Digiqole ad

ชวนน้องๆ เรียนรู้โลกวิทยาศาสตร์ด้วยความสุข และสนุกสนาน พร้อมไขความลับทางวิทยาศาสตร์อันน่าตื่นเต้นผ่านกิจกรรม ใน “งานมหกรรมวิทย์’ 65”

 ชวนน้องๆ เรียนรู้โลกวิทยาศาสตร์ด้วยความสุข และสนุกสนาน  พร้อมไขความลับทางวิทยาศาสตร์อันน่าตื่นเต้นผ่านกิจกรรม  ใน “งานมหกรรมวิทย์’ 65”
Social sharing
Digiqole ad

นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานเปิดงาน “มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2565” ภายใต้แนวคิด “ศิลปะ วิทยาศาสตร์และนวัตกรรม เพื่อสังคมที่ยั่งยืน” (Art – Science –Innovation for Sustainable Society) เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฎวิทยมหาราช รัชกาลที่ 4 “พระราชบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย” และพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร “พระบิดาแห่งเทคโนโลยีไทย และพระบิดาแห่งนวัตกรรมไทย” โดยมี ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ศ.นพ.ดร.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวง อว. ผศ.ดร.รวิน ระวิวงศ์ ผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) เอกอัครราชทูตจากประเทศต่างๆ ผู้บริหารและผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ให้การต้อนรับ ณ อาคาร 9-10 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี เมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม 2565

นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกฯ รมว.ต่างประเทศ เปิดเผยว่า ปัจจุบันโลกเผชิญกับความท้าทายอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ความขัดแย้งในหลายมุมโลก ซึ่งส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางอาหาร ทางพลังงาน และทางสาธารณสุข ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นอุปสรรคหนึ่งของการพัฒนาประเทศ ไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง โลกใบนี้ต้องการความสมานฉันท์ ความร่วมมือ และสันติสุข เพื่อให้เรามีเวลาและสภาพแวดล้อมที่เอื้อให้ทุกคน โดยเฉพาะเยาวชนคนรุ่นใหม่สามารถใช้มันสมอง สองมือ ใช้ความคิดสร้างสรรค์ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้อย่างเต็มที่ ซึ่งถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประเทศไทยให้มีความเข้มแข็ง พึ่งพาตนเองลดผลกระทบจากวิกฤตต่าง ๆ ซึ่งความท้าทายเหล่านี้จึงทำให้เราตระหนักชัดเจนถึงผลเสียที่เกิดจากการพัฒนาที่เน้นแต่การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและผลกำไรใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างเกินความพอดี ทำให้เกิดความไร้สมดุลของทุกสิ่ง โดยเฉพาะความสมดุลระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ ในการพัฒนาประเทศเราจำเป็นที่จะต้องเน้นการเสริมสร้างทัศนคติ ปรับเปลี่ยนชุดความคิดของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคธุรกิจ ชุมชน และเยาวชน ให้ตระหนักถึง การใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างรู้คุณค่าควบคู่กับการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

งานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติปีนี้ นับเป็นกิจกรรมที่จะช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจแก่เด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไป ในโอกาสนี้ขอขอบคุณหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในและต่างประเทศที่รวมพลังในการสร้างแรงบันดาลใจให้กับสังคมไทย อันจะก่อให้เกิดสังคมวิทยาศาสตร์ ซึ่งจะส่งผลให้ประเทศไทยของเราเติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืนต่อไป และขอแสดงความยินดีกับเยาวชน และครูวิทยาศาสตร์ที่ได้รับรางวัล Prime Minister’s Science Award 2022 ซึ่งถือเป็นรางวัลที่แสดงถึงผลงานชั้นเลิศด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งจะเป็นแบบอย่างและแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนคนอื่นๆ ให้มุ่งมั่น พัฒนาฝีมือ และความคิดสร้างสรรค์  สร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ อันจะเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวหน้าต่อไป

ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.อว. กล่าวว่า งานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2565 กำหนดจัดขึ้น 2 แห่ง ได้แก่ มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ จัดขึ้น ณ อาคาร 9-10 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 13 – 21 สิงหาคม 2565 และงาน NST Fair Science Carnival Bangkok ในรูปแบบ Science Carnival จัดขึ้นที่สามย่านมิตรทาวน์ ระหว่างวันที่ 17 – 21 สิงหาคม 2565 เพื่อให้เข้าถึงและครอบคลุมเยาวชนและประชาชนที่สนใจเป็นวงกว้าง โดยมีแนวคิดการนำวิทยาศาสตร์มาสู่เมือง เพื่อเป็นการกระจายความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย และง่ายต่อการเข้าถึงกลุ่มคนในกรุงเทพฯ ซึ่งมีเป้าหมายสำคัญคือทำให้คนไทยให้หันมาสนใจ ชื่นชอบวิทยาศาสตร์ เปลี่ยนมุมมองว่าวิทยาศาสตร์เป็นเรื่องสนุก น่าตื่นเต้น น่าเรียนรู้และจับต้องได้ โดยเน้นนำเสนอความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ผสานกับศิลปะในมุมของการขับเคลื่อนพัฒนา “เศรษฐกิจสร้างสรรค์” (Creative Economy) ของประเทศ สอดรับกับนโยบาย “BCG Model : Bio – Circular – Green Economy” สนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจหมุนเวียน โดยร่วมผนึกกำลังความยิ่งใหญ่กับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สมาคม มูลนิธิ และหน่วยงานต่างประเทศ ร่วมถ่ายทอดศักยภาพทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้กับเยาวชนและประชาชนไทย มากถึง 136 หน่วยงาน จาก 10 ประเทศ

พบกับ 5 นิทรรศการไฮไลต์ที่ห้ามพลาด ได้แก่ นิทรรศการเทิดเกียรติ (The Royal Pavilion) นำเสนอพระอัจฉริยภาพด้านวิทยาศาสตร์ของพระมหากษัตริย์ไทยและพระบรมวงศานุวงศ์ ชมวิทยาการและพัฒนาการด้านวิทยาศาสตร์อันน่าทึ่งในรัชสมัยต่างๆ  นิทรรศการแก้วเปลี่ยนโลก (Through the Looking Glass) บอกเล่าเรื่อง “แก้ว” ในทุกมิติทั้งในด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ศิลปะ และสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน ร่วมสร้างความตระหนักถึงคุณค่าของแก้ว ซึ่งเป็นวัสดุที่มีบทบาทสำคัญตลอดประวัติศาสตร์อันยาวนาน นิทรรศการลอดช่อง ส่องถ้ำ (Cave and Karst) ทรัพยากรธรรมชาติที่มีความสำคัญทางระบบนิเวศที่เชื่อมโยงและสัมพันธ์กับสิ่งมีชีวิตทุกชีวิตบนโลก เปิดบันทึกการสำรวจถ้ำครั้งแรกในสยามเสมือนว่าได้เข้าไปสำรวจด้วยตนเอง รวมทั้งพบกับดาวเด่นถ้ำไทย สัตว์ถ้ำที่น้อยคนจะได้เห็น นิทรรศการวิทย์ คิด เพื่อ คุณ (Basic Science for All) ชวนทุกคนเรียนรู้และทำความเข้าใจพื้นฐานธรรมชาติเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์พื้นฐาน ที่ต่อยอดสู่นวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวัน และนิทรรศการนวัตกรรมวันรุ่ง (Tomorrow Land) สนุกสนานไปกับการสร้างโลกแห่งอนาคตในแบบฉบับของตัวเอง นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์ (Science Lab) ที่ให้เด็ก ๆ สวมบทบาทเป็นนักวิทยาศาสตร์ตัวน้อย กิจกรรมงานประชุมสัมมนา อบรม และเสวนาในหัวข้อต่าง ๆ ที่น่าสนใจ และกิจกรรมเวทีกลาง อีกมากมาย

