เสรีภาพความคิดเห็น
วันนี้ ภาพลักษณ์ของรัฐบาล ภาพลักษณ์ของคนชื่อ “ประยุทธ์ จันทร์โอชา” กำลังได้รับผลกระทบในทางลบเป็นอย่างมาก
การตัดสินใจที่จะเล่นงาน ตรวจสอบ และปิดกั้นการแสดงออกซึ่งความคิดเห็นจากประชาชน จากบุคคลสาธารณะ กำลังกลายเป็นประเด็นที่ไม่สามารถสร้างการยอมรับได้มากขึ้นเรื่อยๆ
วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้เปิดไพ่ให้ประชาชนเห็นอย่างชัดแจ้งแล้ว ว่ามีความคิดเช่นไรต่อเสียงสะท้อน ต่อการออกมา Call Out ของบุคคลสาธารณะทั้งหลาย รวมทั้งการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน
จากความสงสัย จากความไม่แน่ใจในพฤติกรรมการกระทำของ คนที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษากรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร
รวมไปถึงคนที่เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการตรวจสอบและดำเนินคดีแก่ผู้เผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จ เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี
ที่สำคัญเป็น ทนายความของ พล.อ. ประยุทธ์ เองด้วย
ว่าการเดินสายแจ้งความดำเนินคดีประชาชนในทุกครั้งทุกกรณีนั้น ใช่ความต้องการของ พล.อ.ประยุทธ์ หรือไม่นั้น วันนี้เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ลงมาเล่นเอง ทั้งใช้ มาตรา 9 ใน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทั้งใช้การสั่งการในที่ประชุม ครม. แล้วเอามาโพสต์ให้ประชาชนได้รับรู้โดยทั่วกันนั้น
ประชาชนคิดอย่างไร สื่อมวลชนคิดอย่างไร คงเป็นเรื่องที่น่าจะคิดออกได้
ภาพสะท้อนการใช้กฎหมายเล่นงานประชาชนที่ออกมาแสดงความคิดเห็น โดยที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจบางนายกระตือรือล้นในการปฏิบัติหน้าที่เป็นอย่างมาก ไม่เพียงทำให้ประชาชนและสื่อมวลชนผิดหวัง
แต่ยังทำให้เกิดภาพเปรียบเทียบที่ชัดเจนสะพัดออกมา ในแง่ที่เป็นผลลบอย่างยิ่ง
กรณีของอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ถูกใช้ถ้อยคำหยาบคายสารพัดในการด่าว่าในโลกโซเชียล หรือบนเวที กปปส. ที่เทียบกันไม่ได้เลยกับสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ กำลังโดนอยู่ในขณะนี้
แต่ อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ไม่เคยไปฟ้องร้องประชาชน เหมือนเช่นที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้
ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็ไม่เคยที่จะตรวจสอบเลยว่า ถ้อยคำหยาบคายเหล่านั้น ควรจะเป็นความผิดหรือไม่ ซึ่งต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับการดำเนินการในปัจจุบันที่อ้างว่า เพราะมีคำหยาบคาย มีการเสียดสี ดูหมิ่น เกิดขึ้น
ดังนั้นแค่มีคนมาตั้งข้อสังเกตุ ก็ต้องรีบดำเนินการอย่างนั้นหรือ
นี่คือภาพที่ทำให้เกิดการเปรียบเทียบที่เป็นผลกระทบในทางลบต่อรัฐบาล ต่อประยุทธ์ จันทร์โอชา
ขอยืนยันว่าการแสดงออกซึ่งความคิดเห็นเป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชนและสื่อมวลชน
และจะเป็นหนึ่งเสียงที่ร่วมรณรงค์กับ 6 องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนในครั้งนี้
ภูวนารถ ณ สงขลา
