Digiqole ad

“จักรวาลแห่งส้ม” สมหวัง+ก้าวไกล=ไทยแลนด์ (สกู๊ปปกอีบุ๊กฉบับที่ 381 วันที่ 26 พ.ค.- 1 มิ.ย.66)

 “จักรวาลแห่งส้ม” สมหวัง+ก้าวไกล=ไทยแลนด์ (สกู๊ปปกอีบุ๊กฉบับที่ 381 วันที่ 26 พ.ค.- 1 มิ.ย.66)
Social sharing

Digiqole ad

สกู๊ปปกอีบุ๊กฉบับที่ 381 วันที่ 26 พฤษภาคม- 1 มิถุนายน 2566

หน้า 2-3

จักรวาลแห่งส้ม

สมหวัง + ก้าวไกล =ไทยแลนด์

            -ขณะที่กระแสมาแรงอย่างฉุดรั้งไม่อยู่ของ “ก้าวไกล” ซึ่งเป็นพรรคที่ได้เก้าอี้ ส.ส. มากที่สุด (อัพเตตล่าสุด 152 ที่นั่ง) ในการเลือกตั้งประเทศไทย ปี 2566 เรียกกันว่า แบบ landslide โดยในบริบทการเมืองหมายถึง ชัยชนะอย่างถล่มทลาย เลยทีเดียว แล้วยิ่งหน่วยก้านของหัวหน้าพรรค “คุณทิม-พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” คนรุ่นใหม่ วัย 42 ปี ที่ทั้งเก่งทั้งหล่อทั้งรวยครบสูตร

ก่อในเกิดกระแสทั้ง “ก้าวไกลฟีเวอร์” และ “พิธาฟีเวอร์” กันทั่วฟ้าเมืองไทย โดยเฉพาะตัวบุคคลอย่าง “คุณทิม พิธา” ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศในโลกโซเชี่ยลมีเดียทุกแพลตฟอร์มกระหึ่มดังไม่มีแผ่วลงแม้แต่น้อยนิด เกิดเอฟซีส้ม และด้อมส้มมากมาย กระทั่งกลายเป็นวลีเด็ด “ส้มรักพ่อ” กับ “พ่อก็รักส้ม”  ส้มที่ว่ามีจุดกำเนิดมาจากสีของพรรคก้าวไกลนั่นเอง  ด้วยเหตุนี้คำว่า “ส้ม” จึงกลายเป็นสัญลักษณ์แห่ง “ความสำเร็จ” และ “ความก้าวไกล” (ตามชื่อพรรค)

มาดูกันว่าในจักรวาลของ “ส้ม” นั่นมีส้มอะไรที่ดี ๆ สื่อถึงพลังบวกกันบ้าง !?!

“ส้ม” ผลไม้มงคลชาวจีนตลอดกาล

            “ส้ม” ชาวจีนถือว่าเป็นผลไม้ขึ้นชื่อเรื่องการนำโชค หลายคนคงเห็นกันอยู่บ่อย ๆในงานบุญ หรือเทศกาลและพิธีสำคัญจะมี “ส้ม” เป็นผลไม้หลักด้วย เพราะเชื่อกันว่าส้ม ถือเป็นผลไม้มงคล ที่ช่วยเสริมเรื่องการเงิน โชคลาภ เงินทอง และนำพาแต่สิ่งดีๆเข้ามาในชีวิตอีกด้วย
           ส้ม  (จวี๋) ภาษาจีนออกเสียงคล้ายกับคำว่า (จี๋) ที่แปลว่าสิริมงคล นอกจากความหมายแล้วนั้นผลส้มยังมีสีเหลืองอร่าม คล้ายกับทองคำ ดังนั้นส้มจึงเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่ง และการอวยพร เมื่อกราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วยส้มที่มีผลใหญ่โตมากเท่าไหร่ก็จะมีความหมายที่ดีมากขึ้นเท่านั้น เพราะผลส้มที่ใหญ่อ่านว่า 大橘 (ต้าจวี๋) ซึ่งพ้องกับคำว่า 大吉 (ต้าจี๋) ซึ่งหมายความว่า “มหามงคล” ชาวจีนจึงยกให้ส้มเป็นผลไม้ที่มีความสำคัญและมีความหมายที่ยิ่งใหญ่นั่นเอง

