Digiqole ad

เสียดาย พล.อ.รังษี

 เสียดาย พล.อ.รังษี
Social sharing
Digiqole ad

กรณี พลเอกรังษี กิตติญาณทรัพย์ ต้องพ้นจากตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 เป็นประเด็นของการทำงานด้านสื่อสารมวลชนที่น่าสนใจ

พลเอกรังษี เข้ามาเป็น ผอ.ใหญ่ช่อง 5 ตั้งแต่ปี 2563 แล้วต้องมาพ้นจากตำแหน่งในเดือนนี้ ก่อนที่จะครบวาระ จนกลายเป็นปมร้อน เพราะข่าวตอนแรกออกมาทำนองถูกสั่งปลดจากตำแหน่ง ในขณะที่ต่อมามีการระบุว่า พลเอกรังษี ทำหนังสือขอลาออกจากตำแหน่งเอง

ซึ่งประเด็นนี้เป็นที่เข้าใจได้ เนื่องจากไม่ว่าอย่างไร พลเอกรังษี กับ พลเอกณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ.คนปัจจุบัน คือเพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหาร 22 มาด้วยกัน และสนิทสนมกันจนได้รับความไว้วางใจให้มาคุมช่อง 5

ฉะนั้นวิบากกรรมในครั้งนี้ ถ้าไม่มองว่าเป็นการเจอแรงบีบทางการเมืองจากผู้มีอำนาจจนแม้แต่เพื่อนก็ยังช่วยไว้ไม่ได้ ก็ไม่สามารถจะมองเป็นอย่างอื่นไปได้จริงๆ

เพราะ พลเอกรังษี เป็นคนที่มีสไตล์เปิดเผย ตรงไปตรงมา และค่อนข้างโผงผางตามลักษณะทหาร แม้ว่าจะมีพื้นเพเป็นลูกคนจีน ครอบครัวทำธุรกิจ ทำให้เข้าใจเรื่องของธุรกิจ และระบบเศรษฐกิจ มาตั้งแต่เด็กๆ

เส้นทางนักธุรกิจจึงมีความเป็นไปได้มากกว่าเส้นทางทหาร เพราะหากย้อนเวลากลับไปในอดีต โอกาสที่ลูกคนจีนจากซัวเถา จะขึ้นมาเป็น พลเอกนั้น ต้องถือว่ายากมาก ทั้งๆที่ในความเป็นจริงแล้ว คนไทยเชื้อสายจีนนั้นมีค่อนประเทศ

การที่พลเอกรังษีเป็นคนที่กล้าคิดกล้าทำ กล้าพูดกล้าวิจารณ์แบบไม่เกรงใจใคร ซึ่งหากเป็นประเทศประชาธิปไตยเต็มใบก็คงไม่มีอะไร แต่สำหรับบรรยากาศเผด็จการแปลงร่าง ซ้ำยังเสพติดอำนาจจนหน้ามืดตามัว ถือเป็นสิ่งที่อันตรายมาก

ยิ่งการตั้งคำถามว่า “ประเทศไทยควรที่จะมีการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีโดยตรงได้เสียทีหรือยัง” อันนี้แหละที่ยิ่งทำให้อันตรายมากขึ้น

ที่ผ่านมาอำนาจและผลประโยชน์การเมือง พยายามอ้างเรื่องสถาบัน เพื่อไม่ให้มีการเลือกนายกฯโดยตรง แล้วคนในกองทัพเองมาพูดความจริง ให้สังคมตาสว่าง ว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับสถาบันเลยสักนิด

ปมเรื่องการทำหน้าที่ไม่เป็นกลาง จากกรณีการไปจับมือกับรัสเซียในการนำเสนอข่าว จึงถูกใช้เป็นหน้าฉากในการฉวยโอกาสกำจัดผู้ที่ทำเหมือนไม่เกรงใจผู้มีอำนาจออกไป

เพราะหากจะอ้างเรื่องอาจจะเกิดความไม่เป็นกลางในการนำเสนอข่าวต่างประเทศแล้ว นั่นหมายความว่ารัฐบาลประยุทธ์ ไม่ได้ให้ความสำคัญกับการอาจจะเกิดความไม่เป็นกลางในการนำเสนอข่าวในประเทศ จากกรณีท็อปนิวส์ เลยใช่หรือไม่

นี่คือความจริงที่ทำให้เห็นชัดเจนว่า ประยุทธ์ จันทร์โอชา เลือกข้างเลือกขั้วการเมืองมาโดยตลอด

และทำให้ประเทศไม่สามารถก้าวพ้นหลุมดำของความขัดแย้งได้ ก็เพราะสไตล์ประยุทธ์นี่แหละ

ไม่แปลก หากการขับไล่คนชื่อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะไม่มีวันจบสิ้น

ภูวนารถ ณ สงขลา

Facebook Comments

Related post