รมว.อว. กล่าวต่อว่า “ตลอดระยะเวลาการจัดงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 16 ปี ที่ผ่านมา มีผู้เข้าเที่ยวชมงานมากกว่า 15 ล้านคน โดยมุ่งหวังว่าเด็ก เยาวชนไทย ตลอดจนสังคมไทยจะยกระดับความรู้ และได้รับแรงบันดาลใจ เพื่อสร้างวัฒนธรรมวิทยาศาสตร์ให้เกิดขึ้นในสังคมไทย และเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าต่อไป”

ด้าน แบมแบม ลลิตา วงศ์วารี ลูกสาวคนสวย ควงคู่คุณแม่ กบ ดวงกมล เพ็ชรเลิศ ที่ปรึกษาด้านการบริหารการลงทุน เล่าว่า มาเที่ยวงานวันนี้มีการจัดแสดงด้านวิทยาศาสตร์ที่หลากหลายมาก เป็นวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัยสนุกสนานตื่นเต้น เป็นวิทยาศาสตร์ที่อยู่ในกระแสที่คนสนใจ และไม่น่าเบื่อ สอดแทรกอยู่ในชีวิตประจำวันของเราทุกคน ซึ่งหลักการคิดแบบวิทยาศาสตร์เป็นการสังเกตุปัญหา วิเคราะห์ถึงสาเหตุ วิจัยและตกผลึกเป็นผลที่ออกมา เราสามารถนำหลักการเดียวกันไปปรับใช้ได้กับทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ สิ่งแวดล้อม และทุกๆ อย่างในชีวิตของเรา และเพราะมีวิทยาศาสตร์ถึงทำให้เกิดการคิดค้นและพัฒนาสิ่งใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ หนูอยากเชิญชวนให้เด็กๆ และทุกๆ คนเข้ามาชมงานกันเยอะๆ รับรองว่าจะได้สนุกไปกับความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ใหม่ๆ อย่างแน่นอนค่ะ

ส่วน ตูน-นิศากร สิหนาทกถากุล กรรมการผู้จัดการ บจก. เดอะ ไวน์ เอสเตท มาพร้อมน้องนิดา มานิดา และ น้องมาวิน ปภาวิน ปัญญาศร เป็นครั้งแรกที่พาเด็กๆมาร่วมกิจกรรมที่นี่ รู้สึกประทับใจมากกับมหกรรมวิทย์และเทคโนโลยีประจำปีที่จัดขึ้น กิจกรรมต่างๆช่วยส่งเสริมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ในแบบที่เด็กๆสามารถร่วมสนุกได้ อย่างห้องทดลองวิทยาศาสตร์คือดีมากๆ เด็กๆได้สวมบทบาทเป็นนักวิทยาศาสตร์ได้ด้วยงานนี้มีส่วนช่วยสร้างแรงบันดาลใจแก่เด็กๆ ให้เด็กๆรักวิทยาศาสตร์ได้ดีมาก ซึ่งโลกเรามีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด  เราต้องการเยาวชนคนรุ่นใหม่ให้ช่วยสร้างสรรค์พัฒนา รับมือกับการเปลี่ยนแปลงในทุกๆมิติ ซึ่งเด็กๆเหล่านี้เค้าคืออนาคตประเทศไทยเราต้องการเค้า ช่วยพัฒนาปท. ของเราให้ก้าวหน้าไปอย่างมั่นคง ด้านน้องมาวิน ก็บอกว่าผมอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ตั้งแต่เด็ก เพราะผมชอบประดิษฐ์สิ่งของ แต่ถ้าผมโตขึ้นผมจะใช้เทคโนโลยีช่วยประดิษฐ์ของเจ๋งๆ มันน่าสนุกครับ ผมชอบงานนี้มากๆ เพราะมีหุ่นยนต์ และกิจกรรมประดิษฐ์สิ่งต่างๆ มากมายที่ใช้หลักวิทยาศาสตร์ครับ ปีหน้าผมตั้งใจว่าจะชวนคุณแม่มาหาความรู้อีกครับ ไม่พลาดแน่นอน

