
“เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรีและ รมว.กระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน “Dinner Talk Thailand’s Future อนาคตประเทศไทย 2024”


วันที่ 24 ตุลาคม 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน Dinner Talk Thailand’s Future อนาคตประเทศไทย 2024 แสดงวิสัยทัศน์การบริหารประเทศ เดินหน้าทำงานสร้างโอกาส เพิ่มความหวัง เร่งแก้ไขปัญหาประเทศ ลดความเหลื่อมล้ำยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ประชาชนท
.
1. รู้สึกสะเทือนใจต่อกรณีสถานการณ์ความรุนแรงที่อิสราเอลถือเป็นเรื่องใหญ่ เป็นกระจกสะท้อนความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย พร้อมกับขอร้องให้คนไทยในอิสราเอลรีบกลับมา ส่วนคนที่เปลี่ยนใจไม่กลับ เพราะนายจ้างเลื่อนจ่ายเงินไป 10 พฤศจิกายนนี้และจะให้เงินมากขึ้น ขอให้คิดดูว่าคุ้มหรือไม่ เข้าใจคนอยู่ในที่เสี่ยงเพื่อหาเงินเพราะไม่มีทางเลือก เพราะลำบาก จึงต้องเสี่ยงชีวิต
.
2. ประเทศไทยมีความเหลื่อมล้ำมากที่สุดประเทศหนึ่ง ปัญหาความเหลื่อมล้ำเป็นปัญหาใหญ่ต้องการการแก้ไข เงินหนึ่งหมื่นบาทของ 1 ครอบครัวสามารถเปลี่ยนชีวิต เปลี่ยนอาชีพได้ หากฟังอย่างมีเหตุมีผล ระยะเวลาที่ผ่านมารัฐบาลต้องการกระตุ้นทั้งระยะยาวและระยะยาว
.
3. ในส่วนของนโยบาย Digital Wallet อาจมีคนไม่เห็นด้วย หรือเห็นด้วยแต่ต้องการให้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลง หรือเห็นด้วยอย่างมีข้อเสนอแนะ รัฐบาลพร้อมที่จะรับฟังยืนยันเศรษฐกิจไทยต้องการการกระตุ้น การแจกเงินมีความหมายหลายอย่าง การกำหนดให้ใช้หมื่นบาทให้หมดใน 6 เดือน เพื่อเร่งการผลิต เร่งใช้จ่าย เกิดการหมุนเวียนของเงิน ส่วนการกำหนดไม่เกิน 4 กิโลเมตรหรือทั้งอำเภอ เพราะไม่อยากให้คนเอาเงินไปใช้ในเมืองใหญ่ อยากให้ร้านค้าในจังหวัดเล็กๆ ได้ด้วย ซึ่งรัฐบาลอธิบายได้ทั้งหมดเกี่ยวกับแนวคิดของการดำเนินงาน
.
4. สำหรับการเดินทางเยือนประเทศต่างๆ ที่ผ่านมานั้นภาคธุรกิจในหลายประเทศที่ได้ไปประชุมหารือด้วย ทุกคนยังมองเห็นโอกาสในประเทศไทยอีกมาก ซึ่งเป็นหน้าที่ของตนที่จะนำจุดเด่นของประเทศไทยไปขาย ไม่ว่าจะเป็นจุดเด่นที่กำลังทำอยู่ในวันนี้ คือ เรื่องของอุตสาหกรรมเดิมที่มีความแข็งแกร่ง หรือจะเป็นความพร้อมของอุตสาหกรรมใหม่ เป็น X Factor ซึ่งที่ผ่านมาได้นำเอกชนร่วมเดินทาง ได้ผลงานที่เป็นรูปธรรม อาทิ การหารือร่วมกับ Microsoft Google Tesla ซึ่งหลายรายสนใจที่จะลงทุนในไทยและเดือนหน้าจะไปร่วมการประชุมเอเปค ซึ่งเชื่อว่าจะมีข่าวดีของ Microsoft Google และรายอื่นๆ ตามมา เป็นฐานการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะกลางและยาว
.
5. รัฐบาลพร้อมเดินไปข้างหน้า ค้าขายในทุกมิติ ทั้งผลิตภัณฑ์การเกษตร ลงทุน ชายแดน การท่องเที่ยว การยกเว้นวีซ่า การขยายระยะเวลาการประกอบกิจกรรมสถานบริหาร
.
6. นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า สัปดาห์ที่แล้วได้เดินทางไปประเทศจีน หอการค้า สภาอุตสาหกรรม สมาคมธนาคารไปด้วย BOI นักธุรกิจไทย มีการประชุม โดยรัฐบาลจะเชื้อเชิญเอกชนร่วมเดินทางไปต่างประเทศ เพื่อทำ Business Matching ช่วยเอื้อให้เกิดการพูดคุย รัฐบาลอำนวยความสะดวกให้เกิดการค้าการลงทุน สินค่า Hitech ทั้งนี้ ไทยเป็นประเทศที่มีการลงทุนสินค้าประเภท EV โดยเป็นผลงานที่ส่งต่อมาจากรัฐบาลที่แล้วด้วย และรัฐบาลนี้พร้อมสานต่อ เราจะสนับสนุนให้เกิดการผลิต ก่อตั้งห่วงโซ่การผลิตที่ไทย
.
