Digiqole ad

มทภ.4 เยี่ยมให้กำลังใจผู้บาดเจ็บจากเหตุลอบวางระเบิดแบบแสวงเครื่อง (คาร์บอมบ์) บริเวณที่พักสวัสดิการข้าราชการตำรวจ อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา ย้ำเจ้าหน้าที่เร่งขยายผลนำผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการกฎหมายให้เร็วที่สุด

 มทภ.4 เยี่ยมให้กำลังใจผู้บาดเจ็บจากเหตุลอบวางระเบิดแบบแสวงเครื่อง (คาร์บอมบ์) บริเวณที่พักสวัสดิการข้าราชการตำรวจ อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา ย้ำเจ้าหน้าที่เร่งขยายผลนำผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการกฎหมายให้เร็วที่สุด
Social sharing

Digiqole ad

วันนี้ (1 กรกฎาคม 2567) เวลา 13.00 น. ที่โรงพยาบาลบันนังสตา ตำบลบันนังสตา อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เข้าเยี่ยมติดตามอาการผู้บาดเจ็บจากกรณีกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงลอบวางระเบิดแสวงเครื่องประกอบในรถยนต์ (คาร์บอมบ์) บริเวณหน้าอาคารที่พักอาศัยสวัสดิการข้าราชการตำรวจ (แฟลตข้าราชการตำรวจ) สถานีตำรวจภูธรบันนังสตา อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2567 เวลา 10.30 น. ที่ผ่านมา และยังคงพักรักษาตัวยังโรงพยาบาลบันนังสตา ประกอบด้วย นายรอมือลี เจ๊ะสนิ อายุ 64 ปี, นางสาวน้ำอ้อย เตะเหมทอง อายุ 36 ปี พร้อมบุตรชาย คือ เด็กชาย อนาวิล สุนทรกิจ อายุ 9 เดือน ก่อนเดินทางลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ณ จุดเกิดเหตุ

โอกาสนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เปิดเผยว่าการก่อเหตุแบบรถยนต์รถจักรยานยนต์ (คาร์บอมบ์) เคยเกิดขึ้นบ่อยครั้ง และเมื่อเกิดเหตุจะนำมาซึ่งความสูญเสียกับทุกสิ่งเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ ฉะนั้นการดูแลพื้นที่จะต้องเข้มข้นอยู่ตลอดเวลา พร้อมกำชับกำลังพลต้องมีสติ ไม่ประมาท มีความตื่นตัวเสมอ และต้องผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเวรยามให้สม่ำเสมอ เพราะกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงยังคงพยายามกระทำต่อเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และประชาชน ยืนยันด่านความมั่นคงทุกด่านมีความจำเป็นและต้องคุมเข้มตลอดเวลา เพื่อตรวจสอบบุคคลและยานพาหนะเข้าออกพื้นที่ เพื่อสร้างพื้นที่ปลอดเหตุ ประชาชนปลอดภัยในทุกมิติให้ดีที่สุด ควบคู่กับการปรับเปลี่ยนเป็นด่านอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน พร้อมย้ำว่าบทเรียนที่เกิดขึ้นให้นำข้อผิดพลาดมาปรับปรุงแก้ไขให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อสร้างรอยยิ้ม สร้างความเชื่อมั่น นำความสงบสุขคืนสู่พี่น้องจังหวัดชายแดนใต้ ยืนยันเจ้าหน้าที่จะกระทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ทั้งการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง และพยายามบังคับใช้กฎหมายเท่าที่จำเป็น และสร้างความเข้าใจต่อครอบครัวผู้กระทำผิดให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม จากเบาไปหาหนักตามสิทธิมนุษยชน ตามสถานการณ์ในพื้นที่

นอกจากนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 และคณะฯ ยังเข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับครอบครัวของ นาง รอกีเย๊าะห์ สะระนะ อายุ 45 ปี ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว ณ บ้านตันหยง หมู่ที่ 2 ตำบลบาเจาะ อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา โดยได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคพร้อมกล่าวแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งที่ครอบครัวสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักยิ่ง ซึ่งนับเป็นการสูญเสียบุคลากรสำคัญคนหนึ่งในพื้นที่ เนื่องจากผู้เสียชีวิตเป็นครูตาดีกาประจำมัสยิดกำปงลาแล อีกทั้งเป็นผู้มีความเสียสละ บำเพ็ญประโยชน์เพื่อส่วนรวมในการพัฒนาด้านการศึกษาและสังคมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เกิดสันติสุขเสมอมา

ทั้งนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน หากพบบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์สายตรง แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 โทร 061-1732999 หรือเบอร์สายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 สน. 1341 และหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งขอเรียนให้ทราบว่าผู้ให้การสนับสนุนผู้กระทำผิดด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น การนำพาซ่อนเร้น การให้การสนับสนุนที่พักพิง หรือการสนับสนุนเสบียงอาหาร จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับโดยข้อมูลของท่านจะได้รับการปกปิดเป็นความลับ

วรินทร แสงมาก/ข่าวภูมิภาค/รายงาน/094-732-6069

Facebook Comments


Social sharing

Related post