Digiqole ad

วินทุกเว(ที) Ways to Win EP: 03 หนุ่ม-นันท์นภัทร เจิมจุติธรรม แนะ ๘ กลยุทธ์สู่เวทีนางสาวไทย พ.ศ.๒๕๖๖ จาก Local สู่เลอค่า (ตอน ๒)

 วินทุกเว(ที) Ways to Win EP: 03 หนุ่ม-นันท์นภัทร เจิมจุติธรรม แนะ ๘ กลยุทธ์สู่เวทีนางสาวไทย พ.ศ.๒๕๖๖ จาก Local สู่เลอค่า (ตอน ๒)
Social sharing

Digiqole ad

คราวนี้เราจะมาพูดถึงประเด็นที่ว่า ถ้าสาวงามท่านใด หรือ ผู้ปกครอง หรือ พี่เลี้ยง/ทีมงาน จะใจการประกวดเวที “นางสาวไทย พ.ศ. ๒๕๖๖” ต้องปรับเปลี่ยนทัศนคติกันเสียใหม่ เพราะเวทีได้มีการเปลี่ยนไปตามยุคสมัย อย่างสมัยก่อน ๆ มาสมัครประกวดได้โดยตรง ใครผ่านเข้ารอบก็ได้เดินทางไปร่วมทำกิจกรรมต่าง ๆกับกองประกวด แต่มาถึงวันนี้ ไม่สามารถเข้าสู่เวทีนางสาวไทยได้ง่าย ต้องไปสมัครคัดเลือกเป็นตัวแทนประจำจังหวัด ทั้ง ๗๗ จังหวัดกันก่อน โดยผ่านผู้ถือลิขสิทธิ์ประจำจังหวัดที่เรียกกันว่า CP-CITY PRESIDENT” ซึ่งมีทั้งจัดไปแล้วและกำลังดำเนินการ หากใครสนใจจะสมัครเข้าประกวด ต้องติดตามข่าวสาร โดยเฉพาะจากเพจกองแม่  นางสาวไทย – Miss Thailand Organization  ว่าจังหวัดใดยังไม่ได้จัดงานเพื่อเฟ้นตัวแทน ถ้าหากแต่งตั้งเลยก็ดีหน่อยฝ่าด่านจังหวัดข้ามไปแข่งระดับประเทศเลย

ข้อความดังกล่าวเป็นข้อ ๆดีกว่า สำหรับคำแนะนำผู้ที่สนใจเข้าประกวดเวทีนางสาวไทยในปีนี้

๑. ทีมงานทีมเวิร์กที่ดี : หมดหยุดลุยเดี่ยวแล้ว บอกได้เลยว่าทีมงานเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆสังเกตดูเลยว่า เบื้องหลังของนางงามที่ประสบความสำเร็จบนเวทีใหญ่ ๆ ล้วนแล้วแต่มีทีมงานที่ทำงานกันเป็นทีมเวิร์กกันแทบทั้งนั้น บางทีมมีเป็น ๓๐-๔๐ คน โดยจะแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน เช่น เทรนเนอร์ทุก ๆ ด้าน การดูแลเรื่องความสวยความงาม อะไรที่ยังไม่เป๊ะก็เข้าคลินิกศัลยกรรมความงามให้เป๊ะซะแต่เนิ่น ๆ เรื่องเสื้อผ้า หน้า ผม  หาสปอนเซอร์ การจัดการด้านโซเชี่ยลมีเดีย ซึ่งเรื่องนี้สำคัญจะขอแยกกล่าวในข้อต่อ ๆ ไป

            ๒. มีสติปัญญาและทัศนคติเชิงบวก : “ความสวยผงาด ความฉลาดล้ำเลิศ” คงต้องเป็นสูตรสำเร็จของนางงามทั้งโลกเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะศิลปะการพูดหรือการตอบคำถามจากคณะกรรมการและสื่อมวลชน อย่างการประกวดในตัวแทนระดับจังหวัด จะสวยอย่างเดียว จะจดจำเพียงแค่คำขวัญประจำจังหวัดคงไม่ได้แล้ว ต้อง “คม ชัด ลึก” ทำการบ้านแบบเตรียมสอบจอหงวน ต้องค้นคว้าหาข้อมูล ไล่ไปตั้งแต่อดีตกระทั่งถึงปัจจุบัน (อย่าตกข่าวเด็ดขาด)  ให้ถูกต้องแม่นยำ พลาดไม่ได้แม้แต่นิดเดียว เนื่องจากคณะกรรมการบางส่วนเป็นเจ้าที่เจ้าทางของจังหวัด จะเป็นกูรูผู้รอบรู้ ตอบผิดชีวิตเปลี่ยนทันที เคยเห็นนางงามบางคนเตรียมข้อมูลมาเยอะ เวลาตอบคำถาม ก็ตอบเสียยืดยาว ยัดเยียดข้อมูลให้สุดพลัง

