‘ภาคิน’ความตั้งใจกับการสร้างแบรนด์โกอินเตอร์
หากถามหาร้านอาหาร Lifestyle Café ที่แข็งแกร่งในยุคนี้ ชื่อของ “เกรย์ ฮาวน์ คาเฟ่” (Grey Hound Café) อาจเรียกได้ว่า เป็นหนึ่งในแบรนด์ร้านอาหาร ที่ติดโผอันดับๆ ในประเทศไทย ก็ว่าได้ เพราะด้วยเอกลักษณ์ และบรรยากาศ ของแต่ละร้าน ที่ไม่ซ้ำใครนั่นเอง
ภาคิน เพ็ญภาคกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (ซีโอโอ) บริษัท มัดแอนด์ฮาวน์ จำกัด (มหาชน) และผู้บริหารแบรนด์ร้านอาหาร เกรย์ฮาวด์ คาเฟ่ ที่มีชื่อเสียงมานานกว่า 25 ปี เล่าถึงแบรนด์เกรย์ฮาวด์ กับหนังสือพิมพ์บางกอกทูเดย์ว่า การเดินทางของแบรนด์เกรย์ฮาวด์ นั้นเริ่มต้นมาจากการเป็นแบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่น ก่อนที่จะมาเพิ่มเติมธุรกิจในส่วนของร้านอาหารในเวลาต่อมา ซึ่งเรียกได้ว่า เป็นอีกธุรกิจที่ทำให้แบรนด์เกรย์ฮาวด์เติบโตอย่างรวดเร็ว “วันนี้ เกรย์ฮาวด์ ถือเป็นแบรนด์ร้านอาหาร ที่สร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้าได้อย่างน่าประทับใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรสชาติอาหาร ที่เป็นเมนูเฉพาะของแต่ละร้าน หรือแม้แต่ เรื่องของการตกแต่งร้านที่ทำให้รู้สึกไม่จำเจ แต่ยังคงความเป็นแบรนด์เกรย์ฮาวด์อยู่”
“ที่ผ่านมา เราพยายามปรับเปลี่ยนรูปแบบร้านอาหารของเรามาตลอด ซึ่งก็ต้องบอกตรงๆ ว่า หลังจากที่ผ่านโควิดมา อะไรหลายๆ อย่างก็เปลี่ยนไปหมด ร้านอาหารก็มีมากขึ้น คนหันมาทำธุรกิจอาการก็เยอะขึ้น มีการใช้เงินลงทุนจำนวนมหาศาล เพื่อการเปิดร้านอาหาร ในรูปแบบต่างๆ ที่จะมาสร้างประสบการณ์ที่ลูกค้าไม่เคยสัมผัสมาก่อน” คุณเต้ เล่าให้ฟัง พร้อมกับบอกเล่าถึงแนวทางในการปรับตัวของแบรนด์เกรย์ฮาวด์
ปรับตัวตอบโจทย์ผู้บริโภค
“สำหรับแบรนด์ เกรย์ฮาวด์ เราพยายามที่จะปรับตัวเราเองมาตลอด เพื่อให้ร้านเกรย์ฮาวด์ มีคาแรกเตอร์ ไม่เหมือนร้านเดิมๆ แต่ก็ยังคงความเป็นเกรย์ฮาวด์ เพราะเราเองอยากให้ลูกค้าเข้ามาแล้วสัมผัสถึงความพิเศษที่แตกต่างกันไป” ซึ่งคุณเต้ เล่าต่อว่า ไม่ใช่แค่ความแตกต่างไปจากร้านอาหารทั่วไปเท่านั้น ทว่า ยังสร้างความแตกต่าง และเอกลักษณ์ในแต่ละร้านภายใต้แบรนด์เกรย์ฮาวด์ ด้วยเช่นกัน
“ผมว่าลูกค้า หรือ ผู้บริโภคแต่ละกลุ่ม ก็ต้องการความเป็นคาแรกเตอร์ที่ชัดเจนของร้านอาหารเหมือนกัน เพราะเมื่อลูกค้าเข้ามาในร้านแล้ว ก็อยากจะมองหาบรรยากาศแบบที่หาที่ไหนไม่ได้ ขณะที่ ร้านอาหารบางแบรนด์เอง เขาอาจจะออกแบบร้านของเขาซ้ำ ๆ กันทุกสาขา ซึ่งในระยะยาว หรือในอนาคตอาจจะตอบโจทย์ผู้บริโภคไม่ได้สักเท่าไร” ซีโอโอ ของเกรย์ฮาวด์ บอกด้วยว่า ยิ่งหลังสถานการณ์โควิด ทำให้หลายๆ คนเริ่มหันมาทำธุรกิจของตัวเองมากขึ้น “ทุกคนเริ่มแข่งขันกันทำร้านอาหาร หรือ บ้างก็นำเขาแบรนด์อาหารจากต่างประเทศเข้ามา ซึ่งก็จะมีความเป็นยูนีค ที่ชัดเจน ดังนั้นการปรับตัวจึงเรียกว่า เป็นตัวแปรสำคัญ ที่จะทำให้ลูกค้าใช้เป็นตัวเลือกในการตัดสินใจเข้าไปใช้บริการ
