![Digiqole ad](http://bangkok-today.com/wp-content/uploads/2024/06/แก้ปัญหาคอม.jpg)
แพลตฟอร์ม AEP กับ Magazine Battery เทคโนโลยีสุดล้ำในรถยนต์ไฟฟ้า AION
![แพลตฟอร์ม AEP กับ Magazine Battery เทคโนโลยีสุดล้ำในรถยนต์ไฟฟ้า AION](https://bangkok-today.com/wp-content/uploads/2024/03/1-35-850x560.jpg)
![Digiqole ad](http://bangkok-today.com/wp-content/uploads/2024/01/Nishikawa_Banner728x90px.gif)
AION โชว์เทคโนโลยีความปลอดภัยสุดล้ำ ทั้งแพลตฟอร์ม AEP กับ Magazine Battery ของรถยนต์ไฟฟ้า AION Y Plus 490 Premium พร้อมย้ำโกดังศูนย์กลางอะไหล่เปิดให้บริการแล้ว รับประกันส่งอะไหล่ไปได้ทั่วประเทศไทยภายใน 24 ชั่วโมง
หลังจาก AION ได้ปรับราคาขายรถยนต์ไฟฟ้า AION Y Plus 490 Premium ลงอีก 100,000 บาท จากราคาเดิม 1,099,900 บาท ลงมาอยู่ที่ 995,900 บาท เพื่อเป็นการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในตลาด EV SUV ซึ่งเราได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าชาวไทยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะยอดจองของ AION ในงาน Motor Expo 2023 ที่มีมากถึง 4,568 คัน คิดเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มียอดขายสูงเป็นอันดับ 4 ของงาน และมียอดขายเป็นอันดับ 2 ของแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าอีกด้วย
นอกจากขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้า 150 kW ที่ให้พละกำลังแรงม้าสูงสุด 204 แรงม้า พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุด 225 นิวตัน-เมตร มอบอัตราการเร่ง 0 ถึง 100 ในเวลา 8.5 วินาที และมีระยะทางวิ่งไกลสูงสุด 490 km (NEDC) แล้ว
สิ่งที่ทำให้ลูกค้าหลายคนสนใจมากที่สุด คือ แบตเตอรี่ Magazine Battery ขนาด 63.2 kWh ที่ติดตั้งอยู่ในรถยนต์ไฟฟ้า AION Y Plus เป็นเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ได้ชื่อว่า “ปลอดภัยที่สุดในโลก” เป็นระบบแบบเดียวที่ประกอบด้วย “เซลล์ โมดูลและแพ็ค“ มีการทดสอบความปลอดภัยด้วยการยิงกระสุนปืนทะลุแบตเตอรี่ เพื่อให้แน่ใจว่าแม้ถูกปืนยิงก็ไม่ลุกติดไฟ
โดยที่ผ่านมารถยนต์ไฟฟ้าของ AION ที่ใช้เทคโนโลยี Magazine Battery สถิติชี้ว่าไม่เคยเกิดเหตุแบตเตอรี่ติดไฟเลยแม้แต่ครั้งเดียวตั้งแต่เปิดตัวผลิตภัณฑ์และเมื่อเปรียบเทียบกับการทดสอบแบบมาตรฐานที่ใช้การเจาะทะลุแบตเตอรี่ด้วยตะปู (Nail Penetration Test) จะพบว่าความเร็วในการเจาะทะลุของการทดสอบด้วยการยิงกระสุนปืนนั้นสูงกว่าถึง 980,000 เท่า
ผลการทดสอบยังชี้ชัดว่า เส้นผ่านศูนย์กลางของรอยทะลุจากการยิงด้วยกระสุนปืน มีความใหญ่กว่าการทดสอบด้วยวิธีปกติถึง 7-8 เท่า เมื่อเผชิญกับแรงยิงกระสุนปืนที่รุนแรงมากขนาดนี้ Magazine Battery ยังคงไม่เกิดการระเบิด สามารถรับประกันได้เลยว่า AION ได้มอบความปลอดภัยระดับสูงให้กับผู้ขับขี่ชาวไทยอย่างเต็มที่
อีกหนึ่งจัดแข็งของ AION ก็คือแพลตฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้า AEP หรือ AION Electric Platform ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาโดยทีมวิจัยกว่า 200 ชีวิต โดยใช้เวลาในการวิจัยถึง 2 ปี 6 เดือน และใช้เงินลงทุนมากถึง 15,000 ล้านบาท นี่คือสิ่งที่ทาง AION ใช้เป็นอาวุธหลักของการเป็นผู้นำในการรักษายอดขายทางตลาดในประเทศจีนมาเป็นระยะเวลานาน
AEP Platform มาพร้อมคุณสมบัติที่โดดเด่นมากมาย ไม่ว่าจะเป็น รูปแบบการจัดวางแบตเตอรี่ในแนวราบ ใช้ประโยชน์จากระยะฐานล้อที่ยาวทำให้จัดเรียงชุดเซลล์แบตเตอรี่ได้มากขึ้น ส่งผลให้รถสามารถวิ่งได้ระยะไกลมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังทำให้พื้นที่ภายในห้องโดยกว้างขวางกว่ารถในกลุ่มเดียวกัน และมีอัตราส่วนน้ำหนักของรถด้านหน้าและด้านหลัง 50:50 ซึ่งหาได้ยากในรถยนต์เอสยูวี