สำหรับ “เทศกาลตรุษจีน” แล้วผู้คนนิยมมอบให้กับผู้ใหญ่เป็นของขวัญ วันแรกของเทศกาลตรุษจีนเพราะถือเป็นวันเริ่มต้นปีใหม่ โดยคนไทยเชื้อสายจีนจะนิยมนำส้ม 4 ผล ไปกราบผู้ใหญ่ขอพร ผู้ใหญ่จะรับส้มเก็บไว้ 2 ผล และนำส้มในบ้านที่เตรียมไว้วางคืนลง 2 ผล เปรียบเสมือนการอวยพรซึ่งกันและกัน ส่วนการมอบส้ม 8 ผล มีความหมายที่ดีว่าความเจริญรุ่งเรือง มหามงคล โดยส้มที่นิยมมอบให้กันคือ ส้มแมนดาริน เนื่องจากเปลือกสีส้มทอง ผลใหญ่ เนื้อแน่น รสชาติอร่อย นอกจากนี้ยังมีการมอบเงิน หรืออั่งเปาอีกด้วย (ที่มา : www.aurora.co.th)

ภาพ : BASKETEER

            ซินแสชู “ต้นส้ม” ฮวงจุ้ยอุดมทรัพย์

ซินแสเป็นหนึ่ง วงษ์ภูดร กล่าวว่า “ต้นส้ม” ถือเป็นไม้มงคลอุดมทรัพย์เชื่อกันว่าเป็นต้นไม้ที่ช่วยเสริมในเรื่องการเงิน โชค ลาภ และนำสิ่งดีๆเข้าหาตนเอง

ปลูกต้นส้มไว้หน้าบ้าน : ปากทางเข้าบ้านควรมีต้นส้ม เพราะต้นส้ม เป็นต้นไม้ที่มีความสมดุลเรื่องหยินหยาง  การปลูกต้นส้มไว้หน้าบ้านจะมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง มีงาน มีเงิน มักได้รับอะไรมาแบบฟลุ้คๆ จะส่งผลดีให้กับทุกคนในบ้าน  คนจีนเชื่อว่าต้นไม้ที่ผลิดอกออกผลตรงบริเวณหน้าบ้านจะให้พลังงานที่ช่วยกระตุ้น งาน เงิน และโอกาสดีๆ ที่เข้ามาในชีวิตแก่คนในบ้าน

ปลูกต้นส้มไว้หน้าธุรกิจการค้า : คนจีนเชื่อกันว่าถ้าปลูกต้นส้มไว้หน้าสถานที่ประกอบธุรกิจหรือกิจการใดก็ตาม จะมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง มีงาน มีเงิน ส่งผลให้คนที่ทำธุรกิจนั้นๆหรือเจ้าของธุรกิจนั้นๆ เพิ่มพูนในเรื่องของทรัพย์สินเงินทอง  กระตุ้นเรื่องการค้าขายเพื่อให้เกิดสิ่งดีๆ

ผลส้มกระตุ้นทรัพย์รับโชค : ตามตำราจีนโบราณบันทึกไว้ว่า  ผลไม้มงคลที่นิยมนำมาวางไว้ในที่ทำธุรกิจการค้า หรือบ้านพักอาศัย คือ ผลส้ม (ผลส้มจริงหรือปลอมก็ได้) เพื่อช่วยส่งเสริมและส่งผลเรื่องของการค้าขาย โชคลาภ ความเจริญรุ่งเรือง กระตุ้นเงินทอง จะได้รับอะไรมาแบบฟลุ้คๆ

ถ้าเป็นกิจการร้านค้าหรือธุรกิจให้จัดส้มจำนวน 3 หรือ 5 หรือ 8 ผล ใส่ภาชนะวางไว้ที่มุมขวาของโต๊ะทำงาน เคาน์เตอร์เก็บเงิน ถ้าเป็นบ้านพักอาศัยให้จัดส้ม 3 หรือ 5 หรือ 8 ผล วางไว้ที่โต๊ะรับแขก โต๊ะทานอาหาร  และมุมขวาของโต๊ะทำงาน ถ้าเป็นผลจริงสามารถหยิบทานได้และค่อยซื้อนำมาเติมให้ครบจำนวน ผลส้มจะช่วยเสริมและส่งผลดี ดึงดูดเแต่เรื่องดีๆ มีกำไร ค้าขายเจริญรุ่งเรือง

