เสรีภาพลดหดปริมาณ..ต่างชาติที่ไหนกัน จะมาเที่ยวไทย
“ทุกอย่างไร้ประสิทธิภาพ นักท่องเที่ยวกลับมาไทยคงเป็นไป ไม่ได้”
ถึงเอาเรื่อง “การกักตัวมาล่อ” ให้เหลือเพียง ๗ วัน ๑๐ วัน อยู่บน “เรือยอชท์” เพื่อหาความสำราญ-อย่างสุขสบาย
เปิดการชวนใจ ล่อใจ เพื่อ “กวักมือ” ให้ “นักท่องเที่ยวต่างชาติ” เข้ามาเสพสุข อิ่มเอมใจ กับการ “คลายกฎเหล็ก” ในเรื่อง “โควิด-๑๙” กันอย่างยกใหญ่
เชื่อนัก “นักท่องเที่ยวกระเป๋าหนัก” ยังคงเมินไทยกันอยู่ดี ..เพราะ “มาตรฐานแห่งผู้นำบางคน” ยังแสดงตัวตนขาดประสิทธิภาพ ให้เห็นทุกวัน..ที่สำคัญ “สิทธิเสรีภาพ” ภายในประเทศเป็นเรื่องพร่อง เกินเยียวยา
เมื่อไม่มีเสรีภาพเป็นอิสระ..ทำอะไรอาจจะ นอนซังเตได้-ทุกเวลา
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
“เปิดทางกว้าง เพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้ามาใช้สตางค์ กันเต็มเหนี่ยว”
ธรรมชาติสวย อาหารอร่อย สาวงามมีเป็นร้อย ..ใช้ “อิสระ” อย่างมีคุณค่า ที่ “ประเทศเวียดนาม” ก็เกินหน้า “ไทย” ไปหลายก้าว-แล้วทีเดียวเชียว
“นักท่องเที่ยวต่างชาติ” มีความรอบรู้เปี่ยมล้น และ ประเทศที่เขาเข้าไปพักผ่อน เพื่อนำเงินและสกุลเงินตราเข้าไปใช้สอยนั้น เขาดูองค์ประกอบ จากประชาชนในประเทศนั้น มีอิสระ เสรีภาพ ในการแสดงออกเพียงใด
“เศรษฐีผู้ร่ำรวย” เขาอยากไปในดินแดนที่มี “เสรีภาพเต็มร้อย” ..เมื่อประชาชนสามารถทำทุกอย่างตาม “รัฐธรรมนูญได้” ย่อมเป็นเครื่องการันตีแก่ตัวเขา..วันนี้ “เสรีภาพไทย” หดลดปริมาณไม่ให้-คนแสดงออก
เขาเอาเงินมาใช้เพื่อคนทั้งชาติ..แต่ถูกอำนาจกดทับ-เขาไม่มาดอก
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
“คนไทยเหมือนพลเมืองชั้นสอง สิทธิ์เป็นของตัวเอง แทบไม่มี”
มีการ “ลดเพดาน” ความคุมในการ “กักตัว” นักท่องเที่ยว ลดเวลาฮวบลงมาเหลือ ๗-๑๐ วัน ใช้ “เรือยอชท์” กักตัว ยังทำได้-เต็มที่
ขณะที่ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกฯ ใช้ “พรก.ฉุกเฉิน” กันเต็มพิกัด ใช้กันอย่างสุดขีด ใช้การอย่างเข้มงวดยวดยิ่งเป็นอันมากส์..ไม่มีการ “ลดทอน” การใช้ “พรก.ฉุกเฉิน” ลงเลยสักวัน
ขณะให้ “เอกสิทธิ์” กับ “นักท่องเที่ยว” ลดการกักตัวลงมาเป็นพิเศษ..เท่ากับบ่งบอก ชี้และเจาะจงว่า “โควิด-๑๙” อยู่ในวิสัยไม่รุนแรง และ ควบคุมได้..แต่ทำไมยังคง “พรก.ฉุกเฉิน” ใช้กับคนไทยอย่างหนัก ชนิดเต็มร้อย
กฎหมายใช้เพื่อคุมคน..มีแต่ส่งผล ให้ประเทศชาติ-ร่วงผล็อย
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
“ทะเลยังไม่ขาดคลื่น จุดยืนยังไม่ขาดไปจากกระแส ฝ่ายประชาธิปไตย”
ไม่มีแล้ว ซึ่งแถวหน้า และ แถวหนึ่ง แต่ขบวนการ “ประชาธิปไตยในไทย” ยังเคลื่อนตัว ชุมนุมหาความเป็นธรรมให้แก่คนไทย –ได้อย่างยิ่งใหญ่
พื้นที่ของนิสิต-นักศึกษา-เยาวชน และ ประชาชน.. ไม่ว่าใน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่อนุสาวรีชัย การชุมนุมเรียกร้อง “ความยุติธรรม” คงขับเคลื่อน เลื่อนตัวไปอย่าง มีพลัง
ไม่มี “อานนท์-เพนกวิน-ไมค์-รุ้ง-ไผ่-สมยศ-หมอลำแบงก์-โตโต้” ฝ่ายประชาธิปไตยเลือดใหม่ ที่ถูกจุดถึงยุทธศาสตร์แห่งความเป็นจริง ก็ถึงแถวสร้างแนวต่อสู้อย่างมีประสิทธิภาพ เชิดหน้าเดินทะลุฟ้า-สู่ทำเนียบฯ
ขังได้แต่ตัว..แต่การยังสู้ถวายหัว ยังเดินหน้าอย่าง-สุดเฉียบ
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
“พลังศักดิ์สิทธิ์ เขตมิตรแท้ร่วมหลอมหล่อ เป็นของประชาชน”
ทั้ง “อัยการ-ผู้พิพากษา-ข้าราชการ-หมอ-พยาบาล” หยุดปฏิบัติหน้าที่ ..เข้าร่วมต่อสู้กับ “ประชาชนชาวพม่า” ที่ไม่หวั่นเกรงอำนาจ “มิน อ่อง หล่าย” ที่บ้าเลือด หมดแล้ว-ซึ่งความเป็นคน
“พนักงานรถไฟพม่า” พร้อมผงะงาน เข้าเป็นหนึ่งเดียวกับชาวบ้าน.. ถึงจะส่งทหาร-ตำรวจ หลายกองร้อย เข้าไปควบคุมตัวก็ตามที
“มิน อ่อง หล่าย” เหลือแต่ “อำนาจกระสุนจริง” ที่เอาไว้ยิงหัวกะโหลก และ เจาะหน้าอกคนที่ออกมาประท้วง..ตาย ๑๕ ศพ ออกมาต่อสู้อีกเป็นเรือนแสน .. “ความบ้าเลือด” ในอำนาจจะทำให้ “มิน อ่อง หล่าย” ไร้เงาหัว
“อัยการ-ศาล” ยังไม่เอา..ใช้อำนาจอย่างมึนเมา เขาไม่เอาหรอกกับ-คนเห็นแก่ตัว
“กะพรุนไฟ”
๑๑ มีนาคม ๒๕๖๔
