“ท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพไฮบริด” ต้นแบบ รับเทร็นด์ใหม่ ทริปเดียวเที่ยวได้ครบ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ติดตามข้อมูลความสนใจของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสถานการณ์การระบาดของโควิด–19 เริ่มคลี่คลาย และล่าสุดพบว่าทิศทางการท่องเที่ยวเวลเนสที่กำลังเป็น “เทร็นด์ใหม่” คือ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพแบบผสมผสาน เนื่องจากกิจกรรมเพื่อสุขภาพเพียงด้านเดียวยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของนักท่องเที่ยวสายสุขภาพ
ททท. จึงพัฒนาโปรแกรม “ท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพไฮบริด” ต้นแบบ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวในกลุ่มสุขภาพ หรือ Wellness Tourism โดยจำแนกตามกลุ่มความสนใจ เช่น นักท่องเที่ยวสายผจญภัย หรือ ธรรมชาติก็ท่องเที่ยวได้ในธีม Adventure Wellness หรือ Eco Wellness Travel สำหรับกลุ่มที่สนใจศิลปวัฒนธรรม ก็เลือกรูปแบบ Cultural Wellness Holiday นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นกลุ่มครอบครัว คู่รัก คนทำงาน โดยได้กำหนดพื้นที่ที่เหมาะสม และตอบโจทย์การท่องเที่ยวในรูปแบบไฮบริดในแต่ละธีมไปด้วยพร้อมกัน
นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว เปิดเผยว่า การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ได้กลายเป็นสินค้าท่องเที่ยวหลักของแทบทุกประเทศ ในปัจจุบันมีการแข่งขันสูงมาก ททท. เองได้ติดตามข้อมูล และเทร็นด์ความสนใจอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวในกลุ่ม “เวลเนส” เพื่อเพิ่มทางเลือก และนำเสนอโปรแกรมตรงตามความต้องการให้มากที่สุด
“ประเทศไทยเรามีความได้เปรียบในเรื่องทรัพยากรท่องเที่ยวที่หลากหลายอยู่แล้ว สามารถนำมาประยุกต์ใช้ร่วมกับสินค้าบริการสุขภาพที่มีอยู่เดิม เพิ่มความแปลกใหม่เข้าไปได้อย่างลงตัว และมีความสมบูรณ์” รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ชี้ถึงโอกาสสำคัญของประเทศไทย
ทั้งนี้ Global Wellness Institute ระบุว่า ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพได้ขยายตัวกว่า 2 เท่าของการท่องเที่ยวแบบทั่วไป และจะมีมูลค่าถึง 1.02 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2030
ททท. ได้พัฒนาโปรแกรมท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพไฮบริดต้นแบบ 7 ธีม ใน 10 เส้นทาง ประกอบด้วย
- 1. Adventure Wellness ความแข็งแกร่งของคนรักการผจญภัยที่ชุมพร และเกาะช้าง
- 2. Cultural Wellness Holiday สุขภาพที่ดีพร้อมกับเรียนรู้มรดกทางวัฒนธรรม ในเส้นทางระนอง
- 3. Eco Wellness Travel ทริปสุขภาพ ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและชุมชน ที่กระบี่
- 4. Family Wellness Holiday ครอบครัวคนรักสุขภาพเลือกได้ 2จุดหมาย ชะอำ เพชรบุรี หรือเชียงใหม่
- 5. Healthy Honeymoon รักยืนนาน คู่รักรักสุขภาพที่ปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
- 6. Immunity Booster Holiday เสริมภูมิคุ้มกัน ทรีตเมนต์ทั่วร่างใน2เส้นทาง คือ ภูเก็ต และเกาะสมุย
- 7. Wellness Workation ทำงานคล่อง สมองรีเฟรช บนเส้นทางจังหวัดน่าน
เพื่อเพิ่มโอกาสให้กับภาคธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เส้นทางท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพไฮบริดจึงถูกออกแบบให้เชื่อมโยงกับสินค้าและบริการในระบบเศรษฐกิจสุขภาพ (Wellness Economy) ของไทย อาทิ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อสุขภาพ โรงแรม รีสอร์ตสุขภาพ สปา น้ำพุร้อน น้ำแร่ ร้านอาหารเพื่อสุขภาพ และยังครอบคลุมไปถึงแหล่งท่องเที่ยวชุมชนอีกด้วย
ข้อมูลเพิ่มเติมเส้นทางท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ 10 Wellness Vacation Trips สำหรับผู้ประกอบการ และนักท่องเที่ยวผู้สนใจ เข้าชมได้ที่ https://tourismproduct.tourismthailand.org/en/article-detail/625
