
ให้เกียรติรัฐมนตรีพม่า..เดินหน้าเตะม็อบคนไทยจนหมอบ

“ใช้แต่กำลัง ไม่ใช่สารที่หลั่งจากสมอง แก้ปัญหา”
ทำกัน “โคตรโหด” เห็นคลิปที่เขาแชร์ “ตำรวจรุมบาทา” ล้อมกรอบปิดทุกมุม-ทุกด้าน และเสยเตะด้วยรองเท้าบูท..ม็อบไม่คิดสู้ ล้มคลุกกับฝุ่นอย่างสภาพเช่นนั้น ยังเตะกันหากเสยเข้าคาง-ไม่ตายก็ไร้การเยียวยา
อยากเห็นภาพสร้างไมตรี?..เหมือนที่ “นายกฯประยุทธ์ จันทร์โอชา” รุดจากทำเนียบฯ ไปเปิด “บน.๖” ต้อนรับ รัฐมนตรีต่างประเทศพม่า “วัณณะ หม่อง ละวิน” ต้อนรับขับสู้เขาเป็นอย่างดี ทั้งที่ไม่ใช่คนไทย ใช้คนละภาษา
แต่ “คณะราษฎร” นิสิต-นักศึกษา-เยาวชน และ ประชาชนคนไทย ไป “ราบ ๑” ที่ค่ายพักทหาร ซึ่งใช้เป็นบ้านหลวง อยู่ฟรี น้ำไฟฟรี ค่าไฟฟรี..คนที่ร่วมขบวนยาวเป็นแถว ล้วนเป็นคนไทย ที่ “นายกฯประยุทธ์”ควรเจรจา
คลิปเจ้าหน้าที่เตะม็อบจนหมอบ..เป็นการล้อมกรอบ ซัดเสียหมอบ ไม่ยักให้เกียรติเหมือน “รัฐมนตรีพม่า”
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
“ลูกผู้ชาย ใจต้องเปิดกว้าง”
“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกฯ คิดจะเปิดโต๊ะ เพื่อแก้ปัญหาในห้องแอร์ ร่วมกับ “คณะราษฎร” ไม่เห็นมี-สักครั้ง
“สงคราม” ที่ดีแต่ใช้กำลังเข้าห้ำหั่น “ผู้ที่เห็นต่าง” มีแต่ความย่อยยับ วิบัติเกิดขึ้นกับคนทั้งสองฝ่าย ที่เลวร้ายต้องรับผลพวงตามไปด้วย “ประเทศไทย” ที่จะมีแต่ความพ่ายแพ้จนกู่ไม่กลับ
รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ-รัฐบาลสมัคร สุนทรเวช-รัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์-รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร..เปิดมีการเจรจา ตามกลยุทธ์ที่ว่า “ฆ่ากันในสนามรบ แต่ปัญหาทุกอย่างจบที่การเจรจา” นี่เป็นยุทธศาสตร์ง่ายๆ
คิดเอาชนะอย่างหัวชนฝา..มีแต่จะสร้างปัญหา พา “พล.อ.ประยุทธ์” ไปตาย
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
“ยอดพุ่งฆ่าประชาชนตาย อำนาจทำให้เผด็จการพม่าอยู่ได้ หรือไม่”
ฆ่ากันเป็นผักปลา เมื่อวาน เพียงวันเดียว (๒๘ กุมภาพันธ์) ตำรวจและทหาร ที่ได้รับคำสั่งจาก “เผด็จการมิน อ่อง หล่าย” ใช้กระสุนยิงประชาชนที่มาชุมนุม ตายไป ๘ ศพ ..คลื่นมหาชนยิ่งรุกขึ้นมาสู้กัน-ยกใหญ่
ต่างชาติรุมกัน “ตัดขาด” ความบ้าอำนาจ ที่พร้อมฆ่าประชาชนได้ทุกเวลา..ผลลัพธ์ที่ “เผด็จการมิน อ่อง หล่าย” กระทำลงไปชนะประชาชน ที่ไหนเล่า
มีแต่สร้างความเครียดแค้น บันดาลความโกรธแค้น เคืองแค้น แค้นมากเป็นทวีคูณ..การใช้กำลังเพื่อแก้ปัญหาไม่มีทางที่จะยุติ ยิ่งจะเพิ่มความชิงชังให้มากขึ้นเท่านั้น..ใครที่คิดใช้กำลังกับประชาชน พึงสังวรไว้ให้ดี ๆ
ลงจากเก้าอี้เพื่อชาติ..ชะตาไม่ฆาต เป็นสายกลางที่ควรทำ-ในตอนนี้
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
“ให้โอกาส เพราะอาจจะกลับตัว”
แต่เป็นเหมือนเดิม ๆ ที่ “สาทิตย์ วงศ์หนองเตย” เคยขึ้นกล่าวบนเวที “กปปส.” อยู่ทุกครั้ง ในการโจมตี “อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร” ทั้งที่เขาขาดจากอำนาจไป-หลายปี
ทำตัวเหมือนวันเก่าๆ .. อยากเห็นการกลับตัวที่มีการให้โอกาสเอาไว้..แต่คงจะหมดหวังโอกาสเห็น การ “พลิกจากหลังมือเป็นหน้ามือ” คงเกิดในยากในชาตินี้ เพราะ “สาทิตย์ ณ.ประชาธิปัตย์” ยังเป็นคนเก่าร้อยเปอร์เซ็นต์เต็ม
บ้านเมืองที่ป่นจนละเอียดเป็นผง กันมาในช่วง ๗ ปีหลัง..มีแต่ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกฯ เป็นผู้บริหาร… และมี “ประชาธิปัตย์” นั่งพายเรือร่วมกันเขาด้วย
ด่า “ทักษิณ” เอาใจ “นายกฯประยุทธ์”..สร้างจุดเด่นเพื่อได้โควตา “รัฐมนตรี” หนทางนี้-ไม่น่าที่จะช่วย
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
“ใครจะรู้ไส้เน่า กี่ขดที่เขาเก็บไว้ภายใน”
ในฐานะเป็นแฟน “สนธิทอล์ก” ฟังจากปาก “สนธิ ลิ้มทองกุล” เสื้อเหลืองพันธมิตร รุ่นพี่ที่มาก่อน “สลิ่มสีเหลือง-กปปส.” ถึงใจพระเดชพระคุณเป็นอันมากส์-เลยล่ะเจ้านาย
เปิดประตูใจ ออกมาทั้ง ๔ ห้อง ของ “สนธิ ลิ้มทองกุล” ไม่เคยให้เครดิต การมาลงถนนของ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” เลย
มีวาระซ่อนปมอยู่ด้านหลัง ร่วมผสมโรงกับ “พวกลายพราง” ซึ่งจับมือเป็นสองแรงบวก เมื่อมีการตั้งป้อมเอาไว้คุ้มกัน ขนาด “สนธิ” ยังสาวไส้ออกมาให้กากิน
ให้ความจริงครบถ้วน..มีใครร่วมขบวน แฉออกมาแล้ว-อย่างหมดสิ้น
“กะพรุนไฟ”
๑ มีนาคม ๒๕๖๔