๓. สะดวกใช้โซเชี่ยลมีเดียยอดเยี่ยม : เรื่องการใช้โซชี่ยลมีเดีย เป็นเครื่องมือสำคัญในการนำพาเราไปสู่เป้าหมายและความสำเร็จได้เป็นอย่างดี ที่นิยมใช้กันในยุคนี้ได้แก่ เฟซบุ๊ก,อินสตาแกรม และ Tik Tok เวทีใหญ่ ๆ บางเวทีจะถามนางงามในรอบคัดเลือกเลยว่า เล่นโซเชี่ยลมีเดียหรือไม่ มียอดคนติดตามหรือยอดไลค์เท่าไหร่ นางงามบางคนเป็น เน็ตไอดอล,อินฟลูเอนเซอร์และ ยูทูบเบอร์ ยิ่งเป็นต้นทุนที่ดี แต่ถึงกระนั้นก็ต้องมีทีมโซเชี่ยลมีเดียมาเสริมทัพในช่วงประกวด เพื่อโปรโมทตัวนางงาม

๔. เปี่ยมการสร้างคอนเทนต์ที่ดี  : นี่ก็เป็นหัวใจสำคัญมาก ๆ เหมือนการสร้างสรรค์ผลงานอะไรก็ตาม สิ่งแรกเลยต้องมีการวางแผนในเรื่องคอนเทนต์ (CONTENT) กางตำราดูความหมายของคำว่า คอนเทนต์ หมายถึง การสื่อสารข้อมูลและประสบการณ์ถึงลูกค้าหรือผู้ใช้งาน เพื่อให้ผู้สื่อสารสามารถบรรลุเป้าหมายที่ต้องการได้ การสื่อสารข้อมูลผ่านคอนเทนต์ที่ดี ต้องถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับเป้าหมาย ผู้รับฟัง ประเภทของเนื้อหา และ ช่องทางการสื่อสาร จึงอาจกล่าวได้ว่า อาศัยเพียงแค่สื่อจากกองประกวดและสื่อมวลชนแขนงต่าง ๆ ยังไม่พอ ต้องมีสื่อของตัวเองเข้าช่วยอีกแรงหนึ่งจึงจะทำให้นางงามผู้นั้นไม่ตกกระแส เป็นข่าวตลอด เพราะขยันทำคอนเทนต์หรือสร้างจุดขายตั้งแต่ก้าวย่างเข้าประกวดจนถึงวันตัดสิน แม้ว่าท้ายที่สุด “แม้ว่าเราจะไปไม่ถึงพระจันทร์ แต่ก็ภูมิใจที่ได้อยู่ท่ามกลางดวงดาว”

๕. ใบสมัครนี้ไม่ควรมองข้ามไป : ประวัติส่วนตัว หรือ Bio  หรือ About นี่ก็เป็นปราการด่านแรก ของการประกวด ควรตั้งใจเขียนให้ดี ๆ เตรียมข้อมูลมาตั้งแต่เนิ่น ๆ ไม่เพียงแค่เขียน ชื่อ นามสกุล อายุ ส่วนสูง น้ำหนัก สัดส่วน หรือระดับการศึกษาเท่านั้น ที่สำคัญเราต้องเขียนคุณสมบัติหรือความสามารถพิเศษ ประสบการณ์ในการทำงาน ที่สำคัญคือ กิจกรรมเพื่อสังคม หากเป็นตัวตั้งตัวตี อาทิ ผู้ก่อตั้ง ผู้ริเริ่ม ก็จะได้รับความสนใจเป็นพิเศษ ทำให้เราดูดีมี Story ส่วนการสร้างเรื่องดราม่า ก็น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ควรมีศิลปะและอยู่บนพื้นฐานแห่งความเป็นจริง ส่วนรูปถ่ายต้องตรงปกไม่จกตา อย่าใช้แอพมากจนเกินไป บางคนใช้ตั้ง 3-4 แอพ จึงทำให้ดูเวอร์วังเกินไป