ภาพ : FB ตรวจดวงชะตา ด้วยลายเซ็น ซินแสเป็นหนึ่ง วงษ์ภูดร

            21 สรรพคุณและประโยชน์ของส้ม

  1. ส้มมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระมากมาย จึงช่วยในการชะลอวัย
  2. ส้มมีคุณสมบัติในการช่วยสร้างคอลลาเจน ทำให้ช่วยลดเลือนหรือชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัยได้
  3. ส้มช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส
  4. ช่วยให้ผิวมีสุขภาพดีไม่แห้งกร้าน
  5. ช่วยบำรุงสายตา ป้องกันการเกิดโรคต้อกระจก เพราะส้มมีวิตามินซี
  6. ช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง ด้วยแคลเซียมและวิตามินดีจากส้ม
  7. การกินส้มก็ช่วยลดสภาวะความเครียดได้เหมือนกัน
  8. ส้มช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง
  9. ช่วยป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
  10. ช่วยป้องกันการเกิดโรคเลือดออกตามไรฟัน
  11. ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ
  12. ช่วยในการขับถ่าย เพราะส้มมีกากใยสูง
  13. ช่วยลดโอกาสการเกิดโรคมะเร็งที่ปาก กล่องเสียง และที่กระเพาะ
  14. ช่วยป้องกันการเป็นอัมพาตหากกินผลไม้ตระกูลส้มเป็นประจำ
  15. สารฟลาโวนอยด์ในส้มจะช่วยป้องกันการอักเสบและเลือดจับตัวกันเป็นก้อน
  16. ในส้มมีสารเบตาแคโรทีนที่ช่วยชะลอความเสื่อมเส้นผม เล็บ และผิวของคุณ และช่วยให้ผนังหลอดเลือด เส้นเลือดฝอยแข็งแรง
  17. ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกายของเรา
  18. ช่วยในการสมานแผลต่าง ๆ เช่น แผลไฟไหม้หรือแผลหลังผ่าตัดให้หายดียิ่งขึ้น
  19. เปลือกส้มจะมีน้ำมันหอมระเหยที่ช่วยแก้อาการวิงเวียนศีรษะและเป็นยาระบายอ่อน ๆ
  20. เปลือกส้มมีสารช่วยลดคอเลสเตอรอล ช่วยปรับระดับน้ำตาลในเลือด และช่วยกรองสารพิษในตับได้ด้วย
  21. เปลือกส้มมีฤทธิ์ในการช่วยทำลายเซลล์มะเร็งได้

ทางด้านประโยชน์ของส้ม น้ำส้มใช้ดื่มแก้กระหาย เพิ่มความสดชื่นให้แก่ร่างกาย เพิ่มความกระปรี้กระเปร่า เปลือกส้มที่แห้งแล้ว เมื่อนำไปจุดไฟจะมีกลิ่นหอมและมีคุณสมบัติในการไล่ยุง น้ำมันหอมระเหยจากเปลือกส้มก็ช่วยให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายและช่วยกระตุ้นระบบประสาทได้ดี การเสิร์ฟเปลือกส้มคู่กับอาหารที่เป็นเนื้อสัตว์ จะช่วยในการย่อยอาหารที่มีไขมันสูงได้ (ที่มาข้อมูล/ภาพ : https://medthai.com)

“ต้นส้มแสนรัก” หนังสือเยาวชน แปล 20 ภาษาทั่วโลก

สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับ สมาคมไทสร้างสรรค์ คัดหนังสือที่เหมาะสมกับเด็กชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔–๖ ทั้งหนังสือภาพ วรรณกรรมเยาวชน และสารคดี รวม ๑๐๑ เล่ม ในโครงการส่งเสริมและพัฒนานิสัยรักการอ่านในเด็ก 1 ในนั้นคือ “ต้นส้มแสนรัก” ของ โจเซ่  วาสคอนเซลอส นักเขียนชาวบราซิล และผู้แปลคือ สมบัติ เครือทอง จัดพิมพ์โดย สํานักพิมพ์ประพันธ์สาส์น