กระจายรายได้สู่ภาคการเกษตร
ไม่เพียงแค่เรื่องของการปรับตัวของแบรนด์เท่นั้น แต่ซีโอโอท่านนี้ ยังมองไปไกลมากกว่านั้น โดยเฉพาะ การกระจายรายได้สู่ภาคการเกษตร “ผมอยากให้เกิดการกระจายรายได้ไปสู่เกษตรกรในประเทศของเรามากขึ้น โดยไม่ต้องผ่านใคร และยิ่งไปกว่านั้น การเลือกซื้อสินค้าจากเกษตรกรโดยตรง ยังทำให้เราได้เป็นผู้เลือกสินค้าที่ตรงกับความต้องการของเรามากที่สุด” แต่สิ่งที่ซีโอโอแบรนด์เกรย์ฮาวด์ ย้ำด้วยว่า ในเวลาเดียวกันเขายังได้ซื้อสินค้าในราคาต้นทุนที่รับได้ด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น กว่าที่จะได้สินค้าอย่างที่ร้านต้องการ ยังต้องคิดและดูว่า วัตถุดิบที่กำลังจัดหานั้น เหมาะกับการนำมาประกอบอาหาร หรือ เครื่องดื่ม แต่ละเมนูอย่างไรด้วย
ส่วนกรณีที่มีความกังวลว่า แหล่งซื้อสินค้าทางการเกษตรที่ซื้อโดยตรงจากเกษตรกร จะมีผลผลิตมากเพียงพอกับความต้องการหรือไม่ คุณภาคิน อธิบายให้ฟังว่า ทางจัดซื้อของร้าน ก็จะสั่งซื้อสินค้าจากแหล่งผลิตอื่นๆ ที่มีคุณภาพเดียวกัน “ที่ผ่านมา เมนูอาหารของทางเกรย์ฮาวด์ คาเฟ่ ยังคงใช้วัตถุดิบที่หาได้ง่าย และมีทั่วไปในตลาด แต่หากวัตถุดิบชนิดไหนไม่มี หรือขาดแคลนจริงๆ หาในประเทศไม่ได้ ก็จะสั่งซื้อจากต่างประเทศ หรืออีกแนวทางแก้ไขอื่น ก็คือ การเปลี่ยนเมนูอาหารใหม่เลย เพื่อลดคอร์สอาหารที่อาจเพิ่มเข้ามา แต่ผมก็เชื่อว่า ประเทศไทยของเราเป็นแหล่งผลิตอาหารที่สำคัญ และที่ผ่านมาเราก็ยังไม่เคยเจอวิกฤตถึงขั้นนั้นเลย จึงไม่ส่งผลต่อการหาวัตถุดิบอาหารในประเทศ จะมีเพียงก็แต่ ราคาสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น ในบางฤดูกาลเท่านั้น”
ไม่ให้ผลกระทบตกไปสู่ผู้บริโภค
กระนั้นก็ตาม แม้ราคาของวัตถุดิบจะปรับตัวสูงขึ้นอย่างไร แต่ซีโอโอท่านนี้ ก็ยังมีวิธีการแก้ปัญหา ที่ไม่ส่งผลกระทบต่อราคาอาหารในร้าน “ถึงแม้ราคาวัตถุดิบที่เราต้องการใช้จะปรับตัวสูงขึ้น เราก็ยอมที่จ่าย แล้วมองหาวิธีการลดต้นทุนในร้านทางด้านอื่นแทน เช่น ค่าบริหารจัดการ ค่าน้ำ ค่าไฟ หรือแม้แต่ค่าเช่าพื้นที่” ทำให้วันนี้ ราคาอาหารในแต่ละเมนูของเกรย์ฮาวด์ คาเฟ่ ไม่ค่อยได้มีการปรับราคาขึ้นมากสักเท่าไร ยังคงเป็นราคาที่ลูกค้าสามารถจ่ายได้
