Digiqole ad

“เศรษฐา ทวีสิน” นายกฯ ปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “Next Chapter ประเทศไทย” ในงานสัมมนา “ถอดรหัสลงทุน ก้าวข้ามวิกฤต”

 “เศรษฐา ทวีสิน” นายกฯ ปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “Next Chapter ประเทศไทย” ในงานสัมมนา “ถอดรหัสลงทุน ก้าวข้ามวิกฤต”
Social sharing
Digiqole ad
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “Next Chapter ประเทศไทย” ในงานสัมมนา ‘ถอดรหัสลงทุน ก้าวข้ามวิกฤต’ ที่จัดขึ้นโดยประชาชาติธุรกิจและประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ชี้ภารกิจสำคัญของรัฐบาลในการเดินหน้าเร่งแก้วิกฤตประเทศ ทั้งปัญหาความเหลื่อมล้ำ ความไม่เท่าเทียม ไม่เสมอภาคและปัญหาความขัดแย้งที่หมักหมมมานาน เชิญชวนหันหน้าเข้าหากันเพื่อนำพาประเทศเดินไปข้างหน้า ฟื้นฟูเศรษฐกิจ ยกระดับชีวิตประชาชน
.
1.เป็นที่ประจักษ์กันอยู่แล้วว่า ปัญหาเศรษฐกิจปัจจุบันนี้เป็นปัญหาใหญ่ที่สุด รวมไปถึงปัญหาสังคม ความเหลื่อมล้ำและการต่างประเทศ เรื่องที่ต้องพูดก่อนเลยคือปัญหาสังคมความแตกแยก ความเหลื่อมล้ำความไม่เสมอภาคและความไม่เท่าเทียม เป็นปัญหาและเป็นต้นตอของปัญหาทั้งหมด ซึ่งภารกิจใหญ่ของรัฐบาล เพราะเป็นปัญหาที่หมักหมมมาในระยะเวลาที่ยาวนาน และเป็นปัญหาที่ยากและเป็นปัญหาที่ใหญ่มีหลายมิติ ซึ่งอาจจะทำให้การแก้ไขปัญหาไม่ตรงจุด แต่ก็จะไม่เคลมว่ารัฐบาลนี้มีแผนการแก้ปัญหาที่เบ็ดเสร็จที่ทำให้ฟังแล้วสบายใจ แต่ว่าเราเริ่มกันด้วยเรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งได้วางโรดแมปไปแล้วบ้างแม้จะยังไม่สมบูรณ์ แต่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ก็จะดำเนินการต่อไป ซึ่งเป็นเรื่องของการแก้กฎกติกาของการอยู่กันอย่างมีสันติและเราทุกคนมีส่วนในการที่จะร่วมด้วยช่วยกันแก้ไขปัญหา เพราะปัญหานี้ไม่ใช่ปัญหาของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นปัญหาของทุกๆ คน ซึ่งมีส่วนในการที่ทำให้ปัญหาเกิดขึ้นมา
.
2. ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจสูงที่สุดประเทศหนึ่ง คนจนก็จนมาก คนรวยก็รวยมาก ถ้าเกิดต้องการให้รัฐบาลออกเป็นมาตรการหรือคำสั่งออกมาแก้ไขปัญหา คิดว่าปัญหาจะไม่ถูกแก้ไข เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นมาแล้วจะถูกแก้ไขโดยจิตใต้สำนึกของทุกคน จึงขอร้องและวิงวอนวิงวอนให้ทุกท่านเข้าใจ ทั้งปัญหาความเหลื่อมล้ำ ความไม่เสมอภาค ความไม่เท่าเทียมในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นสิทธิเสรีภาพในการเลือกเพศสภาพหรือการเลือกประกอบอาชีพเหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งทุกท่านต้องช่วยกันสนับสนุน ออกความเห็นเชิงบวก หากเห็นด้วยและมีแม้บ้างก็ขอให้เสนอออกมาในทิศทางที่เป็นประโยชน์ เพราะในช่วง 7-8 ปีที่ผ่านมาหรืออาจจะยาวกว่านั้นเมื่อเรามีความเห็นต่าง หรือมีความไม่พอใจในการกระทำของอีกฝ่ายหนึ่ง แทนที่จะพูดจากันด้วยภาษาที่ทุกคนรับฟังกันได้อย่างสบายหู มีสีหน้าที่ดูแล้วมีมิตรภาพบนความเห็นต่าง ซึ่งน่าจะเป็นสิ่งที่ดีกว่า แต่ปัจจุบันมีคนพูดกันมาก แสดงความคิดเห็นมาก มีการใช้คำพูดที่ที่บาดหัวใจ ฟังแล้วก็สะอื้นได้ แม้ว่าเป็นเรื่องที่เห็นต่างกันเล็กๆ น้อยๆ ก็ตาม แต่ผลกระทบในเชิงลึกมีมากกับการที่สังคมมีความแตกแยก ซึ่งวิธีการสื่อสารมีหลายวิธีแตกต่างกันไป คำพูดแต่ละคำมีความหมายลึกซึ้ง ปัญหาไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อ 2-3 ปีนี้ แต่เกิดมานานแล้ว จึงอยากขอให้มองอีกมุมหนึ่งว่า ถ้าทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาแล้วก็หันเข้าหากัน
.