เนื้อหาว่า ด้วยเรื่องราวของเด็กชายคนหนึ่งนามว่าเซเซ่ วัย  5  ขวบ มีจินตนาการเปี่ยมไปด้วยความฝันที่งดงาม มีความอ่อนไหวในการมองชีวิตผ่านความคิดและการกระทําอันบริสุทธิ์เป็นเด็กฉลาด ด้วยความที่ดื้อและซนทําให้เขาถูกทําโทษ และคิดว่าไม่มีใครรักเขา เด็กน้อยจึงต้องสร้างโลกส่วนตัวของเขาขึ้นมาคือโลกแห่งความฝันเขาได้พบกับ “ต้นส้มต้นหนึ่ง” ซึ่งพูดได้ทําให้เขาได้เพื่อนใหม่ที่รู้ใจที่ทําให้เขามีความสุข จนในที่สุดเขาต้องรับรู้ว่าเพื่อนที่ดีที่สุดของเขาต้องจากเขาไปตลอดกาลวรรณกรรมเรื่องนี้เน้นหนักในทางความรู้สึกและจินตนาการของเด็กมีทุกรสชาติ เนื้อหาหลายตอนสะเทือนอารมณ์  ที่กินใจที่สุดคือบทเศร้าที่ทําให้คนอ่านนํ้าตาไหลได้  ผู้เขียนซ่อนแง่มุมทางจิตวิทยาไว้อย่างคมคายในหลายบทหลายตอน  ทําให้โด่งดังไปทั่วโลกได้รับการแปลมากกว่า  20  ภาษา

       

ภาพ : อินเทอร์เน็ต

        “นกน้อยในไร่ส้ม” เพลงยอดนิยมในหมู่ชาวนิเทศ

เพลงยอดนิยมในหมู่ชาวนิเทศศาสตร์หรือชาวสื่อสารมวลชนที่มีมาแต่ช้านานคือ “เพลงนกน้อยในไร่ส้ม” โดยที่มาของเพลงในเพจ MMSpecial ได้กล่าวไว้คือ “คุณจวงจันทร์ จันทร์คณา” หรือรู้จักกันในนามนักแต่งเพลงชื่อดัง  “พรานบูรพ์”  ซึ่งเป็นนิสิตเก่าคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้แต่งคำร้องและให้ทำนองเอาไว้ต่อมาชาวนิเทศศาสตร์ฟังแล้ว เห็นว่าเหมาะกับชีวิตนักข่าว จึงขอเอาไปแปลงบางบท บางท่อน ร้องกันจนเป็นที่นิยม ร้องกันจนคนทั่วไปเข้าใจว่า “นกน้อยในไร่ส้ม” หมายถึงนักข่าว เป็นอันว่าเพลงนี้ นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์แต่งให้เพื่อนคณะสัตวแพทย์ร้อง น้องนิเทศ ฯ รั้วจามจุรี ด้วยกัน ยืมไปใช้ตามประสาพี่ ๆ น้อง

          ทางด้าน “คุณเพ็ญชมพู” ได้โพสต์เรื่องของครูแจ๋ว-สง่า อารัมภีร ที่เรียบเรียงโดย กิจเทพ ทับทองลงในเว็บ PANTIP ไว้ว่า  “เพลงนกน้อยในไร่ส้ม” เพลงนี้กว้างขวางมากในหมู่นักหนังสือพิมพ์ ร้องกันมานานนักหนา ร้องกันจนกลายเป็นเพลงประจำตัวของนักหนังสือพิมพ์ ไปแล้ว เพลงนี้เคยมีนักแต่งเพลงยุคปัจจุบันหลายคน อ้างออกมากอย่างหน้าตาเฉยว่า ตัวเองเป็นผู้แต่ง เป็นใครเราอย่าออกชื่อเขาเลยนะครับ ผู้ที่แต่งเพลงนี้ทั้งคำร้อง และทำนองคือ “พรานบูรพ์” แต่งให้“พี่ใหญ่ ขุนวิจิตรพาหนะการ” อดีตอธิบดีกรมปศุสัตว์ ซึ่งคุ้นเคยกัน

