แต่ครูปิ่นยังไม่เคยเห็นแชมป์ใหญ่คว้าแชมป์ใหญ่ ยกเว้น รายการ “MASK SINGER หน้ากากนักร้อง” ทางช่อง Workpoint23 ที่นำเอาศิลปิน นักแสดง และคนดังในแวดวงสังคมมาแข่งขันร้องเพลงกันเอง ถ้าจำไม่ผิดมีอยู่ 2 คนมั้ง คือ “นนท์-ธนนท์ จำเริญ” แชมป์ The Voice Thailand ซีซั่น 1 มาคว้าแชมป์ MASK SINGER ซีซั่น 4 ในหน้ากากเป็ดน้อย กับ “โดม-จารุวัฒน์ เชี่ยวอร่าม” แชมป์ The Star ค้นฟ้าคว้าดาว ซีซั่น 8 มาคว้าแชมป์ MASK SINGER ซีซั่นงานวัด ในหน้ากากเมียงู

3.หัวใจการประกวดร้องเพลงในยุคนี้คือการพาณิชย์ : การประกวดร้องเพลงในยุคนี้คือ การเลือกผู้ชนะที่สามารถนำไปต่อยอดการขายได้ กิจกรรมทุกอย่างคือการลงทุนไม่เรื่องใดก็เรื่องหนึ่ง สำหรับการประกวดร้องเพลงคือ ผู้ชนะต้องสามารถนำไปต่อยอดทางธุรกิจได้เป็นอย่างดี เพราะการจัดประกวดในแต่ละครั้งล้วนต้องมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ถึงแม้ว่าจะมีสปอนเซอร์เข้ามาสนับสนุนก็ตามที ต้องหาทุนคืนและกำไรเพิ่ม ดังนั้นการสร้างโพรไฟล์และคอนเทนต์ของผู้เข้าประกวดจึงนับว่าสำคัญมาก ๆ โดยเฉพาะการสร้างฐานแฟนคลับ ที่มียอดคนติดตามกดไลก์กดแชร์เป็นจำนวนมาก หลายเวทีประกวดเขาพิจารณาจากตรงนี้ด้วย ถ้าจะบอกว่าการประกวดนักร้องในยุคนี้คงต้องระดมสมองของทีมงานจากหลากหลายสาขาอาชีพมาช่วยกันซัพพอร์ต คงไม่ต่างจากการประกวดนางงาม ทีมหนึ่งปาเข้าไป 10-20 คนเป็นขั้นต่ำ มิเช่นนั้นไปไม่ถึงฝั่งฝัน!

…ครูปิ่นขอเป็นกำลังใจให้กับนักร้องผู้เข้าประกวด ตลอดจนทีมงานผู้สร้างสรรค์เวทีการปะกวดทุกคนนะครับ!!!!!

เรื่อง : ครูปิ่น-ปิ่นศิริ ศิริปิ่น

เรียบเรียง : ดร.จุมพล โพธิสุวรรณ

ภาพ : อินเทอร์เน็ต