3. ผมมายืนอยู่ตรงนี้ ก็อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดความขัดแย้งเกิดขึ้น แต่เราเองต้องมีการปรับปรุงตัวเองเพื่อให้ลดความขัดแย้งลงไปจากการพูดจา ผมอาจจะพูดมาเป็นเหมือนคอนเซ็ปต์ หลายท่านอาจจะไม่เข้าใจ ก็จะขออนุญาตยกตัวอย่าง ซึ่งไม่ได้ไปว่าใครหรือตอบโต้ใครทั้งสิ้น
.
4. เรื่องการที่เราใช้คำว่าปฏิรูป สังคายนา ล้างบาง ขอยกตัวอย่างดังนี้ว่า ทุกคนมีความภูมิใจและหวังดีในองค์กรของตนเองและเข้าใจว่าทุกองค์กรมีทั้งคนดีและคนไม่ดี แต่การใช้คำพูดรุนแรง แบ่งพรรคแบ่งพวกที่ชัดเจน มันเป็นวิธีการแก้ปัญหาหรือไม่ หรือการแก้ปัญหาอยู่ที่การกระทำไม่ได้อยู่ที่คำพูด ผมเชื่อว่าการพูดด้วยถ้อยคำรุนแรงไม่ได้เป็นการแก้ปัญหา การแก้ปัญหาดีที่สุดคือพูดคุยกันในภาษาที่ทุกคนยอมรับได้ แต่เน้นการกระทำเรื่องกระบวนการแก้ไขปัญหาที่จะทำให้สังคมดีขึ้น ถ้าทุกคนช่วยกันได้ คนในสังคมก็จะมีความสบายใจขึ้น เชื่อว่าทุกคนในที่นี้รวมถึงตัวผมก็อาจต้องรับผิดชอบไปด้วยกัน แต่ไม่สายเกินไปที่เราลองมาช่วยกัน เยียวยาสังคมให้ดีขึ้นจาการกระทำของพวกเราเอง การรับผิดชอบต่อสังคมก็เป็นส่วนหนึ่งที่เราจะนำประเทศเดินหน้าควบคู่ไปกับการแก้ไขเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนที่มีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น
.
5. ปัญหาเศรษฐกิจ ทุกท่านเข้าใจดี จากอัตราการเติบโตของจีดีพีประเทศเพื่อนบ้านที่เติบโตมากกว่าเรา 2 เท่า ทั้งที่ประเทศเราก็ประสบปัญหาเหมือนเขาและเพิ่งฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด รัฐก็พยายามเสนอมาตรการนโยบายดีๆ ไม่ว่าจะเป็นนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต นโยบายค่าแรง นโยบายพักหนี้เกษตรกร ปัญหาเศรษฐกิจนี้พี่น้องเดือดร้อนกันมาก ถ้าไม่มีการเยียวยาหรือบริหารจัดการ ซึ่งจะเรียกว่าประชานิยมหรือนโยบายหาเสียงอะไรก็แล้วแต่ แต่ก็มีอีกหลาย 10 ล้านคนที่เดือดร้อนอยู่ในปัจจุบัน รัฐบาลนี้มาจากประชาชน อะไรที่ทำได้ก่อนเราทำก่อน ลดค่าไฟยูนิตละ 4 บาทกว่าต่อหน่วยเหลือ 3.99 บาทต่อหน่วยต่อเนื่อง 2 ครั้ง เราไตร่ตรองแล้วว่าทำได้ทำไปก่อนประกาศก่อนเพื่อให้พี่น้องเชื่อมั่นสบายใจ ว่าเราทำอยู่
.
