
“เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรีและ รมว.กระทรวงการคลัง ร่วมงานสัมมนาโครงการ ‘Thailand Landbridge Roadshow’ ในระหว่างปฏิบัติภารกิจเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 30


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในระหว่างปฏิบัติภารกิจเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 30 (2023 APEC Economic Leaders’ Meeting) ได้ร่วมงานสัมมนาโครงการ ‘Thailand Landbridge Roadshow’ วันที่ 13 พฤศจิกายน 2566 เพื่อชวนบริษัทยักษ์ใหญ่เข้าร่วมลงทุนในโครงการแลนด์บริดจ์โดยบริษัทต่างๆ แสดงความสนใจที่จะเข้ามาลงทุน คาดเมื่อดำเนินโครงการเต็มรูปแบบจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ GDP ไทยโต 5.5% ต่อปีและสร้างงานถึง 280,000 ตำแหน่ง
.
1. ในขณะนี้ เรือขนส่งจะต้องผ่านช่องแคบมะละกาสำหรับการค้าทางทะเลระหว่างเอเชียและยุโรป หนึ่งในสี่ของการค้าโลกและน้ำมันมากกว่า 70% ที่ส่งออกจากภูมิภาคตะวันออกกลางก็ขนส่งผ่านช่องแคบดังกล่าว ซึ่งทำให้เป็นคอขวดซึ่งมีมีการขนส่งคับคั่งที่สุดในโลก ในแต่ละปีมีเรือประมาณ 90,000 ลำผ่านช่องแคบนี้และเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 2.35 % ทุกปี ซึ่งปริมาณดังกล่าวคาดว่าจะเกินความจุของช่องแคบภายในปี 2573
.
2. โครงการแลนด์บริดจ์จะกลายเป็นเส้นทางคมนาคมขนส่งทางเรือเส้นใหม่ของโลก เพราะเป็นทางเลือกในการแก้ปัญหาการจราจรผ่านช่องแคบมะละกาที่ถูกกว่า เร็วกว่า และปลอดภัยกว่า อีกทั้งยังจะยกระดับให้ไทยเป็นศูนย์กลางในการขนส่งสินค้า และผลิตสินค้าที่สามารถขนส่งผ่านท่าเรือของโครงการได้ทันที
.
3. เมื่อเปรียบเทียบต้นทุนและเวลาสำหรับการขนส่งผ่าน Landbridge กับช่องแคบมะละกาแล้ว กลุ่มเป้าหมายที่เป็นไปได้ของ Landbridge ได้แก่
.
– เรือตู้สินค้า (feeder vessels) สินค้าจากประเทศจีนและประเทศในยุโรปโดยเรือแม่ (Mainline vessel) จะได้รับการส่งต่อโดยเรือตู้สินค้าในพื้นที่นี้ ซึ่งช่วยประหยัดต้นทุนได้อย่างน้อย 4% และดำเนินการได้เวลา 5 วัน
.
– สินค้าจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปยังเอเชียกลาง และตะวันออกกลางโดยใช้เรือตู้สินค้าข้ามระหว่างมหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิก สามารถประหยัดต้นทุนได้อย่างน้อย 4% และประหยัดเวลาได้ 3 วัน
.
– ผลิตภัณฑ์จากประเทศไทย ลาว กัมพูชา และจีนตอนใต้ ไปจนถึง BIMSTEC และประเทศในทวีปยุโรป สามารถกระจายได้โดยใช้เรือตู้สินค้าที่ Landbridge ไปยังภูมิภาคต่างๆ ได้ สิ่งเหล่านี้จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากถึง 35% และประหยัดเวลาได้ 14 วัน
.
โดยสรุป การขนส่งสินค้าผ่าน Landbridge จะช่วยลดเวลาการเดินทางได้ 4 วัน และลดต้นทุนโดยเฉลี่ยได้ 15%
.
4. ในระหว่างการประชุม APEC นายกรัฐมนตรีเชิญนักลงทุนในสหรัฐอเมริกาจากบริษัทต่างๆ อาทิ SSA Marine, Oracle, Jacob, AWS, eBay, Port of Long Beach โดยบริษัทต่างๆ สนใจที่จะเข้ามาลงทุนในโครงการนี้ เพราะเล็งเห็นถึงศักยภาพในประเทศไทยและความหนาแน่นของเรือในอนาคตตรงช่องแคบมะละกา
.
5. โครงการ Landbridge จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม สร้างงาน 280,000 ตำแหน่ง และคาดว่า GDP ของไทยจะเติบโต 5.5% ต่อปี หรือเทียบเท่ากับ 670,000 ล้านดอลลาร์เมื่อดำเนินโครงการอย่างเต็มรูปแบบ
.

Facebook Comments