‘พรนฎา นิวาตวงศ์’ ปรับแผนธุรกิจ รับสภาพเศรษฐกิจเปลี่ยน 

จากสภาพเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไปในปัจจุบัน ทำให้หลายธุรกิจ บ้างก็ต้องปิดตัวลง ขณะที่อีกหลายธุรกิจ ก็ต้องพยายามปรับตัว รวมถึงการเปลี่ยนแผนธุรกิจใหม่ เพื่อให้ธุรกิจที่ทำอยู่ ยังสามารถเดินหน้า และก้าวไปข้างหน้าได้อย่างต่อเนื่อง เฉกเช่นเดียวกับ “ใหม่–พรนฎา นิวาตวงศ์” ที่นอกจากการวางแผนด้านธุรกิจใหม่แล้ว ยังมองหาช่องทางการตลาดที่เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้มากขึ้น

ธุรกิจยานยนต์ ต้องปรับตัว

พรนฎา นิวาตวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วีพีพีดับเบิลยู ซัพพลายส์ จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถสกู๊ตเตอร์พรีเมียมชั้นนำจากประเทศอิตาลี ได้แก่ แบรนด์ เวสป้า อาพริเลีย โมโตกุซซี่ และ พิอาจิโอ และล่าสุด ได้เข้าซื้อกิจการ บริษัท ควอตโตร ดีไซน์ จำกัด ผู้นำเข้า และจำหน่ายสินค้าเฟอร์นิเจอร์ ของแต่งบ้านระดับพรีเมี่ยมจากอิตาลี เปิดเผยกับ “สำนักข่าว บางกอกทูเดย์” ว่า จากการที่ทำธุรกิจยานยนต์ โดยเฉพาะ การจำหน่ายรถแบรนด์ เวสป้า มากว่า 10 ปี “ทำให้เรามองเห็นพฤติกรรมของผู้บริโภคพรีเมี่ยมแมส มีความใส่ใจในเรื่องของการใช้จ่ายไปกับ ดีไซน์ การใช้ชีวิต การให้ความสุขกับตัวเอง หรือแม้แต่การเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งเด็กรุ่นใหม่ จะแคร์ในเรื่องพวกนี้เยอะขึ้น” 

“เวสป้า” หนึ่งในยานยนต์ที่มีดีไซน์สวยงาม จึงเรียกว่า เป็นยานพาหนะที่ถูกใจคนรุ่นใหม่ “จริงๆ แล้ว ช่วงโควิด ยอดขานยรถมอเตอร์ไซค์โตไปเยอะ เราขายไปประมาณปีละ 40,000 กว่าคัน และเราเองก็ทำตลาด 65 จังหวัดในประเทศไทย แต่พอมาปีนี้ ตลาดยานยนต์ไม่ค่อนดีเท่าไร ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจาก ผู้บริโภคเข้าถึงเงินกู้ไม่ได้ เพราะว่า ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น ก็ทำให้ปีนี้ เราได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว ซึ่งไม่ใช่แค่ธุรกิจยานยนต์เท่านั้น แต่ดูเหมือนว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ น่าจะได้รับผลกระทบหนักสุด ก็ทำให้เราต้องมาปรับแผนการดำเนินธุรกิจแบบย่อลงไป ตามสถานการณ์ ขณะที่เราเอง ก็มองว่า คงต้องรอว่า สถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศไทย จะดีขึ้นในช่วงปีไหน” 

สู่ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์

ส่วนในธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งบ้าน ซึ่งถือเป็นธุรกิจล่าสุดของ วีพีพีดับเบิลยู ซัพพลายส์ โดยในส่วนนี้ กรรมการผู้จัดการ ยอมรับว่า เป็นธุรกิจหนึ่งที่เธอชอบมาก “ด้วยตัวเอง เป็นคนที่ชองเรื่องของ การดีไซน์อยุ่แล้ว และก็เคยเป็นดีไซเนอร์มาก่อน เรียกว่า จบมาทางด้านดีไซน์เลย แต่ก็เกิดการพลิกผัน ทำให้ต้องเข้ามาทำธุรกิจด้านยานยนต์ ซึ่งเอาจริงๆ จะเห็นว่า เวสป้า แม้จะเป็นเรื่องยานยนต์ แต่ก็มีความเกี่ยวเนื่องกับความสวยงามด้วยเหมือนกัน” 

กรรมการผู้จัดการ เล่าต่อด้วยว่า ตอนนั้นเห็นพี่สาวทำธุรกิจนี้มาสักพักและตัวของเธอก็เป็นที่ปรึกษา ในธุรกิจนี้อยู่แล้วด้วย “ซึ่งพี่สาวทำมาแล้ว 10 กว่าปี ก็มาปรึกษาว่า จะทำอย่างไรต่อดี ซึ่งก็เป็นช่วงที่เจอโควิดพอดี เราก็เลยเข้าไปเทคโอเวอร์ เพราะโดยส่วนตัวเอง ก็มองอยู่แล้วว่า อยากจะเข้าไปลงทุนด้านไลฟ์สไตล์ อยู่แล้ว แล้วพอดีกับที่มีโอกาสขึ้นมา เราก็เลยมองว่า จริงๆ แล้วเฟอร์นิเจอร์ เองก็มีจุดเปลี่ยน และตัวของเขาเอง ก็ทำสินค้าในกลุ่มลักชัวรี่ ไปเยอะ พอเราเข้ามา ก็เลยมองว่าอยากให้ตอบโจทย์ ลูกค้ากลุ่มพรีเมี่ยมแมสมากขึ้น ก็เลยเป็นที่มาในการรีแบรนด์ เป็น QD ที่ดูมีความเป็นวัยรุ่นมากขึ้น และมีโพซิชั่นนิ่งใหม่ รวมถึง การมองหาลองเทอมพาสเนอร์ชิพ แบบที่เรามั่นใจว่าจะสามารถซัพพลายให้เราได้ให้หากเราต้องการขยายธุรกิจ” 