ครั้งหนึ่งขุนวิจิตรฯ ออกตระเวน ตรวจโรคของวัว ควาย หมู ไปทั่วภาคเหนือ ภาคอิสาน ส่วนครูพรานบูรพ์นั้น สมัยหนุ่ม ๆ ต้องคุมละครไปแสดงทั่วทุกจังหวัด ค่ำไหนนอนนั่น คล้าย ๆ กัน ครูพรานบูรพ์เลยแต่งเพลงนี้ให้ เมื่อถึงคราวจัดกินเลี้ยงวันเกิดขุนวิจิตรฯ ลูกน้องใกล้ชิดจะร่วมล้อมวงร้องเพลง “นกน้อยในไร่ส้ม” กันอย่างครึกครื้น เมื่อครูสง่า ท่านได้ยินเพลงนี้ในงาน จึงได้ถามขุนวิจิตรฯ ว่า “ชอบเพลงนี้เหมือนกันหรือครับ” ขุนวิจิตรฯ ตอบว่า “มันเป็นเพลงของพวกเรา จวงเขาแต่งให้มานานแล้ว” (จวงหมายถึง จวงจันทร์ จันทร์คณา หรือพรานบูรณ์) เพลงนี้แพร่หลายเรื่อยมาจนคนหนังสือพิมพ์นิยม เพราะอาชีพตระเวนข่าว คำไหน นอนนั่น เหมือนกัน ครูสง่าฯ ท่านกล่าว (พ.ศ.2510) ทิ้งท้ายว่า “เมื่อทราบว่าใครเป็นคนแต่งเพลงนี้แล้ว นักเพลงที่ชอบ อ้างว่า “ผมเป็นคนแต่ง” ก็เลิกอ้างเสียทีนะครับ ผมได้ยินใครอ้างทีไร ดื่มอะไรอยู่ก็สำลักสิ่งนั้นเสียทุกทีไป”

คลิปเพลง : เมืองไทย ภัทรถาวงศ์

เนื้อเพลงนกน้อยในไร่ส้มมีดังนี้

 พวกเราสูงศักดิ์ สูงนัก สูงหนา ..ร่อนเร่ เคหา ไม่มี

ค่ำไหน นอนนั่น เราไม่หวั่น เราไม่หวาด รักษาเอกราชเสรี

เราเหล่าสกุณา ร่มไม้ใบหญ้า เราก็กล้านอน.. เราก็กล้านอน

บ่ ห่อนเกรงภัยใดใด

ค่ำลงบันเทิงเริงใจ ฮะฮะ เริงใจ

ชีวิต ชะเอยสดใส เหมือนนกอยู่ในไร่ส้ม

เราไม่ปรารมณ์ต่อสิ่งใดๆ

มีกิน มีใช้เป็นพอ ไม่ขอรบกวนผู้ใด

มีเงิน มีทอง ไม่คิดอะไร ซื้อเหล้าใส่ไหไว้กิน

กับแกล้มไม่ต้องๆ เป็นของไม่ดีๆ

( กับแกล้มไม่ต้องๆ เป็นของไม่ดีๆ )

สิ้นเปลืองใช่ที่ แต่ถ้ามีก็เอา …

ภาพ : อินเทอร์เน็ต

            น้ำส้ม “กรีนสปอต” เครื่องดื่มสุดคลาสสิก

“น้ำส้มกรีนสปอต” (บริษัท กรีนสปอต จำกัด)  ต้นกำเนิดมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2477 และได้ก่อตั้งในประเทศไทย เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2497 โดยโรงงานแห่งแรกตั้งอยู่บนถนนหลานหลวง ทำการผลิตน้ำส้มประเภทไม่อัดลมหรือก๊าซชนิดแรกของไทยและจัดจำหน่ายภายใต้เครื่องหมายทางการค้า “กรีนสปอต” (Green Spot)ต่อมาในปี 2501 บริษัทฯ ได้ผลิตน้ำนมถั่วเหลือง “ไวตามิ้ลค์” บรรจุขวดออกจำหน่ายเป็นรายแรกของประเทศ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการเครื่องดื่มคุณภาพดี ราคาประหยัดและสะดวกต่อการบริโภค

