ทิม โบดา ฉลอง 1 ปี “ท็อปกอล์ฟ” ตั้งเป้าดึงลูกค้า 5 แสนคนต่อปี
ถ้าพูดถึง สนามกอล์ฟ ที่เป็นแลนด์มาร์ก ของคนกรุงเทพฯ สำหรับคนที่ชื่นชอบกีฬากลางแจ้ง อย่าง การตีกอล์ฟ แล้ว “ท็อปกอล์ฟ เมกาซิตี้” เรียกได้ว่า เป็นสนามกอล์ฟเพื่อคนรักกีฬากอล์ฟ ที่มาพร้อมความบันเทิงแบบครบวงจร อีกแห่งหนึ่ง ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญ ของคนรักกีฬากอล์ฟ อย่างแท้จริง และวันนี้ สนามกอล์ฟ แห่งนี้ ก็ได้เปิดให้บริการมาครบ 1 ปี พอดี โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับจาก นักกอล์ฟ เป็นอย่างดี
บรรลุเป้าหมายตั้งแต่ปีแรก
ทิม โบดา กรรมการผู้จัดการ ท็อปกอล์ฟ ประเทศไทย เล่าว่า ภายในปีแรก ของการเปิดให้บริการ ท็อปกอล์ฟ เมกาซิตี้ ได้มีการตีลูกกอล์ฟไปแล้วมากกว่า 6 ล้านลูก จากเป้าหมายของ ท็อปกอล์ฟ โกลบอล ที่ต้องการบรรลุเป้าหมายของการตีลูกกอล์ฟ ให้ได้ทั้งสิ้น 50,000 ล้านลูก ภายในปี 2568 “ท็อปกอล์ฟ เมกาซิตี้ ประสบความสำเร็จอย่างมากในการสร้างการรับรู้ไปยังกลุ่มเป้าหมาย โดยใช้เทคโนโลยีการเล่นเกมที่ทันสมัย อาหารและเครื่องดื่มรสเลิศ สถานที่จัดงานและการประชุม โดยเรามาพร้อมการบริการที่ครบครัน ซึ่งทั้งหมดนี้ผสานกลายเป็นประสบการณ์เหนือระดับที่ท็อปกอล์ฟมอบให้”
นอกจากนี้ทางสนามกอล์ฟ ยังมีการตกแต่ง บรรยากาศ ให้ดูผ่อนคลาย โดยมาพร้อมอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงแนวเพลงแสนสนุก และจอ HDTV รอบสนามกว่า 300 จอ เพื่อทำให้การเล่นเกม เต็มเปี่ยมไปด้วยบรรยากาศของงานปาร์ตี้ที่มีความสนุกมากยิ่งขึ้น โดยทางกรรมการผู้จัดการ ฯ บอกด้วยว่า “ด้วยเป้าหมายในการดึงดูดให้คนหันมาเล่นกอล์ฟแนวใหม่กันมากขึ้น ท็อปกอล์ฟ เมกาซิตี้ เข้ามาทำให้กอล์ฟกลายเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ด้วยเกมที่มีความสนุก ทุกคนเล่นได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีทักษะด้านกอล์ฟ”
การออกแบบที่เหมาะสม
ในส่วนนี้ กรรมการผู้จัดการฯ อธิบายเพิ่มเติมว่า ในปีแรก ลูกค้า 2 ใน 3 ของท็อปกอล์ฟ เมกาซิตี้ มาจากกลุ่มลูกค้าที่ไม่ได้เล่นกอล์ฟ และเกือบครึ่งหนึ่งเป็นลูกค้าผู้หญิง “รูปแบบของเกม สำหรับทางสนาม ท็อปกอลฟ์นั้น ได้ถูกออกแบบมาให้เหมาะสำหรับคนทุกเพศ ทุกวัย และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพื่อดึงดูดกลุ่มผู้เล่นใหม่ ๆ โดยประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ที่มาใช้บริการ ท็อปกอล์ฟ เมกาซิตี้นั้น มีอายุระหว่าง 20-35 ปี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความดึงดูดของ ท็อปกอล์ฟ ต่อกลุ่มผู้เล่นที่อายุยังน้อย ชี้ให้เห็นถึงโอกาสเติบโตที่ยังยืนของ ท็อปกอล์ฟ และกีฬากอล์ฟในประเทศไทย”
ท็อปกอล์ฟ ไทยแลนด์ ไม่ใช่แค่สนามกอล์ฟ ของคนรักกีฬากอล์ฟ เท่านั้น ทว่า ยังเป็นอีกหนึ่งสถานที่ สำหรับการทำกิจกรรมได้อีกมากมาย “กิจกรรมองค์กร เป็นอีกตัวแปรสำคัญที่ช่วยดึงดูดผู้เล่นใหม่ ๆ เข้ามาหาเรา ซึ่งทาง ท็อปกอล์ฟ ถือเป็นสถานที่ครบวงจรสำหรับกิจกรรมมากมาย ทั้ง Team Building การประชุม งานเปิดตัวสินค้า และงานเลี้ยงประจำปี ด้วยฮิตติ้งเบย์ถึง 102 เบย์ ที่สามารถรองรับผู้เล่นได้ถึง 6 คนต่อเบย์” ทิม โบดา กล่าว