๖. มองการณ์ไกลให้สุด ๆ : สมัยที่ “คุณปุ๋ย-ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก” ประกวดนางสาวไทยเมื่อ พ.ศ.๒๕๓๑ นักข่าวสัมภาษณ์ว่า “ทำไมถึงมาประกวดนางสาวไทย” ปรากฏว่า คุณปุ๋ยตอบประมาณว่า “ปุ๋ยอยากไปประกวดนางงามจักรวาล” นั่นหมายความว่า คุณปุ๋ยเธอมองการณ์ไกลไปถึงเวทีนางงามจักรวาลหรือมิสยูนิเวิร์ส (MISS UNIVERSE) แล้ว และเธอได้เป็นทั้งนางสาวไทยและนางงามจักรวาล ปี ๑๙๘๘ จริง ๆ แสดงว่าเธอมีความมุ่งมั่นในระยะยาว ดังนั้นหากใครมาประกวดนางสาวไทยในปีนี้ ต้องมองไปถึงเวทีมิสเวิลด์ (MISS WORLD) หรือนางงามโลก ที่ผู้ครองตำแหน่งนางสาวไทยจะได้เป็นตัวแทนไปประกวดเป็นครั้งแรก

๗. วุฒิภาวะทางอารมณ์เกรดเอ : ในการประกวดเวทีใหญ่ ๆ ของแต่ละเวที มีรูปแบบ กฎ กติกา มารยาท และการดำเนินกิจกรรมที่แตกต่างกันออกไป บางครั้งเรามองว่า การประกวดนางงามคล้ายน้อง ๆ ทหาร เวทีกินไม่ได่กิน เวลานอนไม่ได้นอน ตารางกิจกรรมแน่นเอี๊ยด สุขภาพใครไม่แกร่งพอมีร่วง และสังคมผู้หญิงอาจมีกระทบกระทั่งกันบ้าง อิจฉากันบ้างตามประสา แต่ที่สำคัญคือ การมีความชาญฉลาดควบคุมสภาวะอารมณ์ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่เหวี่ยงไม่วีน อยู่ให้เป็นกองประกวดจะเน้นเรื่องนี้เป็นกรณีพิเศษ เพราะถ้าหากเราได้รับตำแหน่งสำคัญ ๆ จะได้ร่วมทำงานกับทางกองประกวดอย่างน้อยเป็นเวลา ๑ ปี หากมีนิสัยไม่ดีก็ยากที่ร่วมงานด้วยกันได้

๘. ต้องทุ่มเทฝึกซ้อมอย่าง : กว่าจะได้เป็นนักกีฬาทีมชาติเพื่อไปคว้าเหรียญทองในกีฬาโอลิมปิก ไม่ใช่เป็นเรื่องง่าย ๆ ทุกคนต้อง “อดทน อดกลั้น” ผ่านการฝึกซ้อมมาอย่างหนักหนาสาหัส การประกวดนางงามก็เช่นกัน หากไม่มีการฝึกซ้อมอย่างหนักและสม่ำเสมอแล้วก็ยากยิ่งนักที่จะไปคว้ามงกุฎได้ การเป็นนางงามจะต้องมีทักษะหลาย ๆ ด้าน เช่น การเดิน การพูด การแต่งกาย-แต่งหน้า การใช้อยู่ในสังคม ต้องบอกว่า “ทุกความพยายามอาจไม่นำมาซึ่งความสำเร็จ แต่ทุกความสำเร็จล้วนเกิดจากความพยายาม”

ขอให้ทุกท่านจงมีความเลอค่า โชคดี และขอเป็นกำลังใจให้ครับ

ภาพ : กองประกวดนางสาวไทย/อินเทอร์เน็ต

0 หนุ่ม-นันท์นภัทร เจิมจุติธรรม 0

 

 

 

Facebook Comments


Social sharing

Related post