วินทุกเว(ที) Ways to Win EP36…กูรูตัวแม่ “หนุ่ม นันท์นภัทร” สุดปลื้ม! “น้ำตาล-ลูกปลา”ลูกสาวแห่งชาติ (อีบุ๊กบางกอกทูเดย์รายสัปดาห์ ฉบับที่ 403 วันที่ 27 ต.ค.-3 พ.ย.66)
อีบุ๊กบางกอกทูเดย์รายสัปดาห์ ฉบับที่ ๔๐๓ วันที่ 27 ต.ค.-3 พ.ย.66
หน้า 33 คอลัมน์ วินทุกเว(ที) Ways to Win EP36
กูรูหนุ่ม-นันท์นภัทร เจิมจุติธรรม
กูรูตัวแม่ “หนุ่ม นันท์นภัทร” สุดปลื้ม!
“น้ำตาล-ลูกปลา” ลูกสาวแห่งชาติ
…การที่เราจะเรียกใครว่า “ลูก” ได้อย่างเต็มปากเต็มคำและสนิทใจ ทั้ง ๆ ที่เราไม่ใช่พ่อ ไม่ใช่แม่ ผู้ให้กำเนิด
…การที่เราจะเรียกใครว่า “พ่อ” หรือ “แม่” ได้อย่างจริงใจไม่จิงโจ้ตามกระแสนิยม ทั้ง ๆ ที่เราไม่ใช่ลูกในไส้
นั่นหมายถึงว่า คน ๆ นั้นย่อมจะต้องมีอะไรดีเป็นพิเศษ ทำให้เกิดความรู้สึกประทับใจ
สำหรับตัวเอง “กูรูหนุ่ม-นันท์นภัทร เจิมจุติธรรม” ที่อยู่ในแวดวงนางงามมาครึ่งค่อนชีวิต ซึ่งจะขอพูดถึงความประทับใจไม่รู้ลืมกับลูกสาวทั้ง 2 นาง ที่แม้ว่าจะแตกต่างกันในเรื่องพื้นเพ แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ การเป็น “นางงามน้ำดี” มากระทั่งถึงปัจจุบั
คนแรก “น้ำตาล-พรรณนภา ปราบภัย” รองนางสาวไทย ประจำปี 2549 (รุ่นหมอเจี๊ยบ-ลลนา ก้องธรนินทร์ เป็นนางสาวไทย) และ “ลูกปลา-กัลย์ธิดา ทาดะ” top 12 มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ปี 2551 ซึ่งกูรูหนุ่มขอแบ่งเป็นข้อ ๆ ดังนี้คือ
1.พี้นฐานทางครอบครัวดี : เด็กที่นิสัยดี ส่วนใหญ่หากย้อนกลับไปมองกันที่ครอบครัว คือ พ่อแม่ ผู้ปกครอง อบรมสั่งสอนมาดีตั้งแต่เด็ก ๆ จึงทำให้การดูแลเด็กง่ายขึ้น โดยเพียงแค่ได้สัมผัสกับน้ำตาลและลูกปลา แล้วเห็นสิ่งที่เด็ก ๆ แสดงออกมา รู้เลยว่าครอบครัวดีมีความอบอุ่น ดังนั้นเมื่อคุณแม่ทั้ง 2 ท่านซึ่งน่ารักไม่แพ้ลูกสาว ฝากฝังให้ดูแลพาเข้าวงการนางงาม จึงไม่ลังเลที่จะตอบตกลง
2. มีใจรักในสิ่งที่ทำ : สองสาวมีทัศนคติที่ดีต่อสิ่งที่จะทำนั่นคือ “การประกวด” การประกวดไม่ได้เป็นศูนย์กลางจักรวาล การประกวดไม่ได้มุ่งแต่จะชนะคนอื่น ๆ จะด้วยวิธีใดก็ตาม เพื่อไปคว้ามงกุฎ หากแต่เริ่มต้นจากการ “ชนะใจตัวเอง” ซึ่งเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่กว่าชัยชนะใด ๆ และอย่างที่กล่าวกันไว้ว่า “ถ้าอยากจะชนะอื่นใดในโลกนี้ ให้เอาชนะตัวเองให้ได้ก่อน”
3. นำหน้าด้วยระเบียบวินัยและความอดทน : การมีดำแหน่งนางงามใด ๆ ก็ไม่ใช่เครื่องการันตีว่า คุณจะประสบความสำเร็จในชีวิตขั้นเทพแล้ว แต่การที่สองสาวมีวินัยในการฝีกฝนและทำงานมากต่างหาก เป็นเครื่องบ่งชี้ระดับของความสำเร็จ ทุกวันนี้ทั้งสองได้พิสูจน์ให้เห็น การไม่ได้มงกุฎระดับประเทศแต่ก็ประสบความสำเร็จในชีวิตได้ ปัจจุบัน น้ำตาลมีความสุขกับการดำเนินธุรกิจด้านอาหารสัตว์ ส่วนลูกปลานั้นมีความสุขอยู่กับการทำงานด้านพิธีกร 3 ภาษา ทั้ง ไทย-ญี่ปุ่น-อังกฤษ ให้องค์กรและหน่วยงานต่าง ๆ อยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้เธอยังทำงานด้านจิตอาสาตามคุณแม่อีกด้วย