การสร้างแบรนด์ ให้โกอินเตอร์ อาจเรียกได้ว่า เป็นความมุ่งมั่น และตั้งใจของซีโอโอ แห่งเกรย์ฮาวด์คาเฟ่ ที่หากเป็นไปได้ ก็ถือเป็นอีกความสำเร็จในการบริหารงาน “ผมอยากให้เกรย์ฮาวด์ ก้าวไปไกลทั่วโลก เป็นร้านอาหารแบรนด์ของคนไทย ที่โกอินเตอร์แบบจริงจัง เป็นโกลบอลแบรนด์ ซึ่งวันนี้ผมพยายามที่จะทำให้เกรย์ฮาวด์ เป็นแบรนด์ร้านอาหารที่มีมากที่สุดในประเทศไทยก่อน แล้วค่อยๆ ขยับขยายไปทั่วโลก โดยวันนี้ เรามีร้านอาหารแบรนด์เกรย์ฮาวด์ ในสิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ ฮ่องกง อินโดนีเซีย และลอนดอน อังกฤษแล้ว ในอนาคต ผมอยากให้มีร้านอาหารของเกรย์ฮาวด์มากกว่านี้ และจะพยายามเจาะตลาดเข้าไปในยุโรปกลาง อเมริกา และประเทศในแถบตะวันออกกลางด้วย”
บริหารงานด้วยแนวคิดสุดปัง
มากันที่แนวคิดการบริหารงาน ของซีโอโอ ท่านนี้กันบ้าง ซึ่งยอมรับว่า ตัวเอง ไม่ใช่คนเก่งอะไร “ผมเป็นคนที่เปิดรับอะไรใหม่ๆ ได้ง่าย ไม่ยึดติด อะไรที่ส่งผลต่อการพัฒนาธุรกิจและเป็นประโยชน์ ผมโอเคเลย เพราะทุกสิ่งทุกอย่างจะเป็นไปตามจังหวะเวลา รวมถึงธุรกิจที่อยู่ในมือของเรา” คุณภาคินบอกด้วยว่า แม้ธุรกิจที่ทำอยู่จะมีความแตกต่างจากที่เคยทำ แต่ถ้าเขามองว่าสามารถทำได้ ก็พร้อมที่จะเรียนรู้ไปกับสิ่งนั้น “หนึ่งในมายด์เซ็ตที่มี ผมไม่เคยมองว่า อุปสรรคเป็นปัญหาใหญ่ แต่ผมกลับมองว่า การมีอุปสรรคเป็นเรื่องปกติ และเป็นความท้าทายที่เราต้องเจอในการทำธุรกิจ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เราเกิดการเรียนรู้ และพัฒนาตัวเองไปข้างหน้า”
ซีโอโอ ยังเผยเคล็ดลับการบริหารงานของตัวเอง ด้วยว่า เขาไม่เคยเอาตัวเองเป็นจุดศูนย์กลางในการทำงาน “ทุกคนต้องช่วยทำ แต่ละคนอาจมีความคิดตรงกันบ้าง ไม่ตรงกันบ้าง แต่เมื่อได้ทำงานด้วยกัน ก็จะเริ่มเข้าใจและทำงานด้วยกันได้ เราไม่มีทางทำงานให้ประสบความสำเร็จด้วยตัวคนเดียวได้ เราต้องใช้ทีมงาน และใช้ใจทำงาน เพราะเราใช้คนทำงาน ไม่ได้เป็นเครื่องจักร และวันนี้ผมพยายามบอกน้อง ๆ ทุกคนเสมอว่า การมีงานทำ มีงานเยอะ เป็นเรื่องดี ดีกว่าตื่นมาแล้วไม่มีอะไรทำ” คุณภาคิน บอกว่า หากเป๋นเช่นนั้น ก็จะยิ่งทำให้เกิดความเครียดมากขึ้น “ถ้าคุณมีมายด์เซตที่ดี คุณก็จะทำงานได้สนุกสนาน โดยหนึ่งในคอนเซ็ปต์การทำงานที่ผมบอกน้องๆ ทุกคน คือ วันหยุดคือวันทำงาน วันทำงานคือวันหยุด เพราะในแต่ละวันที่เรามาทำงาน เราจะได้เจอ พี่ๆ คนที่มีประสบการณ์ ที่เราอยากเจอ เหมือนการแลกเปลี่ยนอีกด้วย” เรียกว่า เป็นแนวคิดการทำงาน ที่ไม่ใช่แค่สร้างกำลังใจ ให้กับคนทำงานเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงผลักดันสำคัญ ที่ทำให้ทั้งคนทำงาน และองค์กร เติบโตและพร้อมที่จะก้าวเดินไปข้างหน้าสู่จุดมุ่งหมายของความสำเร็จร่วมกัน
