Digiqole ad

นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ จ.อุตรดิตถ์

 นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ จ.อุตรดิตถ์
Social sharing

Digiqole ad
วันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลงพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ติดตามความก้าวหน้าการบริหารจัดการน้ำโครงการเขื่อนทดน้ำผาจุก เยี่ยมศูนย์จำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน เร่งรัดพูดคุยจัดตั้ง ททท.สำนักงานอุตรดิตถ์ เพื่อเพิ่มนักท่องเที่ยวจาก 700,000 คนต่อปีให้เป็น 1,500,000 คนต่อปี พร้อมส่งเสริมทุเรียนอุตรดิตถ์เปิดขยายตลาดไปต่างประเทศ พร้อมพูดคุยระบบศุลกากรและชายแดน เพื่อให้สามารถขนส่งผลไม้และสินค้าไทยไปจำหน่ายยังต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
.
เมื่อเวลา 11.55 น. นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่เพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการเขื่อนทดน้ำผาจุก ตำบลผาจุก อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ โดยมีพี่น้องประชาชนมาให้การต้อนรับ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่าจังหวัดอุตรดิตถ์เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสูง มีพืชผลการเกษตรสำคัญแต่การทำการเกษตรจะต้องอาศัยแหล่งน้ำ ซึ่งทางจังหวัดได้มีโครงการอ่างเก็บน้ำน้ำปาด ซึ่งหากสร้างเสร็จก็จะสามารถใช้ประโยชน์ได้ในปีหน้า ช่วยบริหารจัดการให้ไม่เกิดปัญหาน้ำท่วมหรือน้ำแล้ง ซึ่งจะส่งผลให้จังหวัดอุตรดิตถ์และจังหวัดข้างเคียงไม่ให้เกิดปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้ง จึงนับได้ว่าอ่างเก็บน้ำน้ำปาดมีศักยภาพในการบริหารจัดการน้ำได้สูง นอกจากนี้ เมื่อบริหารจัดการน้ำได้ก็จะช่วยให้พี่น้องสามารถใช้น้ำเพื่อทำการเกษตร มีผลผลิตการเกษตรส่งขาย ซึ่งรัฐบาลก็มาคุยกับด่านศุลกากร เพื่อให้พี่น้องเกษตรกร ได้นำพืชผลการเกษตรไปขายทางเมืองจีนโดยผ่านทางประเทศลาว เพราะจะมีการเชื่อมต่อถนนสำคัญอีกหลายสาย ดังนั้นจากนี้จังหวัดอุตรดิตถ์จะเป็นจังหวัดสำคัญที่ไม่ใช่แค่เมืองทางผ่านอีกต่อไป
.
เวลา 14.30 น. นายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมศูนย์จำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวกับพี่น้องประชาชนที่มาต้อนรับว่า จังหวัดอุตรดิตถ์เป็นจังหวัดที่ต้นทุนและศักยภาพสูงที่จะขับเคลื่อน Soft Power ทั้งเรื่องอาหาร ผลไม้ กีฬา ศิลปวัฒนธรรม และการท่องเที่ยว ซึ่งเมื่อระหว่างทานข้าวกลางวันได้พูดคุยกันพบว่าจังหวัดอุตรดิตถ์ยังไม่มีสำนักงานท่องเที่ยวจังหวัดจึงทำให้ไม่สามารถดึงศักยภาพที่มีอยู่ออกมาได้ จึงได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อให้มาตั้งสำนักงานอยู่ที่นี่ เพื่อโปรโมทสนับสนุนด้านการท่องเที่ยว ให้เกิดการท่องเที่ยวในพื้นที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีไปถึงธุรกิจที่พักและโรงแรมต่างๆ ซึ่งทราบมาว่าตัวเลขคนมาท่องเที่ยวอุตรดิตถ์ 700,000 คนต่อปีซึ่งยังน้อยมาก จากนี้จะได้ประชุมกับ ททท. กำหนดตัวชี้วัด KPI จากนี้อีก 2 ปี ต้องมีนักท่องเที่ยวเข้ามา 1.5 ล้านคนหรือเท่าหนึ่งให้ได้ ดังนั้นต่อไปนี้อุตรดิตถ์จะไม่ใช่แค่เมืองรอง แต่จะเป็นเมืองสำคัญของการท่องเที่ยวด้วย
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ตนเองในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ โดยมีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ จะได้ช่วยกันผลักดันดึงกีฬา เช่น มวยไทยท่าเสา ซึ่งเป็นศิลปะการต่อสู้ที่โด่งดังให้เป็นที่รับรู้ของชาวโลก เหมือนกับที่ประเทศอังกฤษมีค่ายมมวยไทยถึง 6,000 ค่าย จึงถือเป็น Soft Power ที่สำคัญที่จะต้องมีการผลักดัน รวมถึงผลไม้คือทุเรียนที่ได้รับความนิยมอย่างมากเช่น ทุเรียนหลงลับแล หลินลับแล ซึ่งเป็นผลไม้ที่มีชื่อเสียง ซึ่งตลาดในต่างประเทศเช่นประเทศจีน ปริมาณการบริโภคทุเรียนของคนจีนยังน้อยเพียงแค่ 0.7 กิโลกรัมต่อคนต่อปีเท่านั้น หากเราส่งเสริมให้คนต่างชาติรู้จักและบริโภคทุเรียนเพิ่มขึ้นได้เราก็จะสามารถส่งทุเรียนไปขายได้มากขึ้นทั่วโลก สร้างรายได้ให้กับประชาชนพี่น้องได้มากขึ้น
เวลา 16.30 น. นายกรัฐมนตรี เดินทางไปยังหอประชุมอำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อติดตามความก้าวหน้าโครงการสำคัญต่างๆ ในพื้นที่อำเภอน้ำปาด รวมถึงเรื่องการออกเอกสิทธิ์ของอำเภอท่าปลาจากการสร้างเขื่อนสิริกิติ์ โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวกับพี่น้องประชาชนที่มาต้อนรับว่า เรื่องปัญหาที่ดินทำกินของพี่น้องเป็นเรื่องที่รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญและเป็นปัญหาหมักหมมมาหลายปี ซึ่งทราบว่าหลายท่านที่เคยอยู่ในที่ดินดังกล่าวจนจากไปก็ยังแก้ปัญหาไม่ได้ ซึ่งรัฐบาลนี้ห่วงใยจึงได้เร่งพูดคุยเพื่อหามาตรการในการแก้ไขปัญหาให้ได้ และจะต้องมีคำตอบชัดเจนภายใน 6 เดือน ในต้องการผลักดันนิคมสร้างตนเองให้เกิดขึ้น ให้สามารถทำมาหากินอย่างสมศักดิ์ศรี
ที่มา :
Facebook Comments


Social sharing

Related post