6. การพักหนี้เกษตรกร ซึ่งพี่น้องเกษตรกรเดือดร้อนมาก เราเคยพักหนี้ไป 13 ครั้งภายใน 9 ปี แล้วไม่มีอะไรดีขึ้น คำถามที่มีอยู่ในใจคือ พักแล้ว พักอีก พักต่อไปแล้วจะต้องพักอีกหรือ แต่เป็นความจำเป็นที่ต้องพักหนี้ เพราะเขาเดือดร้อนไม่มีขวัญกำลังใจที่จะลุกขึ้นมาทำงานต่อได้ เราพักหนี้ให้เขามีขวัญกำลังใจในการทำงานต่อ และนโยบายรัฐบาลก็จะนำไปสู่การฟื้นฟู ไม่ว่าจะเป็นการใช้ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ และรัฐบาลนี้ก็จะไปเปิดตลาดใหม่ ทั้งตะวันออกกลางหรือตลาดแอฟริกาที่ไม่มีความมั่นคงทางอาหารเลย ซึ่งเรามีความมั่นคงทางอาหารสูงมาก เราให้ความสำคัญกับสหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น อียู แต่ถ้าเราไปเปิดตลาดตรงนี้ให้ตรงกับความต้องการก็จะทำให้รายได้ของพี่น้องเกษตรกรดีขึ้น รวมถึงให้ความรู้เกษตรกรเรื่องการทดสอบหน้าดิน ระบบชลประทานที่ดีกว่าเอามาช่วยเกษตรกรก็จะแก้ปัญหาในเชิงบูรณาการ เป็นการแก้ปัญหาระยะยาวที่จะทำให้การพักหนี้เกษตรกรลดน้อยลง ผมใช้คำว่าลดน้อยลงเพราะว่าอาชีพเกษตรกรต้องพึ่งพาดินฟ้าอากาศ บางโอกาสอาจต้องทำบ้าง ส่วนเรื่องการจำนำหรือประกันราคารัฐบาลนี้ไม่มีความประสงค์ที่จะมี แต่เราใช้การตลาดนำ นวัตกรรมเสริม ยกเว้นแต่เกิดภัยพิบัติต้องช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร
.
7. เรื่องไม่ท่วมไม่แล้ง เราเป็นห่วงเรื่องระดับน้ำตามเขื่อนต่างๆ ที่มีระดับน้อยลง เขาบริหารจัดการกันอยู่ 4 ส่วน คือ เพื่อการอุปโภคบริโภคอันนี้ไม่มีปัญหา เพื่อรักษาระบบนิเวศไม่มีปัญหา เพื่อใช้ภาคอุตสาหกรรมมีรายงานมาว่าไม่มีปัญหาแต่ยังกังวลใจอยู่ รวมถึงภาคการเกษตรซึ่งทุกภาคส่วนเห็นว่ามีปัญหาแน่นอน เพราะฝนตกที่ผ่านมาเป็นการตกหลังเขื่อน แต่ยังหวังว่าหน้าฝนนี้จะยาวไปอีกสักระยะเพื่อเก็บกักน้ำไว้บริหารจัดการ ในส่วนการบริหารจัดการน้ำในภาคอุตสาหกรรม ที่ภาคตะวันออกมีโรงงานอยู่มาก หากไม่บริหารจัดการน้ำให้ดี น้ำจะขาดแคลนในเดือนเมษายนปีหน้า แต่น่ายินดีที่กรมชลประทานตระหนักดีและเริ่มผันน้ำเข้ามาทำให้เรามีความหวัง ตอนนี้เรากำลังไปขยายตลาดเชิญชวนให้มาลงทุนที่ไทยเยอะแต่ถ้าไม่สามารถให้ความมั่นใจได้ใครจะมาลงทุน เรื่องน้ำเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องไม่ให้เกิดปัญหาควบคู่กับภาคการเกษตรทั้งหมด
.