และด้วยเหตุผลข้างต้นที่กล่าวมา ส่งผลให้ตัวรถมีสมรรถภาพช่วงล่างที่ดีเยี่ยม ส่งผลให้การควบคุมรถมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น การออกแบบโครงสร้างของตัวรถใช้โครงสร้างแบบชิ้นเดียว มีความทนทานและมีความแข็งแรงสูง ทนต่อแรงอัดได้ดี ทำให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น รองรับการติดตั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะได้ทุกรูปแบบ ให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้เพลิดเพลินไปกับเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพและฉลาดยิ่งขึ้น
สำหรับออปชั่นใหม่ล่าสุด 24 รายการของ AION Y Plus 490 Premium มีดังนี้
- ระบบไฟสูงอัจฉริยะ (IHBC)
- ระบบฝาท้าย เปิด-ปิด อัจฉริยะ (Smart Tailgate)
- เบานั่งคนขับพร้อมระบบระบายอากาศ (Front Seat Ventilation)
- ระบบ Welcome Seat ปรับระดับที่นั่งอัตโนมัติเมื่อเปิดประตูรถ
- เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้าปรับด้วยไฟฟ้าแบบ 4 ทิศทาง
- เบาะผู้โดยสารตอนหลังพร้อมพนักพิงศีรษะ
- เบาะผู้โดยสารตอนหลังพร้อมที่พักแขน
- กระจกมองหลังแบบตัดแสงสะท้อนอัตโนมัติ
- ไฟสร้างบรรยากาศ Ambient Light 32 เฉดสี เปลี่ยนสีอัตโนมัติตามจังหวะดนตรี
- ล้อขนาด 18 นิ้ว 5 ก้าน ดีไซน์ใหม่
- ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC S&G)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ (ICA)
- ระบบแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า (FCW)
- ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ (TJA)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องจราจร (LKA)
- ระบบกล้องมองภาพแบบพาโนรามา Panorama HD 540 องศารอบตัวรถ
- ระบบนำทางเชื่อมต่อระบบอินเตอร์เน็ตออนไลน์ (Navigation System)
- ระบบสั่งการด้วยเสียง ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ (Voice Command TH/EN)
- ระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย (Wireless Charging)
- ระบบควบคุมคำสั่งรถยนต์จากระยะไกล ผ่าน Application
- สายชาร์จฉุกเฉิน Emergency Charger
- ระบบเชื่อมต่อและจ่ายกระแสไฟฟ้าให้อุปกรณ์ไฟฟ้าภายนอก (V2L)
โดยในปี 2024 นี้ AION เตรียมขยายศูนย์บริการหลังการขายจำนวน 70 แห่ง เพราะเราให้ความสำคัญกับระบบบริการหลังขายเป็นอย่างมาก พร้อมมอบการรับประกันตัวรถที่เหนือกว่า ด้วยการรับประกันแบตเตอรี่ มอเตอร์ไฟฟ้า และอุปกรณ์ควบคุม 8 ปี หรือ 200,000 กิโลเมตร และรับประกันตัวรถในส่วนอื่นๆ 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร ถือได้ว่าครอบคลุมมากที่สุดในรถไฟฟ้าเซกเมนท์เดียวกัน
นอกจากนี้ AION Thailand ยังได้เปิดคลังเก็บอะไหล่ครบวงจร และสามารถส่งอะไหล่ไปได้ทั่วประเทศไทยภายใน 24 ชั่วโมง อีกทั้งยังขายอะไหล่ในราคาที่จับต้องได้ เพื่อให้ลูกค้า AION ได้รับการบริการที่รวดเร็วในราคาที่สมเหตุผลอีกด้วย”
ส่วนความคืบหน้าการก่อสร้างโรงงานของ AION Thailand ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ EEC จังหวัดระยอง ในขณะนี้ได้เริ่มก่อสร้างโรงงานเฟสที่ 1 ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นในช่วงเดือนกรกฎาคมของปีนี้ มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 20,000 คันต่อปี และในอนาคตจะมีการลงทุนสร้างโรงงานเฟสที่ 2 เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 50,000 คันต่อปี ด้วยมูลค่าการลงทุนทั้งหมด 2,300 ล้านบาท เพื่อรองรับความต้องรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
AION ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งผู้เล่นคนสำคัญในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ด้วยชื่อชั้นของแบรนด์ที่ไม่เป็น 2 รองใคร การันตีด้วยยอดขายในประเทศจีนที่เกาะอยู่ในกลุ่มหัวแถว เทคโนโลยีที่ทันสมัย โรงงานผลิตรถยนต์ที่มีคุณภาพ และประสบการณ์ยาวนานในอุตสหกรรมยานยนต์ของ GAC AION โดยก้าวขึ้นเป็นบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าที่ติดอันดับ1ใน2ของประเทศจีน และติดอันดับ1ใน3ของโลก การบุกตลาดประเทศไทยในครั้งนี้ เรียกได้ว่า GAC AION เอาจริง และคาดหวังที่จะขึ้นเป็นแบรนด์รถไฟฟ้าอันดับ 1 ในไทยอย่างแน่นอน