Digiqole ad

ปรับปรุงใหม่ ไฉไลกว่าเดิม ก้าวไกลตั้งคณะทำงาน ลุยยกร่างกฎหมาย #คำนำหน้านามตามสมัครใจ ฉบับใหม่ เสนอเข้าสภาฯ ก.ค.นี้ ]

 ปรับปรุงใหม่ ไฉไลกว่าเดิม ก้าวไกลตั้งคณะทำงาน ลุยยกร่างกฎหมาย #คำนำหน้านามตามสมัครใจ ฉบับใหม่ เสนอเข้าสภาฯ ก.ค.นี้ ]
Social sharing

Digiqole ad
เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว (21 ก.พ. 67) สภาผู้แทนราษฎรมีมติไม่รับหลักการร่าง พ.ร.บ.การรับรองเพศ คำนำหน้านาม และการคุ้มครองบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศ หรือร่างกฎหมาย “คำนำหน้านามตามสมัครใจ” ที่เสนอโดยพรรคก้าวไกล
.
ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมานี้พรรคก้าวไกลไม่ได้นิ่งเฉย แต่พยายามนำความคิดเห็น-ข้อท้วงติงของ สส.และประชาชนไปคิดทบทวน พร้อมกับปรึกษาหารือร่วมกับภาคประชาสังคมต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมปรับปรุงร่างกฎหมายฉบับเดิมให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
.
จนกระทั่งวันนี้ (24 พ.ค. 67) ที่อาคารรัฐสภา ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะประธานคณะทำงานความหลากหลายทางเพศและคนเท่ากัน พรรคก้าวไกล พร้อมด้วยผู้แทนจากภาคประชาสังคมกลุ่มสัปภาคีนอนไบรีเพื่อรับรองสำนึกทางเพศ (HCNL) ร่วมกันจัดประชุมนัดแรกเพื่อนำรายละเอียดร่างกฎหมายเดิมมาปรับปรุง และยกร่างฉบับใหม่เป็น 🟠 “ร่าง พ.ร.บ.การแก้ไขคำนำหน้านามและการระบุเพศ พ.ศ. ….” 🟠 เตรียมยื่นเข้าสู่สภาฯ ในสมัยประชุมที่จะถึงนี้
.
จากการเปิดรับฟังความคิดเห็นร่างกฎหมายเดิม พบว่าประชาชนให้ความสนใจเรื่องการรับรองเพศมากที่สุด ดังนั้น ร่างกฎหมายฉบับใหม่นี้จะเน้นหลักการสำคัญที่การให้สิทธิแก่บุคคลในการแก้ไขเปลี่ยนแปลงคำนำหน้านามและการระบุเพศให้เป็นไปตามเจตจำนงและอัตลักษณ์ทางเพศของตน (Self-determination) โดยจะแก้ไขคำนำหน้านามตามระบบเดิมเป็น “นาย” หรือ “นางสาว” หรือจะใช้คำนำหน้าว่า “นาม” ที่ไม่มีลักษณะเป็นชายหรือเป็นหญิงก็ได้
.
ทั้งนี้ ก็เพื่อทำให้ข้อมูลในทะเบียนราษฎรสอดคล้องกับอัตลักษณ์ทางเพศของบุคคลนั้น ลดอุปสรรคในการดำเนินชีวิตและการยืนยันตัวตนในงานทะเบียนราษฎรต่างๆ อีกทั้งยังเป็นการพิทักษ์สิทธิของประชาชนในการกำหนดอัตลักษณ์ทางเพศของตนเอง รวมถึงเจตจำนงในการเปลี่ยนแปลงสภาพร่างกาย ซึ่งประชาชนต้องได้รับสิทธิและสวัสดิการตามร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไปด้วย
.
💡สำหรับข้อกังวลที่สังคมมักตั้งคำถามว่า การปลดล็อกให้ทุกคนสามารถเปลี่ยนแปลงคำนำหน้านามเป็นรูปแบบใดก็ได้ตามเจตจำนงของตน จะไม่สร้างความสับสนวุ่นวายในสังคมหรือ?
ธัญวัจน์ชวนคิดในมุมกลับว่า การที่บุคคลใช้คำนำหน้านามแบบไม่สอดคล้องกับเพศสภาพของตนน่าจะสร้างความสับสนให้กับสังคมมากกว่า เช่น บุคคลเพศกำเนิดชายที่เปลี่ยนแปลงสภาพร่างกายเป็นเพศหญิงแล้ว แต่ยังคงต้องใช้คำนำหน้ามนามว่า “นาย” อยู่ ย่อมส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน และทำให้การยืนยันตัวตนในงานทะเบียนราษฎรต่างๆ เป็นปัญหา
.
ดังนั้นการเปลี่ยนคำนำหน้านามจะทำให้เอกสารทางราชการสอดคล้องไปตามเพศสภาพของแต่ละบุคคล ช่วยลดความสับสนและลดอุปสรรคในการดำเนินชีวิตของประชาชนได้ ✅
.
ต่อจากนี้ คณะทำงานของพรรคก้าวไกลจะเร่งเดินหน้ายกร่างกฎหมายคำนำหน้านามตามสมัครใจฉบับใหม่ให้เสร็จภายในเดือนกรกฎาคมนี้ เพื่อให้พร้อมยื่นเข้าสู่สภาฯ ทันทีเมื่อเปิดสมัยประชุม 🟠
.
ที่มา : เพจพรรคก้าวไกล
Facebook Comments


Social sharing

Related post