Digiqole ad

“เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรีและ รมว.กระทรวงการคลัง ลงพื้นที่จังหวัดอุดรธานี

 “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรีและ รมว.กระทรวงการคลัง ลงพื้นที่จังหวัดอุดรธานี
Social sharing

Digiqole ad
วันที่ 29 ตุลาคม 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ลงพื้นที่จังหวัดอุดรธานี เพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยปากแบ่งพร้อมระบบส่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญเรื่อง ‘ไม่ท่วมไม่แล้ง’ เชื่อรายได้เกษตรกรไทยจะเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัวภายใน 4 ปีนี้ จากนั้นได้ลงพื้นที่จังหวัดหนองคาย เพื่อเป็นประธานการประชุมติดตามประเด็นปัญหาการส่งออก ขั้นตอนพิธีศุลกากร การค้าชายแดนและการพัฒนาศูนย์ให้บริการเบ็ดเสร็จ (One Stop Service: OSS) ระหว่างไทย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยตั้งใจพัฒนาให้จังหวัดหนองคายเป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงในระดับภูมิภาค เร่งพัฒนาด่านศุลกากรหนองคายเป็นต้นแบบ OSS ใน 3 เดือน เพื่ออำนวยความสะดวกในการค้าขายและทำธุรกิจ พร้อมขยายผลไปยังพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ
1. ในการลงพื้นที่จังหวัดอุดรธานี นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เรื่องไม่ท่วมไม่แล้งเป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญสูงสุด ขณะนี้เราสามารถเก็บกักได้แค่ 1 ใน 3 ของปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาในแต่ละปีซึ่งยังสามารถปรับปรุงได้ โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยปากแบ่งฯ ถือเป็นโครงการตัวอย่างที่จะนำไปปรับปรุงและนำไปใช้ในหลายพื้นที่ หากติดขัดเรื่องงบประมาณหรืออื่นๆ รัฐบาลพร้อมให้การช่วยเหลือ โดยโครงการกักเก็บน้ำต่างๆ ถือเป็นโครงการที่รัฐบาลต้องการให้เกิดขึ้นโดยไม่ล่าช้า หากประกอบกับนโยบายอื่นอย่างการเปิดตลาดให้กับเกษตรกรไทย ตนเชื่อว่ารายได้ของเกษตรกรไทยจะเพิ่มขึ้นไปอีกหลายเท่าตัวในเวลา 4 ปีข้างหน้า
.
2. สำหรับโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยปากแบ่งพร้อมระบบส่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตามที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานอ่างเก็บน้ำห้วยปากแบ่ง มีพื้นที่รับประโยชน์ 1,600 ไร่ สำรองน้ำสำหรับอุปโภค-บริโภคแก่ 798 ครัวเรือน ซึ่งคิดเป็นประชากร 3,740 คน บรรเทาปัญหาอุทกภัย โดยตัดยอดน้ำได้ 1,594,000 ลูกบาศก์เมตร หรือประมาณ 600 ไร่ โครงการดังกล่าวก่อสร้างตั้งแต่ปี 2565 – 2568 จากผลการดำเนินงาน ณ ปัจจุบันคิดเป็นร้อยละ 24 ซึ่งเป็นไปตามแผนที่วางไว้
3. ในการลงพื้นที่จังหวัดหนองคาย นายกรัฐมนตรีได้ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการการทำงาน เพื่อผลักดันด่านศุลกากรหนองคายให้มีศูนย์ให้บริการเบ็ดเสร็จ (One Stop Service : OSS) เพื่อรวมบริการภาครัฐและมีประสิทธิภาพมากขึ้นให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน ศูนย์จะเป็นพื้นที่สำหรับการเจรจา แลกเปลี่ยนสินค้า กำกับดูแล รวมถึงตรวจสอบมาตรฐานใบอนุญาตการนำเที่ยว ซึ่งหวังว่าจะเป็นต้นแบบในการให้บริการและขยายผลไปทั่วประเทศ อีกทั้ง ยังขอให้อำนวยความสะดวกการค้าชายแดนและผ่านแดนจังหวัดหนองคาย รองรับการขนส่งสินค้าตลอด 24 ชั่วโมง
.
4. นายกรัฐมนตรีย้ำว่า รัฐจะต้องไม่เป็นอุปสรรคต่อการลงทุน แต่ต้องอำนวยความสะดวกต่อการลงทุนในทุกมิติ และยังขอให้ร่วมเสริมสร้างความร่วมมือและแก้ไขปัญหาอุปสรรคของการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ทั้งทางบก ราง เรือ และอากาศ พร้อมปรับปรุงระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งระหว่างประเทศให้มีความเป็นสากล รวมทั้งพัฒนากระบวนการโลจิสติกส์ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว อย่างไร้รอยต่อ
.
5. ในด้านการท่องเที่ยว รัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนเมืองรอง เพื่อสร้างรายได้สู่เมืองรองมากขึ้น ขอให้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เร่งประชาสัมพันธ์และสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวในการเที่ยวไทย ซึ่งฝ่ายความมั่นคงและกระทรวงมหาดไทยได้แก้กฎหมายการครอบครองปืนแล้ว
6. ในด้านการต่างประเทศ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าไทย-จีนมีความสัมพันธ์ที่ดี จากการพูดคุยมีนักลงทุนจีนสนใจเข้ามาลงทุนในไทยจำนวนมาก ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งประสานให้เกิดความร่วมมือให้เกิดเป็นผลรูปธรรม รวมถึงมีส่วนร่วมในการดึงดูดนักลงทุนมากขึ้น
.
7. นายกรัฐมนตรีได้ลงพื้นที่จังหวัดอุดรธานี โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และในจังหวัดหนองคาย มีนางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ สส.พรรคเพื่อไทยร่วมคณะด้วย
.
ที่มา:
Facebook Comments


Social sharing

Related post