8. การเดินทางไป UNGA78 ได้พบกับผู้นำประเทศหลายประเทศ ไปประกาศให้ชาวโลกรู้ว่า ประเทศไทยเปิดแล้วสำหับการทำธุรกิจกับทุกประเทศ เราจะมีรัฐบาลที่เดินทางไปเชื่อมสัมพันธ์การค้ากับทุกประเทศ การทำ FTA ให้มากขึ้น เหตุผลหนึ่งที่เราแพ้เวียดนามไม่ใช่เพราะค่าแรง แต่เป็นเรื่องของ FTA เราไปพบผู้นำบริษัทขนาดใหญ่ให้ความสนใจมาก ไม่ว่าจะเป็นไมโครซอฟท์ เทสลา กูเกิล บริษัทเทคใหญ่ๆ เหล่านี้เวลาลงทุนครั้งหนึ่งก็ไม่ต่ำว่า 5,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ เราก็หวังจะคุยกันต่อเนื่องไม่ใช่ไปแค่จับมือแล้วก็จบ ดังนั้นในช่วงเอเปคเดือนพฤศจิกายนที่ซานฟรานซิสโก ก็จะนัดหมายพูดคุยต่อและหวังลึกๆ ว่า จะมีการตกลงกันได้ในขั้นพื้นฐาน เพราะประเทศไทยต้องพร้อมสำหรับการยกระดับการลงทุนครั้งใหญ่ เราไม่สามารถพึ่งพาการเจริญเติบโตได้จากจีดีพีจากภาคการเกษตรอย่างเดียว เราต้องเชื้อเชิญให้เขามาลงทุน มีการสนับสนุนการลงทุนอย่างดี เหนือสิ่งอื่นใด มีภูมิปัญญาด้านเทคโนโลยีที่ต้องนำเข้ามา เพราะฉะนั้นจึงขอฝากไว้ว่าถ้าท่านมีคู่ค้าต่างประเทศ บอกเขาด้วยว่าเราไม่ได้มีแค่ภูเขาทะเลวัฒนธรรม แต่เรายังมีโรงเรียนนานาชาติดีๆ ให้ลูกหลานเขามาเรียนหนังสือ มีระบบดูแลสุขภาพที่ดีระดับโลก
.
9. โครงสร้างพื้นฐาน เป็นเรื่องสำคัญสำหรับการมาลงทุนที่ไทย อินเตอร์เน็ตที่ดีที่สุด มีระบบไฟฟ้าที่ดี แต่ยังไม่ดีที่สุด ยังต้องลงทุนพื้นฐานต่อเนื่อง เรื่องสนามบินก็สำคัญ เพราะเราไม่ต้องการให้ความเจริญกระจุกอยู่แต่ในกรุงเทพมหานคร ภูเก็ต หรือเชียงใหม่ วันนี้สล็อตจอดเครื่องบินเกือบเต็มต้องมีการขยาย นักท่องเที่ยวก็ต้องเพิ่ม เราไม่ได้เพิ่มแค่จำนวนนักท่องเที่ยว แต่เราเพิ่มเรื่องการใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวให้มากขึ้น อยู่ในไทยได้นานขึ้น ดังนั้นเราต้องพัฒนาเมืองรอง กระจายความเจริญไปให้พี่น้องชนบท กระทรวงต่างๆ ต้องทำงานร่วมกันไม่ใช่เป็นภาระแค่กระทรวงท่องเที่ยวฯ การขยายสนามบินให้เครื่องบินเข้าออกตอนกลางคืนได้ กระทรวงวัฒนธรรมก็ไปทำเมืองมรดกโลกเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวกระจายไปทุกจังหวัด การขยายสนามบิน วันนี้จะไปเปิดอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 แล้วก็ก็จะไปดูการชี้จุดการขยายสนามบินอินเตอร์เนชันแนลที่ภูเก็ต แต่เพราะเป็นภาคใต้ไม่อยากใช้ว่าภูเก็ต เพราะเรามีกระบี่ พังงา ระนอง จึงพยายามเสนอชื่อว่าเป็น อันดามันอินเตอร์เนชันแนลแอร์พอร์ต หรือที่เชียงใหม่ ก็เป็นล้านนาแอร์พอร์ต เพื่อยกระดับการท่องเที่ยว
.
10. รัฐบาลนี้เทหมดหน้าตัก เพราะต้องการบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้พี่น้องประชาชน ยิ่งออกต่างประเทศไปค้าขายมากขนาดไหน ก็ยิ่งต้องลงพื้นที่ต่างจังหวัดมากขนาดนั้น เพื่อให้พี่น้องประชาชนเห็นว่า เราไม่ได้ดูแลแค่การลงทุนต่างประเทศ แต่เรายังปรารถนาดี ห่วงพี่น้องเกษตรกร ไม่ว่าจะน้ำท่วมน้ำแล้งซึ่งสำคัญกว่ารถไฟฟ้าความเร็วสูงเสียอีกเพราะทุกบาททุกสตางค์จะมาช่วยจีดีพีประเทศไทย
.