ในปี 2516 บริษัทฯ ได้ย้ายโรงงานมาตั้งอยู่บนเนื้อที่ 22 ไร่ บริเวณหัวหมากเนื่องจากมีการขยายตัวทางธุรกิจเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ของบริษัทฯในปัจจุบัน ในปี พ.ศ.2534 บริษัทฯ ได้จัดสร้างโรงงานผลิตแห่งใหม่ย่านรังสิต จังหวัดปทุมธานี บนเนื้อที่ 180 ไร่ ซึ่งนับว่าเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์น้ำนมถั่วเหลืองรายใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ในปี พ.ศ.2541 บริษัทฯ ได้เพิ่มฐานกำลังการผลิตอีกครั้งโดยสร้างโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์น้ำนมถั่วเหลืองบรรจุขวดแบบ TO GO ขึ้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี และในปี 2559 บริษัทฯ ได้เพิ่มฐานการผลิตแห่งใหม่ที่นิคมอุตสาหกรรมหนองแค จังหวัดสระบุรี โดยเป็นโรงงานแห่งที่ 3

ในช่วงเวลาที่ผ่านมาบริษัทกรีนสปอตมีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็นผู้ชำนาญการทางด้านการตลาด การผลิต การพัฒนาผลิตภัณฑ์นมถั่วเหลืองในประเทศไทย และถือได้ว่าเป็นหนึ่งในผู้ผลิตนมถั่วเหลืองรายใหญ่ของโลก (ที่มา : สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องดื่มไทย)

ภาพ : GREEN SPOT

            จาก“มงกุฎดอกส้ม” สู่ “ดอกส้มสีทอง” ละครยอดฮิต

            “มงกุฎดอกส้ม” เป็นละครโทรทัศน์จากบทประพันธ์ของ “ถ่ายเถา สุจริตกุล” ในชื่อเรื่องเดียวกัน เรื่องราวของครอบครัวเจ้าสัวชาวจีน กับการเข้ามาของหญิงสาวที่พบเรื่องราวต่างๆ ในคฤหาสน์ที่ไม่ได้สวยงามอย่างภาพที่เธอมองจากภายนอก ผู้ประพันธ์ได้รับแรงบันดาลใจมาจากนิยายจีนเรื่อง 妻妾成群 (Wives and Concubines) ของซูถง โดยมีการซื้อลิขสิทธิ์บทประพันธ์อย่างถูกต้องเพื่อที่จะนำมาดัดแปลง

ส่วนภาพยนตร์เรื่องผู้หญิงคนที่สี่ชิงโคมแดง (大紅燈籠高高掛, Dà Hóng Dēnglóng Gāogāo Guà, Raise the Red Lantern) ของจางอี้โหมว ที่มีความคล้ายคลึงกันนั้นก็ดัดแปลงมาจากนิยายของซูถงเช่นกัน และภาพยนตร์ดังกล่าวออกฉายก่อนที่ละครโทรทัศน์จะออกอากาศ มงกุฎดอกส้มได้รับการสร้างเป็นละครโทรทัศน์ถึง 2 ครั้ง โดยครั้งแรกออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 เมื่อปี 2539 และครั้งที่สองออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ในช่วงปลายปี 2553

ภาพ : บรอดคาซท์ฯ

            “ดอกส้มสีทอง” เป็นละครสะท้อนสังคมที่ออกฉายทาง สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 โดยเป็นภาคต่อจากละครเรื่อง “มงกุฎดอกส้ม” ละครพัฒนาจากบทประพันธ์ในชื่อเดียวกันเรื่อง “ดอกส้มสีทอง” บทประพันธ์ของ “ถ่ายเถา สุจริตกุล”