“แต่ก่อน สิ่งที่เขาทำก็จะมีลักษณะ ซีเล็คชอป ที่มีซัพพลายเยอะ จากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งทำให้ลูกค้าตื่นเต้นกับของที่เปลี่ยน และเราก็ยังคงจุดเด่นตรงนี้เอาไว้ 20 เปอร์เซ็นต์ แต่อีก 80% เราต้องการหาพาสเนอร์ชิพ ที่เรามองว่า หากเราขยายกิจการแล้ว เขาก็พร้อมจะโตไปกับเราได้ ก็เลยเป็นซลูชั่น ว่ามีแมนูแฟคเจอร์เรอ ผลิตให้กับ QD และไอโฮสต์ ได้เป็นเบสหลักชิ้นใหญ่ของเราได้” เรียกว่า เป็นที่มาในการแตกไลน์ธุรกิจ ของ วีพีพีดับเบิลยู ซัพพลายส์ ล่าสุด 

การปรับตัว 

อย่างที่รู้กันดีว่า สถานการณ์เศรษฐกิจมีการชะลอตัวลงอย่างมาก ดังนั้นการปรับตัวทางธุรกิจ จึงเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งกรรมการผู้จัดการ เล่าถึงการปรับตัวในส่วนของธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ว่า “เรามองว่า เราเองมาต่อยอด กลุ่มธุรกิจอสังหาฯ อีกที ซึ่งเราไม่ได้ขาย เฟอร์นิเจอร์อย่างเดียว แต่ว่าเรามีการทำงานแบบ B2B และ B2C ด้วย เพราะฉะนั้นตอนนี้ คือ ความขยันที่จะทำหลายเซกเมนต์ เนื่องจากว่าเราสามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้หลากหลาย เรามองว่าข้อดีของการเป็นปลายเหตุ ตอนนี้เราก็เข้าไปเป็นโปรโมชั่นให้ เรียลเอสเตท และพร้อมเข้าไป แล้วก็มอบเฟอร์นิเจอร์ ลงทุน รวมถึง การบอกเขาให้ตัดมาจิ้น สร้างโซลูชั่น ไปช่วยเรียลเอสเตท ขายบ้าน ทำโซลูชั่น ซึ่งส่วนนี้ ก็เป็นหนึ่งโซลูชั่น ที่เราจะเข้าไปคุย และมองหาว่า จำทำอย่างไรให้บ้านของเขา น่าซื้อมากขึ้น” 

“ตอนนี้ เราแตะกลุ่มล่างไม่ได้ แต่สำหรับบ้านหลังละ 10 ล้าน หรือ 15 ล้าน ขึ้นไป เราสามารถตอบโจทย์ได้ และในการตอบโจทย์ เรายังสามารถไปมองหาสินค้าจากที่อื่น ๆ ได้อีกมากมาย เพื่อให้ตรงกับสไตล์ของบ้านได้อีกด้วย” ซึ่งในส่วนนี้ ผู้บริหาร QD บอกด้วยว่า สามารถทำตามงบประมาณ ของลูกค้าได้ทุกรูปแบบ

นอกจากการเป็นโซลูชั่น ให้กับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แล้ว ธุรกิจบ้านเช่า ก็เป็นอีกธุรกิจที่ QD ได้เข้าไปตอบโจทย์ ในการช่วยดึงลูกค้าให้เข้ามาในธุรกิจมากขึ้น “มีอยู่อีกอันหนึ่ง ที่เป็นจุดแข็งของเรา โดยเราทำเฟอร์นิเจอร์แพ็คเกจ ที่ไม่ได้เหมาะกับพร็อพเพอร์ตี้ อย่างเดียว แต่ยังเหมาะกับ ธุรกิจห้องเช่า หรือ บ้านเช่า ที่เราทำมาพิเศษช่วยให้คน รู้งบประมาณที่ต้องใช้ หรือ เงินลงทุนอยู่ที่เท่าไร เช่น อาจจะต้องการแพ็กเกจห้องหนึ่งไม่เกิน 1 แสนบาท เราก็สามารถจัดให้ได้” เรียกว่า เป็นอีกกลยุทธ์ ในการสร้างความแตกต่าง ท่ามกลางสถานการณ์ และสภาพเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป 

มองความสำเร็จในธุรกิจ 

กรรมการผู้จัดการ บอกถึง ภาพความสำเร็จในธุรกิจอีกด้วยว่า ความสำเร็จของเธอ อยู่ที่การสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจ “ในอนาคต เราอาจจะไม่ได้อยู่ในธุรกิจยานยนต์ หรือ ธุรกิจอะไรก็ได้ เพราะเรามองว่า เราเป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ ที่มองว่า ผู้บริโภคเปลี่ยนเร็ว ขณะที่องค์กรของเรา รีสตาร์ทตัวเองตลอดเวลา และธุรกิจที่เราทำอยู่ตรงนี้ ก็เป็นบทเรียนหน้าหนึ่งในธุรกิจ ที่เราคิดว่า เป็นความท้าทายที่อยู่อีก 15 ปี ในรูปแบบต่างๆ ที่พร้อมตอบโจทย์ผู้บริโภค ที่ให้ความสำคัญ กับการใช้ชีวิต พร้อมๆ กับการเติมเต็มชีวิตของคนรุ่นใหม่”