12. เรื่อง Geopolitics การสร้างสมดุลระหว่างประเทศจีนกับสหรัฐอเมริกา ประเทศไทยเป็นประเทศเล็ก เราภูมิใจในเอกราช เราไม่เราจะไม่เลือกที่จะไปประเทศใดประเทศหนึ่ง เราต้องมีความเป็นกลาง เราจึงเชื่อมั่นใน ความสงบ แล้วก็ความเจริญรุ่งเรืองอย่างยั่งยืนควบคู่กันไป ประเทศไทยได้เปรียบเรื่องตำแหน่งที่ตั้งทางรัฐศาสตร์ ซึ่งรัฐบาลก็ต้องบาลานซ์ให้ดีที่สุด และนำประโยชน์สูงสุดมาให้กับประเทศ
.
12. ประเทศญี่ปุ่น ต้องยอมรับว่าเป็นประเทศที่มีการลงทุนข้ามชาติมาไทย ตอนนี้ญี่ปุ่นกังวลเรื่องตลาดรถอีวีที่จะทำให้เขาเสียเปรียบในเชิงธุรกิจ เพราะเขาอาจจะช้าไปนิด แต่ผมจะเดินทางไปญี่ปุ่นต้นเดือนธันวาคมนี้เพื่อยืนยันว่ารัฐบาลไม่เคยลืมประเทศญี่ปุ่นและเอกชนที่ช่วยเหลือเรามาตลอดหลาย 10 ปี เมืองไทยเป็นดีทรอยท์ออฟเอเชียมีอุปกรณ์รถยนต์สันดาปมาก ถึงแม้เราจะสนับสนุนด้านอีวี แต่ก็ยังต้องดูแลธุรกิจรถสันดาป เพราะยังต้องมีต่อไปอีก 10-15 ปี อีกทั้งไทยยังมีธุรกิจซัพพลายเชนนี้อยู่มาก หากหายไปหรือไม่ได้รับการสนับสนุน พี่น้องคนไทยในภาคธุรกิจนี้จะเดือดร้อน ซึ่งรัฐบาลก็คำนึงถึง
.
13. สำหรับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน หรือ sustainable development goals ซึ่งในที่ประชุมสมัชชาสหประชาติก็เห็นตรงกัน เราย้ำว่าไทยจะต้องมุ่งหน้าสู่ Carbon Neutrality และเราก็นำเสนอการใช้เครื่องมือการเงิน ที่อาจจะเป็นรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า Sustainability Linked Bond เพื่อให้ขอบเขตเงินกู้ในการลงทุนกว้างขวางมากยิ่งขึ้น ตรงนี้รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญ และสุดท้ายต้องยืนยัน คือ รัฐบาลเป็นภาคส่วนเดียวที่จะไปประกาศไม่ได้ว่าเราเปิดประเทศสำหรับธุรกิจ เราเดินทางไปพูดคุยจริง แต่คนที่เป็นตัวแทนของประชาชนคนไทยทุกคน คือภาคเอกชนต่างๆ
.
14. วันนี้ว่ารัฐบาลพร้อมสำหรับการเปิดประเทศ พร้อมสำหรับการพูดคุยพร้อมที่จะรับข้อเสนอแนะ ในการที่เราจะเปิดประเทศเดินไปข้างหน้าเพื่อดึงดูดการลงทุนครั้งใหญ่ ผมอยากให้ทุกท่านช่วยกันออกไปพูด มีอะไรที่รัฐบาลสามารถช่วยเหลือได้ยินดีให้การสนับสนุน หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงการโรดโชว์ ซึ่งไม่ได้ทำเรื่องนี้มานาน ไม่มีใครรู้จักประเทศไทยเลยว่าเรามีของดีอย่างไร ขอวิงวอนว่าเริ่มทำแผนกันได้แล้วในการช่วยกันออกไปพูดไปประชาสัมพันธ์ประเทศที่ทุกท่านมีความภาคภูมิใจในความเป็นคนไทย
ที่มา : เพำจพรรคเพื่อไทย
Facebook Comments

Related post