เมื่อช่วงละครเรื่องนี้ออกอากาศเมื่อออกฉาย ได้ก่อให้เกิดกระแสเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมอย่างกว้างขวาง และทำให้นักแสดงนำอย่าง “ชมพู-อารยา เอฮาร์เก็ต” ที่รับบท “เรยา” โด่งดังเป็นพลุแตกไปอีก กระทั่งกวาดรางวัลบนักแสดงนำหญิงจากหลายสถาบันในปี 2554 ได้แก่ รางวัลเมขลา,รางวัลโทรทัศน์ทองคำ และรางวัล คม ชัด ลึก อวอร์ด (ที่มา : วิกิพีเดีย)

ภาพ : บรอดคาซท์ฯ

         จากละคร “ดอกส้มสีทอง” ถึงวลี “ฟ้ารักพ่อ”

ในปี 2562 ช่วงการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 วลี “ฟ้ารักพ่อ” ที่มาจากละครเรื่อง “ดอกส้มสีทอง” ได้รับความนิยมในโลกออนไลน์สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2562 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ในขณะนั้น พร้อมด้วยสมาชิกพรรคได้เดินทางไปชมงานฟุตบอลประเพณีธรรมศาสตร์–จุฬาฯ ครั้งที่ 73 ณ สนามศุภชลาศัย กรีฑาสถานแห่งชาติ ระหว่างนั้นมีนักศึกษาทั้งสองสถาบันได้ขอเข้าไปทักทายและขอถ่ายรูปเป็นจำนวนมาก ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์จึงได้ใช้แฮชแท็กดังกล่าวสะท้อนความนิยม และธนาธรก็ใช้วลี “พ่อก็รักฟ้า” เพื่อขอบคุณผู้ที่เข้ามาทักทาย และขอคะแนนเสียงให้กับพรรคฯ ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ตั้งแต่นั้นมากลุ่มผู้สนับสนุนพรรคอนาคตใหม่จึงเรียกแทนตนเองว่า “ฟ้า” และมักเรียกนายธนาธรว่า “พ่อ” หรือ “พ่อฟ้า”

ภาพ : ทวิตเตอร์ @Piyabutr_FWP

            “อีส้ม สมหวัง” ลูกทุ่งไทยในหนัง

            “อีส้ม สมหวัง” เป็นภาพยนตร์ไทย ออกฉายเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2550 ในสังกัด:พระนครฟิล์ม และ ช่อง 7 ที่ถ่ายทอดชีวิตเบื้องหลังของวงดนตรีลูกทุ่ง โดยมีฉากหลักเป็นวงดนตรีของ “ยอดรัก สลักใจ” ในเรื่องยังคงดึงเอานักแสดงตลกชั้นนำมาแสดงเช่นเดียวกับภาพยนตร์ตลกเรื่องอื่นๆ รวมถึงการดึงนางเอกละครชื่อดัง “สุวนันท์ คงยิ่ง” รับบท “ส้ม” และ “เต้-ปิติศักดิ์ เยาวนานนท์” รับบท “สมหวัง”   และนักร้องลูกทุ่งระดับตำนานอย่าง ยอดรัก สลักใจ

โดยมีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับสมหวัง ชายหนุ่มที่หลงใหลในการร้องเพลงและใฝ่ฝันว่าจะเห็น ยอดรัก สลักใจ นักร้องที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในประเทศไทย สมหวังจึงได้เข้าสมัครที่วงดนตรีของยอดรัก ซึ่งมีหางเครื่องสุดสวยประจำวงคือ ส้ม สมหวังเริ่มจากงานเล็กๆน้อยๆในวง และเลื่อนขั้นมาเป็นหางเครื่องประจำวง โดยมีส้มค่อยช่วยเหลือและเป็นกำลังใจให้ ต่อมาเขาได้รับโอกาสอย่างไม่คาดคิด เป็นโอกาสที่จะทำให้เขาก้าวขึ้นเป็นนักร้องอย่างเต็มตัว

ภาพ : SEEME

สกู๊ปปกอีบุ๊กฉบับที่ 381 วันที่ 26 พฤษภาคม- 1 มิถุนายน 2566

หน้า 2-3

“จักรวาลแห่งส้ม”

สมหวัง + ก้าวไกล =ไทยแลนด์

https://book.bangkok-today.com/books/fvnr/#p=1

 

 

 

 

 

 

Facebook Comments


Social sharing

Related post