4. มากท้นความเสมอต้นเสมอปลาย : หลายคนที่ทำตัวเป็นครูผู้เปรียบเสมือนเรือจ้าง มีหน้าที่ส่งลูกศิษย์ให้ถึงฝั่งคนแล้วคนเล่า ส่วนใครจะหันหลังกลับมามองคนแจวเรือก็สุดแท้แล้วแต่จิตใจของแต่ะคน เชื่อไหมว่า สำหรับ 2 สาวแล้ว จากวันนั้นถึงวันนี้เป็นเวลากว่า 10 ปี เรายังติดต่อไต่ถามสารทุกข์สุกดิบกันอยู่เรื่อย ๆ ทั้งกับลูกสาวและคุณแม่ ยิ่งมีโซเชี่ยลมีเดียจะติดต่อถึงกันง่ายหน่อย โดยเฉพาะทุกเทศกาลสำคัญ เช่น ปีใหม่ และครบรอบวันเกิด กูรูหนุ่มได้รับของขวัญหรือคำพูดหรือข้อความที่ทำให้รู้สึกดี ๆ เสมอเหมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง เคยเดินทางไปท่องเที่ยวญี่ปุ่น จะได้รับการต้อนรับที่ดีจากครอบครัว “ทาดะ” อยู่เสมอ
5. ไม่สร้างความเสียหายให้เกิดขึ้นเลย : การเป็น “ลูกผู้หญิง” โดยเฉพาะผู้หญิงไทย อย่างไรแล้วก็ต้องทำตัวให้ดูดีดูงาม ตั้งแต่รู้จักกับสองสาวมา ไม่เคยเห็นไปทำเรื่องนอกลู่นอกทาง สร้างความเสื่อมเสียให้กับครอบครัว นินทาว่าร้าย สบถด่าใครก็ไม่มี นับเป็นตัวอย่างที่ดีกับเยาวชนไทยในยุคนั้น และเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในวันนี้ ต้องบอกว่า “งามอย่างไทยทันสมัยแบบสากล”
6. แม่นิ่งเฉยไม่เคยวุ่นวาย : หัวข้อนี้อยากจะเขียนมาก อยู่ในวงการนางงงามและบันเทิงมาค่อนชีวิต เด็กบางคนพังเพราะแม่เข้ามาวุ่นวายในชีวิต ทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องการทำงาน แม่บางคนมาเรื่องเยอะในกองถ่าย ไม่มีการยืดหยุ่นกับการทำงานของลูก เก็บเงินทุกเม็ด ไปทะเลาะกับกองประกวดหลังลูกตัวเองได้ตำแหน่ง ไม่ไว้ใจพี่เลี้ยงและผู้ดูแล แม้แต่ฟาดปากกับลูกตัวเองก็มี แต่สำหรับคุณแม่ของสองสาวไม่เคยมาวุ่นวายใด ๆ แม้แต่น้อยนิด โดยเฉพาะเรื่องผลประโยชน์ต่าง ๆ มอบหมายและไว้ใจให้กูรูหนุ่มเป็นผู้บริหารจัดการ พร้อมคอยอยู่ห่าง ๆ อย่างห่วง ๆ เป็นกองหนุนหรือซัพพอร์ตให้ลูกสาวอยู่เสมอ ขาดเหลืออะไรว่าแม่ เดี๋ยวแม่จัดให้
7. เรียบง่ายอยู่เป็น : เคยเห็นไหมว่า ทำไมศิลปินดารา นักแสดง แม้จะล่วงเลยเข้าสู่ชนชั้นสูง สูงนี่สูงวัยนะครับ แต่ยังมีงานเข้ามาเรื่อย ๆ อย่างไม่ขาดสาย ก็เพราะพวกเขา “อยู่เป็น” ดังคำกล่าวที่ว่า “อยู่ให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้” ไม่ต้องไปอธิบายใด ๆ ความหมายชัดเจนและแจ่มแจ้งอยู่แล้ว คนเราสมัยนี้อยู่กันไม่ค่อยเป็น เย็นกันไม่ค่อยพอ และรอไม่ได้กันอย่างไร จึงมีปัญหาเกิดขึ้นมากมาย อย่างสองสาวนี่ ไม่เคยเอะอะโวยวายอะไร ไม่แสดงความกร่าง รอก็รอ เวลาไปทำงานที่ไหนมือไม้อ่อน ไปมาลาไหว้
นี่แหละ! คือ “เด็กสร้างเด็กปั้น” ที่ไม่เคยทำให้กูรูหนุ่มเสียความรู้สึก หากใครถามเราว่าประทับใจเด็กคนไหนมากที่สุดคำตอบคือสองสาว “น้ำตาล-ลูกปลา” ที่เรียกกล้าเรียก “ลูกสาว(แห่งชาติ)” ได้เต็มปากสมความภาคภูมิใจครับ!
เรื่อง : นันท์นภัทร เจิมจุติธรรม
เรียบเรียง : ดร.จุมพล โพธิสุวรรณ
อีบุ๊กบางกอกทูเดย์รายสัปดาห์ ฉบับที่ ๔๐๓ วันที่ 27 ต.ค.-3 พ.ย.66
หน้า 33 คอลัมน์ วินทุกเว(ที) Ways to Win EP36
กูรูหนุ่ม-นันท์นภัทร เจิมจุติธรรม
กูรูตัวแม่ “หนุ่ม นันท์นภัทร” สุดปลื้ม!
“น้ำตาล-ลูกปลา” ลูกสาวแห่งชาติ
อีบุ๊กบางกอกทูเดย์สัปดาห์ ฉบับที่ ๔๐๓ วันที่ ๒๗ ตุลาคม – ๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๖
https://book.bangkok-today.com/books/tznp/#p=33
(สามารถพลิกอ่านได้เหมือนหนังสือปกติ)
