Digiqole ad

“แพทองธาร ชินวัตร”- “นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี” ร่วมเป็นวิทยากรหลักในงาน “A Pathway to Prosperity” จัดโดยกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร

 “แพทองธาร ชินวัตร”- “นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี” ร่วมเป็นวิทยากรหลักในงาน “A Pathway to Prosperity” จัดโดยกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร
Social sharing

Digiqole ad
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ร่วมเป็นวิทยากรหลักในงาน “A Pathway to Prosperity” จัดโดยกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กล่าวถึงยุทธศาสตร์การพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ของไทยให้แก่นักธุรกิจ นักลงทุนที่สนใจกว่า 1,600 คน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นทางการลงทุนในอนาคต โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร ท่องเที่ยว เทศกาล และกีฬา โดยคำถามได้แบ่งออกเป็น 3 ประเด็นใหญ่ คือ ทิศทางการพัฒนาของอุตสาหกรรม รายละเอียดของระยะเวลานโยบาย และงบประมาณที่จะใช้กับนโยบาย
.
1. นางสาวแพทองธาร กล่าวว่าก่อนหน้านี้มีหลายคนตั้งคำถามเกี่ยวกับ ‘นิยาม’ ของซอฟต์พาวเวอร์ โดยอ้างอิงเริ่มต้นจากทฤษฎี โจเซฟ ไนย์ แน่นอนว่าเพื่อไทยเราถอดวิธีการทำงานมาจากต้นทฤษฎี แต่วันนี้คำว่า ‘ซอฟต์พาวเวอร์’ มีการประยุกต์ใช้ทั้งการเมือง เศรษฐกิจหรือระหว่างประเทศ ไม่ได้เน้นแค่การเมืองระหว่างประเทศเพียงเท่านั้น
.
2. นางสาวแพทองธาร กล่าวว่าจากการสังเกตการวัดผลดัชนีซอฟต์เพาเวอร์จากแต่ละสถาบันที่มีการวัดผลที่ต่างกันเสมอ เช่น ประเทศเกาหลีใต้ ที่ทุกคนยอมรับเรื่องการเผยแพร่วัฒนธรรมนั้น กลับได้การจัดอันดับว่าเป็นประเทศที่ใช้ซอฟต์พาวเวอร์สูงในบางสำนัก และได้ลำดับที่ต่ำในบางสำนัก เพราะฉะนั้นเรื่องทฤษฎีซอฟต์พาวเวอร์สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามแต่จะยึดเอาเกณฑ์หรือประเด็นใดเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งรัฐบาลเพื่อไทยเราใช้มิติทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และนโยบายต่างประเทศเป็นตัวนำ
.
3. ประเด็นต่อมาคือเรื่องงบประมาณ ที่ประชาชนหลายคนมองว่าใช้งบประมาณสูง เช่น งบประมาณของอุตสาหกรรมเทศกาลและการท่องเที่ยวซึ่งกำหนดไว้ที่ราว 1,700 ล้านบาท เรื่องนี้จริงๆ แล้วไม่ใช่งบประมาณที่สูง ไม่มากไปกว่าที่เคยใช้ในปีก่อนๆ เพียงแต่ที่ผ่านมางบท่องเที่ยวและเทศกาลแตกไปอยู่ในหลายหน่วยงาน รวมทั้งไม่ได้มีการกำหนดยุทธศาสตร์การใช้จ่ายอย่างเป็นระบบ การทำงานของเราจะเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชน มาช่วยกันคิดพิจารณาเพื่อจดสรรงบประมาณให้เป็นระบบและชัดเจนยิ่งขึ้น
.
4. สิ่งที่คณะกรรมการฯ ตั้งใจทำในอุตสาหกรรมเทศกาลและการท่องเที่ยว คือการทำ ‘เศรษฐกิจเทศกาล’ (Festival Economy) เป็นเรื่องใหญ่มากที่ต่างประเทศเน้นเรื่องนี้ ที่ผ่านมาการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพมาโดยตลอดแต่อาจไม่ได้มีการออกแบบเศรษฐกิจเทศกาลอย่างเต็มที่ คณะกรรมการจะเริ่มพัฒนาระบบข้อมูลเทศกาลต่างๆ เช่น แพลตฟอร์ม, อมรมเรื่อง Festival academy โดยคนที่จะมาช่วยเรื่องนี้เป็นหลักเลยคือ คุณวุฒิธร (วู้ดดี้) มิลินทจินดา พิธีกรชื่อดังและผู้ปลุกปั้นเทศกาลดนตรี S2O หรืออีเวนต์ใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเดือนเมษายนนี้คือ งานมหาสงกรานต์ World Water Festival จะเป็นตัวอย่างว่า หากมีการออกแบบทั้งระบบจะเป็นยังไง ตั้งแต่การเดินทาง อาหาร โรงแรมที่พัก ห้องน้ำ ทั้งหมดนี้ต้องถูกวางแผนทั้งระบบ และ การทำโฆษณาอย่างต่อเนื่อง
.
5. นอกจากนี้ นางสาวแพทองธาร ยังได้กล่าวถึงรายละเอียดโครงการ หนึ่งครอบครัวหนึ่งซอฟต์พาวเวอร์ (OFOS) ที่จะ Reskill และ Upskill บุคลากรในอุตสาหกรรมอาหาร โดยตั้งเป้าว่าในปีแรกจะมีการอบรม ‘หนึ่งเชฟอาหารไทยหนึ่งหมู่บ้าน’ กว่า 10,000 คน อบรมฟรี พร้อมกับหลักสูตรที่ได้มาตรฐานสากล โดยเชฟชุมพล แจ้งไพร ที่จะมีการสอนการทำอาหารไทย ตั้งแต่พื้นฐานการใช้อุปกรณ์ วิธีการปรุง รวมทั้งมีการเรียนรู้สูตรอาหารทั้ง 4 ภาค เรียนรู้อาหารคาว อาหารว่าง อาหารหวาน อาหารโบราณ พร้อมทั้งเตรียมหลักสูตรสำหรับการเป็นผู้ประกอบการ ร่วมทั้งสร้างความร่วมมือกับภาคเอกชนในการจัดหาตำแหน่งงานให้ด้วยเมื่อจบหลักสูตร
ที่มา : เพจพรรคเพื่อไทย
Facebook Comments


Social sharing

Related post