ไม่ใช่แค่สนามกอล์ฟเท่านั้น
นอกจากนี้ กรรมการผู้จัดการ ยังบอกด้วยว่า ที่นี่ ยังมี บาร์ ร้านอาหารรวม 5 ร้าน รวมถึง Topgolf Academy ห้องประชุมอเนกประสงค์ และสนามมินิกอล์ฟ 18 หลุมที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ “โดยสามารถจัดงานได้ทั้ง B2B และ B2C เหมาะกับผู้เข้าร่วมตั้งแต่ 12 คน ไปจนถึง 1,200 คน ซึ่งสามาถเลือกจัดงานได้ที่ร้านอาหารและบาร์ หรือจะเลือกจัดงานในห้องประชุม รวมไปถึงทีมงานของท็อปกอล์ฟที่พร้อมให้บริการช่วยจัดการออแกไนซ์งาน พิธีกร โค้ช และสร้างความสนุกสนานแบบครบวงจร ทำให้ท็อปกอล์ฟ เมกาซิตี้ กลายเป็นพื้นที่จัดงานยอดนิยมแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ
ทิม โบดา อธิบายถึงสัดส่วนของการการจัดกิจกรรม ภายในสนามกอล์ฟ แห่งนี้ด้วยว่า หากเป็นการจัดกิจกรรมองค์กร จะมีสัดส่วนคิดเป็น 30% ของรายได้ของทางท็อปกอล์ฟ เมกาซิตี้ “อีเวนต์ที่ใหญ่ที่สุดในปีแรกของเรา เป็นกิจกรรมที่จัดต่อเนื่องติดต่อกัน 4 วัน และมีผู้เข้าร่วมถึง 5,000 คน ซึ่งในช่วงปีแรก องค์กรที่มาจัดงานที่ท็อปกอล์ฟ เมกาซิตี้ นั้นมาจากหลากหลายแวดวงธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น อุตสาหกรรมยานยนต์ เภสัชกรรม สถาบันการเงิน รวมถึงอุตสาหกรรมการผลิต โดยมีแพ็คเกจการจัดงานเริ่มต้นที่ 990 บาทต่อผู้เข้าร่วม”
ความสำเร็จและการต่อยอด
จากความสำเร็จในปีแรก ท็อปกอล์ฟ เมกาซิตี้ ทางกรรมการผู้จัดการ ฯ ได้ตั้งเป้าในการต่อยอดความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ด้วยกิจกรรมมากมายที่เตรียมไว้สำหรับครึ่งหลังของปี 2565 “โดยตั้งแต่วันที่ 14 ถึงวันที่ 20 สิงหาคม ลูกค้าจะได้ลุ้นรับรางวัล เล่นเกม พร้อมรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่ ท็อปกอล์ฟ เมกาซิตี้ ได้ฟรี ในกิจกรรมลุ้นโชคสุดพิเศษ โดยในระยะเวลากิจกรรมลูกค้าจะได้ลุ้นรับรางวัลให้ท็อปกอล์ฟเป็นผู้จ่ายบิลให้ทั้งหมด โดยไม่มีมูลค่าขั้นต่ำ”
นอกจากนี้ตั้งแต่เดือนกันยายนไปจนถึงเดือนธันวาคม มีกิจกรรมรออยู่อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น มินิคอนเสิร์ต การถ่ายทอดสดกีฬาบนจอขนาดยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ การแข่งขันกอล์ฟทัวร์นาเม้นท์ การจับมือกับเหล่าเชฟคนดัง และอื่น ๆ อีกมากมาย และเตรียมพบกับการกลับมาของกิจกรรม Golden Ball ที่โด่งดังตลอดทั้งเดือนธันวาคม พร้อมลุ้นรับรางวัลประจำวัน ที่มีมูลค่ารวมกว่า 2.5 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี เพื่อต่อยอดความสำเร็จของท็อปกอล์ฟ เมกาซิตี้ ทางกรรมการผู้จัดการของท็อปกอล์ฟ ยังได้บอกด้วยว่า เวลานี้ ทางท็อปกอล์ฟ ยังเตรียมเปิดตัวสนามกอล์ฟ แห่งที่สองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งปัจจุบันกำลังอยู่ในขั้นตอนการก่อสร้าง และตั้งเป้าที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2566 และไม่เพีบงเท่านั้น ท็อปกอล์ฟ ของเรายังมองหาโอกาสในการขยายโครงการในประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม อีกด้วย”
