![Digiqole ad](http://bangkok-today.com/wp-content/uploads/2024/06/แก้ปัญหาคอม.jpg)
‘เศรษฐา’ นายกรัฐมนตรี หารือ ‘สเตฟาน บุทซ์’ ผู้บริหาร DKSH Holding AG
![‘เศรษฐา’ นายกรัฐมนตรี หารือ ‘สเตฟาน บุทซ์’ ผู้บริหาร DKSH Holding AG](https://bangkok-today.com/wp-content/uploads/2024/01/2-16-850x560.jpg)
![Digiqole ad](http://bangkok-today.com/wp-content/uploads/2024/01/Nishikawa_Banner728x90px.gif)
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พบหารือกับนายสเตฟาน บุทซ์ (Stefan Butz) ผู้บริหารบริษัท DKSH Holding AG บริษัทให้คำปรึกษาและแนะนำการทำธุรกิจ เช่น การขยายตลาด การวางแผนธุรกิจ การกระจายสินค้า การบริการหลังการขาย และมีการนำสินค้าอุปโภค บริโภค เข้ามาจำหน่ายในไทยหลายประเภท แสวงหาความร่วมมือด้านการจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์ ชักชวนบริษัทร่วมดึงดูดให้โรงงานย้ายมาตั้งฐานการผลิตในไทย พร้อมดึงบริษัทร่วมลงทุนโครงการแลนด์บริดจ์ ส่งเสริมไทยเป็นศูนย์กลางด้านการค้าและการขนส่งในภูมิภาค
.
1. นายกรัฐมนตรีและผู้บริหารบริษัท DKSH ได้หารือเกี่ยวกับปัญหาการจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์ของบริษัท จากสถานการณ์ที่มีโรคระบาดใหม่เกิดขึ้น บริษัทต้องเจอกับกระบวนการและระยะเวลานานในการเข้ามาจัดจำหน่ายในไทย เพราะกระบวนการอนุมัติมีความเข้มงวด แม้ยาเหล่านี้จะผ่าน FTA ที่สวิตเซอร์แลนด์และยุโรปมาแล้ว โดยรัฐบาลจะรับไปแก้ปัญหาเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อบริษัทและต่อประชาชนชาวไทยที่ต้องกรใช้ยาและเวชภัณฑ์ในการรักษาโรค หากยาเข้ามาเร็วเราก็จะสามารถดูแลรักษาคนไทยให้เร็วขึ้นได้
.
2. นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า บริษัทนี้ถือเป็นกองเชียร์สำคัญของไทย โดยตนเองต้องการให้ย้ายโรงงานมาอยู่ในประเทศ เช่น โรงงานผลิตนีเวีย ซึ่งเป็นครีมบำรุงผิวที่ประสบความสำเร็จมากในไทย ทางบริษัทจะไปพูดคุยและเชื้อเชิญ รวมถึงนายกรัฐมนตรีพร้อมยินดีไปพูดคุยหากสนใจที่จากเปิดฐานการผลิต จุดประสงค์ใหญ่ของเราคือ การดึงดูดให้บริษัทใหญ่ย้ายฐานการผลิตในไทย อย่างเช่นเรื่องยา เรามั่นใจว่าเรามีบุคลากรพร้อม มีมาตรการภาษี พร้อมชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีในเมืองไทย
.
3. บริษัทให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม และเสนอให้ไทยใช้ E-document มากขึ้นจากการที่บริษัทพบว่าโรงงานในไทยใช้กระดาษจำนวนมาก โดยนายกรัฐมนตรียืนยันว่าไทยกำลังดำเนินการเรื่องนี้อยู่ อีกทั้ง บริษัทยังจะส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในการขนส่งสินค้า ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลไทยที่ยืนยันจะส่งเสริมและสนับสนุนการเพิ่มการติดตั้งสถานีชาร์จรถไฟฟ้าให้เพิ่มมากขึ้น
.
4. นอกจากนี้ บริษัทยังมีความเชี่ยวชาญทางด้านโลจิสติกส์ นายกรัฐมนตรีได้นำเสนอว่าไทยมีโครงการแลนด์บริดจ์ที่บริษัทสามารถเข้ามีส่วนร่วมได้ โดยโครงการนี้จะเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย และบริษัทจะได้รับผลประโยชน์จากโครงการนี้ด้วย ในโอกาสนี้ บริษัทยืนยันและมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของไทย รวมทั้งพร้อมที่จะเชิญชวนบริษัทพันธมิตรมาร่วมลงทุนในไทยมากขึ้น
.
5. ทั้งนี้ DKSH เข้ามาประกอบธุรกิจในไทยตั้งแต่ปี 2449 (ค.ศ.1906) โดยเป็นหนึ่งในองค์กรที่ใหญ่ที่สุดในประเทศในด้านยอดขาย และไทยนับเป็นประเทศที่มีการดำเนินกิจการที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่ม DKSH สามารถสร้างรายได้ 1 ใน 3 ของรายได้รวมของบริษัททั่วโลก มีความเข้าใจในการทำธุกิจในไทย และมีการจ้างงานผู้หญิงคิดเป็นสัดส่วนจำนวนมาก ไทยจึงเป็นตลาดสำคัญของบริษัท
.
Facebook Comments