7. ต่อมาได้เดินทางไปที่ซาอุดีอาระเบีย ได้พบบริษัทชั้นนำ SABIC SALIC ARAMCO และ PIF ซึ่งเป็นบริษัทกองทุนบำเหน็ดบำนาญ มีเงินลงทุนเจ็ดแสนล้านเหรียญ ซึ่งทุกบริษัทสนใจมาลงทุน โดยรัฐบาลนี้มีนโยบายที่จะเลี้ยงโคไปขายต่างประเทศ เนื่องจากมีความต้องการ บรูไน มาเลเซีย ซาอุดีอาระเบีย ทุกประเทศมีความต้องการโค รัฐบาลจึงต้องพัฒนาแผนงานระยะกลางระยะยาว เพิ่มรายได้เกษตรกร ให้มีรายได้มากขึ้น 3 เท่า ภายใน 4 ปี ไม่ใช่แค่เพิ่มราคา แต่พัฒนาอาชีพด้วย การพักหนี้เป็นการเยียวยาจิตใจ ให้มีขวัญและกำลังใจ มีแรงประกอบอาชีพที่เสริมรายได้มากขึ้น พัฒนาความเป็นอยู่
.
8. นายกรัฐมนตรีเป็นเซลล์แมน และต้องการมีฐานการผลิตที่ดี ซึ่งต้องมีนโยบายด้านการลงทุนที่ดีด้วย BOI เป็นหน่วยงานที่ดีให้ความสำคัญกับการลงทุน มีนโยบายที่ดี แข่งขันได้ เพื่อสนับสนุนการลงทุน สร้างโรงงานและยกระดับอุตสาหกรรมไทยได้
.
9. นายกรัฐมนตรียืนยันว่า รัฐบาลนี้จะลงมือโครงการ Landbridge เพื่อยกระดับ Logistics ให้ไทยเป็น Logistics Hub ระดับโลก เชื่อว่าจะเป็นการเพิ่มโอกาส เชื่อว่าการลงทุนนี้จะเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ เพื่อสร้างศักยภาพการแข่งขันให้คนไทย ซึ่งที่กล่าวมาทั้งหมดไม่ใช่ประชานิยมอย่างเดียว แต่ต้องการถ่าง K Shape ระหว่างคนมีและคนไม่มี (Those who have and those who doesn’t have) เป็นเรื่องที่ต้องช่วยกันสนับสนุน นโยบายการเงินการคลังไม่ใช่ระวังวินัย แต่ต้องตอบโจทย์พี่น้องประชาชน ยกระดับชีวิตประชาชนโดยคำนึงถึงวินัยทางการเงินการคลัง รัฐบาลรับฟังตระหนักถึงสถานภาพอย่างดี อยากให้เดินไปข้างหน้าด้วยเสถียรภาพ และต้องยกระดับประชาชนให้ได้เพื่อแก้ปัญหาความเลื่อมล้ำของเศรษฐฐานะ ปัญหาหลายอย่างเกิดจากความเหลื่อมล้ำ ซึ่งรัฐบาลต้องกระตุ้นให้ตรงจุด มีแนวทางชัดเจน
.
10. “ต้องการให้คนรุ่นใหม่มีขวัญกำลังใจ เชื่อว่าเป็นหน้าที่ของรัฐบาล เป็นหน้าที่ของเอกชน เป็นหน้าที่ของทุกคนที่นั่งอยู่ที่นี้ ขอให้ช่วยกัน รัฐบาลมีการดำเนินการในหลายประเด็นทางสังคม ทั้งการสมรสเท่าเทียม การสมัครใจเกณฑ์ทหาร ทำให้เขามีสิทธิ์เสรีภาพในการเลือก รัฐบาลไม่ได้โฟกัสเรื่องของเศรษฐกิจอย่างเดียว รัฐบาลโฟกัสที่จิตใจของทุกๆ คน ยืนยันว่าจะพยายามไม่อยู่บนความขัดแย้ง และเชื่อว่าหลายๆ ท่านเป็นกำลังใจให้รัฐบาล หากมีข้อสงสัยและก็ไม่มั่นใจในทิศทางที่รัฐบาล ถือเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องชี้แจงและอธิบายให้ดีที่สุดเท่าที่สามารถจะทำได้ รัฐบาลจะไม่เหน็ดเหนื่อยกับการอธิบายให้ประชาชนเข้าใจว่า ทำไมเราต้องทำ” นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำ
.
11. นายกรัฐมนตรี ย้ำว่าเชื่อว่าทุกคนเป็นกำลังใจให้รัฐบาล ที่รัฐบาลมายืนอยู่ตรงนี้ เพื่อต้องการที่จะยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยทุกคนให้มีความเป็นอยู่ที่ดี ขึ้นในทุกๆมิติ รัฐบาลตั้งใจที่จะทำทุกวิถีทาง เพื่อช่วยทั้ง K ด้านบน และ K ด้านล่าง ซึ่งด้านล่างจะต้องมีชีวิตที่ดีขึ้น รายได้ดีขึ้น ค่าใช้จ่ายลดลง และมีโอกาสในการใช้ชีวิต ส่วนด้านบนจะต้องได้รับการส่งเสริมให้เป็นกำลังสำคัญในการผลักดันให้ประเทศเจริญเติบโตต่อไปได้
ที่มา : เพจพรรคเพื่อไทย
Facebook Comments