เบน กัลยานี กมลวิศิษฎ์ และน้องเวเนโน่ เจ้าของ บีเจ ยีนส์ กล่าวว่า งานมหกรรมวิทย์ครั้งนี้เป็นงานที่ดีมากๆ ที่จะทำให้เด็กได้มีโอกาสเรียนรู้และทดลองวิทยาศาสตร์ ได้เห็นความก้าวหน้าล้ำสมัยของวิทยาศาสตร์ที่ยังไม่เคยเห็นมากมาย โลกของวิทยาศาสตร์เป็นโลกที่เราเรียนรู้ไม่มีวันหมด อย่างวันนี้ที่พาน้องเวเนโน่มาเที่ยวงาน ได้เรียนรู้เรื่องป่า เรื่องต้นไม้  เรื่องสัตว์ และธรรมชาติรอบๆ ตัวเรา ให้ได้ลองใช้ประสาทสัมผัสทั้งการมองการฟังการสัมผัสในการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ในระดับที่เหมาะกับตัวเอง ลูกดูมีความสุขมาก ตาเป็นประกาย และชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ สำหรับเบนมองว่าวิทยาศาสตร์เป็นเรื่องใกล้ตัว และอยู่ในชีวิตประจำวันของเราทุกคน วิทยาศาสตร์ไม่ใช่เรื่องที่เด็กต้องเรียนรู้เท่านั้น แต่ผู้ใหญ่อย่างเราๆ ก็ควรเข้าใจหลักวิทยาศาสตร์ที่เหมาะสมกับเราด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเลือกทานอาหาร การดูแลสุขภาพ สิ่งเหล่านี้ทำให้เราสามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดี และมีความสุขได้ค่ะ

สำหรับ ดีดี้ณัฏฐณิชา กับลูกสาว น้องโคลเอ้-อภิษฎา สังขะทรัพย์ ผู้นำเข้าสกินแคร์เกาหลีแบรนด์ BPH อยากเชิญชวนให้คุณพ่อ คุณแม่ พาเด็กๆ มาเที่ยวงานกันเยอะ เป็นอีกกิจกรรมที่สำคัญที่ครอบครัวจะได้มีเวลาอยู่ร่วมกัน และพ่อแม่จะได้สำรวจความชอบและพรสวรรค์ที่ซ่อนอยู่ของลูก ไม่แน่ว่างานนี้อาจจะจุดประกายให้เด็กๆ โตขึ้นเป็นนักวิทยาศาสตร์ในอนาคต ที่สำคัญคือได้เรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสนุกสนาน เด็กๆ ชอบมาก ไม่ต้องยัดเยียดให้เรียนรู้ ไม่ต้องบังคับให้ท่องจำ แต่เน้นความเข้าในจากการทดลองให้เห็นจริง ส่วนน้องโคลเอ้เล่าว่า สนุกดีค่ะ มีกิจกรรมและของรางวัลเยอะมาก หนูยังเข้าไปเรียนรู้ไม่ครบทุกบูธเลย แต่ดีใจและตื่นเต้นได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ มากมาย ซึ่งเอาไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ค่ะ

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2565 ได้ทั้ง 2 แห่ง ได้แก่ มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ จัดขึ้น ณ อาคาร 9-10 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 13 – 21 สิงหาคม 2565 และงาน NST Fair Science Carnival Bangkok ในรูปแบบ Science Carnival จัดขึ้นที่สามย่านมิตรทาวน์ ระหว่างวันที่ 17 – 21 สิงหาคม 2565 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.thailandnstfair.com หรือ Facebook: NSTFair Thailand (www.facebook.com/nstfairTH)

Facebook Comments

Related post